The Need to ReformWhy It Is Time to

The Need to Reform
Why It Is Time to Overhaul the Thai Bureaucracy

Bureaucratic reform first occurred in Thailand during the reign of King Rama V when the Thai civil service was divided into ministries and departments at the central and provincial levels. Since then, all governments have attempted to continuously reform the Thai bureaucracy which has significantly expanded. The size of the system and its deep-rooted problems led to a new round of bureaucratic reform in 2002 before another reform was initiated in 2014 as part of the government’s national reform campaign.

The need to reform the Thai bureaucracy has been reinforced by the Thailand Future Foundation who proposed an urgent reform after it found that the government’s personnel budget increased by almost three folds while the efficiency of the public sector was worsening as well as the problem of corruption. The foundation also sound that the Thai bureaucracy lagged behind in many ways and needed to keep up with the world.

The need to reform the Thai bureaucracy has been reinforced by the Thailand Future Foundation who proposed an urgent reform after it found that the government’s personnel budget increased by almost three folds while the efficiency of the public sector was worsening as well as the problem of corruption. The foundation also sound that the Thai bureaucracy lagged behind in many ways and needed to keep up with the world.
The foundation therefore suggested that bureaucratic reform should be considered as one of the most important issues of the government. It stressed that bureaucratic reform should take place urgently since bureaucracy was an important drive to make reform in other fields successful. The foundation further suggested that now was a good opportunity to reform the Thai bureaucracy since as high as 40% of civil servants will retire in the next 15 years.

Apart from the Thailand Future Foundation, a World Bank survey found that the Thai public sector’s rank in terms of efficiency dropped from 65th ten years ago to 74th among 196 countries. Another survey by the World Economic Forum conducted with businessmen from 2008-2013 showed that inefficiency of the public sector was one of the five factors obstructing their businesses in Thailand.

Spearheaded by the Prime Minister’s Office, the 2014 bureaucratic reform seeks to provide better service for the people and close loopholes that can lead to corruption. What sets this bureaucratic reform apart from its predecessors is that all 20 ministries work together side by side and integrate their reform-related projects.

Permanent-Secretary for the Prime Minister’s Office M.L. Panadda Diskul has delivered the government’s bureaucratic reform policy, one of the urgent tasks of the government of Prime Minister Prayut Chan-o-cha. According to the official, all government units and state enterprises are required to work towards the goals of:

