Storyboarding as an ArtStoryboard =

Storyboarding as an Art

Storyboard = Blueprint. Got it. But what about the "art" of storyboarding? Art here doesn't refer to being artistic, but rather, the deliberate, thoughtful manner in which you go about it. The "art of cooking" doesn't necessarily mean being trained at a prestigous culinary school and understanding the science behind the ingredients, but having a good practical sense of how to execute basic tasks, knowing how to blend flavors, and being attentive to the presentation - the plating. Similarly, the art of storyboarding is blending all the content, assets, instruction, and navigation in a logical, easy-to-understand document or set of documents. The storyboard is now a working blueprint for one person or a team as well as a way to record the overall project for future maintenance.

The word "art" also means there are no rules. (Yay! No rules!) Well, there are some rules but essentially this means there is no right or wrong way to storyboard a project. Each project dictates what needs to be accomplished, and each company or team has its own internal cultural language. The point is to have documentation that outlines and/or maps the flow instruction. So the art in storyboarding is as much the creative design process as is the eLearning course itself. The more time you devote to the storyboard, the less time is needed for development.

Pulling from Wikipedia sources, a basic definition of "storyboarding" is given as "the process of visual thinking displayed in sequence." As we write the instructional design we must also think visually how it will be displayed on screen. At the same time we need to keep a conscious thought to the "sequence" in order to ensure good instructional flow.