1. Ensuring quality services for the public.
2. Developing their organizations so that all civil servants work with professionalism and responsibility for the society.
3. Increasing the efficiency of their human resources management.
4. Using a management system that integrates central, provincial and local departments.
5. Strengthening relations between the government and private sectors with a focus on the public participation.
6. Increasing transparency based on the principle of good governance.
7. Furthering the “Under the Royal Graciousness” project.
8. Preparing Thai civil servants for the ASEAN Economic Community.
The bureaucratic reform by the Prayut Chan-o-cha administration is expected to show some progress from October 2014 onwards.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จำเป็นต้องปฏิรูปทำไมถึงเวลายกเครื่องระบบราชการไทยปฏิรูประบบราชการครั้งแรกเกิดขึ้นในประเทศไทยในรัชสมัยพระจุลจอมเกล้าเมื่อพลเรือนไทยแบ่งออกเป็นหน่วยราชการและหน่วยงานในระดับส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค หลังจากนั้น ทุกรัฐบาลได้พยายามที่จะปฏิรูประบบราชการไทยซึ่งมีขยายอย่างมากอย่างต่อเนื่อง ขนาดของระบบและปัญหาหยั่งรากลึกนำไปรอบใหม่ของการปฏิรูประบบราชการในปี 2002 ก่อนปฏิรูปอื่นเริ่มในปี 2557 เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการปฏิรูปแห่งชาติของรัฐบาลจำเป็นต้องปฏิรูประบบราชการไทยมีการเสริมแรง โดยมูลนิธิอนาคตประเทศไทยที่นำเสนอการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนหลังจากที่มันพบว่า งบประมาณบุคลากรภาครัฐเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าด้วยในขณะที่ประสิทธิภาพของภาครัฐคือเลวลงเช่นเดียวกับปัญหาของการทุจริต มูลนิธิยังเสียงว่า ระบบราชการไทย lagged เบื้องหลังมากมาย และต้องให้ทันกับโลกจำเป็นต้องปฏิรูประบบราชการไทยมีการเสริมแรง โดยมูลนิธิอนาคตประเทศไทยที่นำเสนอการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนหลังจากที่มันพบว่า งบประมาณบุคลากรภาครัฐเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าด้วยในขณะที่ประสิทธิภาพของภาครัฐคือเลวลงเช่นเดียวกับปัญหาของการทุจริต มูลนิธิยังเสียงว่า ระบบราชการไทย lagged เบื้องหลังมากมาย และต้องให้ทันกับโลก มูลนิธิจึงแนะนำว่า ปฏิรูประบบราชการควรเป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาลอย่างหนึ่ง มันเน้นที่การปฏิรูประบบราชการควรเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนตั้งแต่ระบบราชการสำคัญไดรฟ์เพื่อให้การปฏิรูปในสาขาอื่น ๆ ประสบความสำเร็จ มูลนิธิเพิ่มเติมแนะนำว่า ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีในการปฏิรูประบบราชการไทยตั้งแต่สูง 40% ของข้าราชการที่จะเกษียณอายุในอีก 15 ปีนอกเหนือจากรากฐานอนาคตของประเทศไทย การสำรวจของธนาคารโลกพบว่า ลำดับที่ของภาครัฐไทยในแง่ของประสิทธิภาพที่ลดลงจาก 65th สิบปีไปถึง 74 196 ประเทศ สำรวจอีก โดยเศรษฐกิจที่ดำเนินการกับนักธุรกิจจาก 2008-2013 แสดงให้เห็นว่า ขาดประสิทธิภาพภาครัฐหนึ่งห้าปัจจัยที่ขัดขวางธุรกิจของพวกเขาในประเทศไทยการปฏิรูประบบราชการ 2014 เป็น โดยสำนักนายกรัฐมนตรี พยายามที่จะให้บริการที่ดีสำหรับคน และปิดช่องโหว่ที่อาจทำให้เสียหาย สิ่งที่ทำนี้ปฏิรูประบบราชการแตกต่างจากรุ่นก่อนของคือ พันธกิจทั้งหมด 20 ทำงานร่วมกันด้าน และบูรณาการโครงการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูป-ปลัดนายกรัฐมนตรี Office ม.ล.ปนัดดาดิศกุลได้จัดส่งนโยบายปฏิรูประบบราชการของรัฐบาล งานเร่งด่วนของรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี Prayut จัง-o-ชะอำ ตามทาง ทุกหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจจะต้องทำงานต่อเป้าหมาย: 1. ให้บริการสำหรับประชาชน 2. พัฒนาองค์กรของตนเพื่อให้ข้าราชการทั้งหมดทำงาน ด้วยความเป็นมืออาชีพและรับผิดชอบต่อสังคม 3. เพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการทรัพยากรมนุษย์ 4. ใช้ระบบการจัดการที่รวมหน่วยงานภาคกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น 5. เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยมุ่งเน้นประชาชนมีส่วนร่วม 6. ใช้หลักการของธรรมาภิบาลความโปร่งใสเพิ่มมากขึ้น 7. การต่อยอดโครงการ "ภายใต้เดอะรอยัลจน" 8. เตรียมความพร้อมข้าราชการไทยสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การปฏิรูประบบราชการ โดยการดูแล Prayut จัง-o-ชะอำคาดว่าจะแสดงความคืบหน้าบางจาก 2557 ตุลาคมเป็นต้นไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จำเป็นที่จะต้องปฏิรูป
ทำไมมีเวลาที่จะยกเครื่องระบบราชการไทยการปฏิรูประบบราชการที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อข้าราชการพลเรือนไทยแบ่งออกเป็นกระทรวงและหน่วยงานในระดับส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตั้งแต่นั้นมาทุกรัฐบาลมีความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อการปฏิรูประบบราชการไทยที่มีการขยายอย่างมีนัยสำคัญ ขนาดของระบบและปัญหาที่หยั่งรากลึกของมันนำไปสู่รอบใหม่ของการปฏิรูประบบราชการในปี 2002 ก่อนที่จะมีการปฏิรูปอื่นได้ริเริ่มขึ้นในปี 2014 เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์การปฏิรูปของรัฐบาลแห่งชาติ. จำเป็นที่จะต้องปฏิรูประบบราชการไทยที่ได้รับการเสริมด้วยประเทศไทย มูลนิธิอนาคตที่เสนอการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนหลังจากที่พบว่ารัฐบาลของงบประมาณบุคลากรเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในขณะที่ประสิทธิภาพของภาครัฐก็เลวลงเช่นเดียวกับปัญหาของการทุจริต มูลนิธิยังเสียงว่าระบบราชการไทยล้าหลังในหลายวิธีและจำเป็นเพื่อให้ทันกับโลก. จำเป็นที่จะต้องปฏิรูประบบราชการไทยที่ได้รับการเสริมด้วยประเทศไทยมูลนิธิอนาคตที่เสนอการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนหลังจากที่พบว่ารัฐบาลของงบประมาณบุคลากร เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในขณะที่ประสิทธิภาพของภาครัฐก็เลวลงเช่นเดียวกับปัญหาของการทุจริต มูลนิธิยังเสียงว่าระบบราชการไทยล้าหลังในหลายวิธีและจำเป็นเพื่อให้ทันกับโลก. มูลนิธิจึงชี้ให้เห็นว่าการปฏิรูประบบราชการควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล มันเน้นว่าการปฏิรูประบบราชการควรจะเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนเนื่องจากระบบราชการเป็นไดรฟ์ที่สำคัญที่จะทำให้การปฏิรูปในสาขาอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จ มูลนิธิต่อไปชี้ให้เห็นว่าขณะนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะปฏิรูประบบราชการไทยตั้งแต่ปีสูงถึง 40% ของข้าราชการจะเกษียณอายุใน 15 ปีข้างหน้า. นอกเหนือจากมูลนิธิอนาคตประเทศไทยจากการสำรวจของธนาคารทั่วโลกพบว่าอันดับของหน่วยงานภาครัฐของไทย ในแง่ของประสิทธิภาพลดลงจาก 65 สิบปีที่ผ่านมาที่ 74 หมู่ 196 ประเทศ สำรวจอื่นโดยการประชุม World Economic Forum ดำเนินการกับนักธุรกิจจาก 2008-2013 แสดงให้เห็นว่าการขาดประสิทธิภาพของภาครัฐเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ห้าขัดขวางธุรกิจของพวกเขาในประเทศไทย. นำทีมโดยสำนักงานนายกรัฐมนตรี, 2014 การปฏิรูประบบราชการพยายามที่จะให้บริการที่ดีขึ้นสำหรับ ผู้คนและช่องโหว่ใกล้ที่สามารถนำไปสู่การทุจริต สิ่งที่ชุดนี้การปฏิรูประบบราชการนอกเหนือจากรุ่นก่อนคือว่าทั้ง 20 กระทรวงที่ทำงานเคียงกันโดยด้านข้างและบูรณาการโครงการปฏิรูปที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา. ปลัดสำหรับสำนักนายกรัฐมนตรี ML ปนัดดาดิศกุลได้มอบนโยบายการปฏิรูประบบราชการของรัฐบาลส่วนหนึ่งของการเร่งด่วน งานของรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีประยุทธ์จันทร์โอชา ตามที่อย่างเป็นทางการทุกหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจจะต้องทำงานต่อเป้าหมายของ: 1 สร้างความมั่นใจในบริการที่มีคุณภาพสำหรับประชาชนที่. 2 การพัฒนาองค์กรของพวกเขาเพื่อให้ข้าราชการทุกคนทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพและความรับผิดชอบต่อสังคม. 3 การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของพวกเขา. 4 โดยใช้ระบบการจัดการที่บูรณาการกลางจังหวัดและท้องถิ่นหน่วยงาน. 5 การเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน. 6 เพิ่มความโปร่งใสบนพื้นฐานของหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี. 7 ต่อไปว่า "ภายใต้พระราชพระมหากรุณา" โครงการ. 8 การเตรียมความพร้อมข้าราชการไทยสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. การปฏิรูประบบราชการโดยประยุทธบริหาร Chan-O-Cha คาดว่าจะแสดงความคืบหน้าจากปี 2014 เป็นต้นไปเดือนตุลาคม