At a minumum there should be at least two documents, one for instructional design and one for visual design. Since we're talking about art, there is no reason to debate whether one should storyboard the instructional design of a course first and then visually design it or vice versa. Remember, it's a process, not a rule. If you work solo, you may do these simutaneously. If you work on a team, one may be assigned the instructional design work while others are responsible for the visual layout. In either case, it is imperative that everyone is in sync with the overall design. And that design is documented in a storyboard.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Storyboarding เป็นศิลปะเรื่องราว =พิมพ์เขียว เข้าใจแล้ว แต่สิ่งที่เกี่ยวกับ "ศิลปะ" ของ storyboarding ศิลปะที่นี่ไม่ถึงมีศิลปะ แต่ค่อนข้าง รอบคอบ เด่นอย่างคุณไปเกี่ยวกับมัน "ศิลปะการทำอาหาร" ไม่จำเป็นต้องหมายถึง การฝึกอบรมที่โรงเรียนทำอาหาร prestigous และความเข้าใจวิทยาศาสตร์เบื้องหลังส่วนผสม แต่มีวิธีการดำเนินงานพื้นฐานปฏิบัติรู้สึกดี รู้วิธีการผสมผสานรสชาติ และการเอาใจใส่ในงานนำเสนอ - การชุบ ในทำนองเดียวกัน ศิลปะของ storyboarding จะผสมผสานทั้งเนื้อหา สินทรัพย์ สอน และนำทางในเอกสารเชิงตรรกะ การ เข้าใจง่ายหรือชุดของเอกสาร กระดานเรื่องราวเป็นพิมพ์เขียวทำงานคนเดียว หรือทีม ตลอดจนวิธีการบันทึกโครงการโดยรวมสำหรับการบำรุงรักษาในอนาคตคำว่า "ศิลปะ" ยังหมายความว่า ไม่มีกฎ (เย่ ไม่กฎ) ดี มีกฎบางอย่าง แต่หลักว่า จะมีวิธีไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกต้องการโครงการกระดานเรื่องราว แต่ละโครงการบอกว่า จำเป็นต้องทำให้สำเร็จ และแต่ละบริษัทหรือกลุ่มคนที่มีภาษาวัฒนธรรมภายในตนเอง จุดจะมีเอกสารที่สรุป และ/หรือแผนที่คำไหล ดังนั้น ศิลปะใน storyboarding มีมากออกแบบสร้างสรรค์กระบวนการเป็นหลักสูตรบทความตัวเอง โดยคุณอุทิศไปราว น้อยลงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาดึงจากแหล่งวิกิพีเดีย คำจำกัดความพื้นฐานของ "storyboarding" ให้เป็น "กระบวนการคิดที่แสดงในลำดับภาพ" ขณะที่เราเขียนออกแบบการเรียนการสอน เราต้องยังคิดเห็นว่าจะแสดงบนหน้าจอ ขณะเดียวกัน เราจำเป็นต้องเก็บความคิดสติ "ลำดับ" เพื่อให้ขั้นตอนการจัดการเรียนการสอนที่ดีที่จะมี ควรมีเอกสารน้อยสอง การออกแบบการสอน และการออกแบบภาพ เนื่องจากเรากำลังพูดถึงศิลปะ มีเหตุผลที่ต้องอภิปรายว่าควรกระดานเรื่องราวการออกแบบจัดการเรียนการสอนหลักสูตรแรกแล้ว สายตาออกแบบได้ หรือในทางกลับกัน จำ กระบวนการ กฎไม่เป็น ถ้าคุณทำงานโซโล คุณอาจ simutaneously เหล่านี้ ถ้าคุณทำงานเป็นทีม หนึ่งอาจถูกกำหนดให้ใช้งานการออกแบบการสอนในขณะที่คนอื่นชอบภาพโครงร่าง ในกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง มันเป็นความจำเป็นที่ทุกคนจะสอดรับการออกแบบโดยรวม และการออกแบบที่เป็นเอกสารในเรื่องราว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สตอรี่บอร์ดเป็นศิลปะStoryboard = พิมพ์เขียว ได้รับมัน แต่สิ่งที่เกี่ยวกับ "ศิลปะ" ของสตอรี่บอร์ด? ศิลปะที่นี่ไม่ได้หมายถึงการเป็นศิลปะ แต่การพิจารณาอย่างรอบคอบในการที่คุณจะไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า "ศิลปะการปรุงอาหาร" ไม่ได้หมายความว่าได้รับการฝึกที่โรงเรียนสอนทำอาหาร prestigous และความเข้าใจวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังส่วนผสม แต่มีความรู้สึกในทางปฏิบัติที่ดีของวิธีการดำเนินงานขั้นพื้นฐานรู้วิธีการผสมผสานรสชาติและความใส่ใจกับ นำเสนอ - ชุบ ในทำนองเดียวกันศิลปะของสตอรี่บอร์ดที่มีการผสมเนื้อหาทั้งหมดสินทรัพย์การเรียนการสอนและการนำทางในตรรกะเอกสารที่ง่ายต่อการเข้าใจหรือชุดของเอกสาร กระดานเรื่องราวตอนนี้ก็เป็นพิมพ์เขียวในการทำงานสำหรับคนคนหนึ่งหรือทีมเช่นเดียวกับวิธีการที่จะบันทึกโครงการโดยรวมสำหรับการบำรุงรักษาในอนาคต. คำว่า "ศิลปะ" ยังหมายถึงการมีกฎไม่ (เย้! ไม่มีกฎ!) ดีมีกฎบางอย่าง แต่เป็นหลักหมายถึงนี้ไม่มีทางที่ถูกหรือผิดที่กระดานเรื่องราวโครงการ แต่ละโครงการจะสั่งการสิ่งที่จะต้องประสบความสำเร็จและแต่ละ บริษัท หรือทีมงานที่มีภาษาวัฒนธรรมของตัวเองภายใน ประเด็นก็คือจะมีเอกสารที่แสดงและ / หรือแผนที่การเรียนการสอนการไหล ดังนั้นศิลปะในสตอรี่บอร์ดเป็นมากขั้นตอนการออกแบบความคิดสร้างสรรค์เป็นเป็นหลักสูตร eLearning ตัวเอง เวลาที่คุณทุ่มเทให้กระดานที่ใช้เวลาน้อยลงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนา. ดึงมาจากแหล่งข้อมูลวิกิพีเดียที่มีความละเอียดพื้นฐานของ "สตอรี่บอร์ด" จะได้รับเป็น "กระบวนการของการคิดการมองเห็นที่แสดงอยู่ในลำดับ." ในฐานะที่เราเขียนการออกแบบการเรียนการสอนเรายังต้องคิดว่าการมองเห็นวิธีการที่จะปรากฏบนหน้าจอ ในขณะเดียวกันเราต้องให้ความคิดที่ใส่ใจกับ "ลำดับ" ในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าการไหลของการเรียนการสอนที่ดี. ที่ minumum ควรจะมีอย่างน้อยสองเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งในการออกแบบการเรียนการสอนและหนึ่งสำหรับการออกแบบภาพ เนื่องจากเรากำลังพูดถึงศิลปะมีเหตุผลที่จะอภิปรายว่าหนึ่งควรกระดานเรื่องราวการออกแบบการเรียนการสอนของหลักสูตรแรกและจากนั้นการออกแบบทางสายตาหรือในทางกลับกันไม่มี จำไว้ว่ากระบวนการไม่ได้เป็นกฎ ถ้าคุณทำงานเดี่ยวของคุณอาจทำสิ่งเหล่านี้ simutaneously ถ้าคุณทำงานในทีมคนหนึ่งอาจจะมอบหมายงานออกแบบการเรียนการสอนขณะที่คนอื่นมีความรับผิดชอบในการจัดวางภาพ ในทั้งสองกรณีมีความจำเป็นที่ทุกคนในซิงค์กับการออกแบบโดยรวม และการออกแบบที่มีการบันทึกไว้ในกระดาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โครงเรื่องเป็นศิลปะ

เรื่องราว = พิมพ์เขียว เข้าใจแล้ว แต่สิ่งที่เกี่ยวกับ " ศิลปะ " ของโครงเรื่อง ? ศิลปะที่นี่ไม่ได้ดูเป็นศิลปะ แต่เป็น , สุขุม , รอบคอบวิธีที่คุณไปเกี่ยวกับมัน " ศิลปะของการปรุงอาหาร " ไม่ได้หมายความว่าการฝึกที่ prestigous โรงเรียนสอนทำอาหารและเข้าใจวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังวัสดุแต่มีความรู้สึกที่ดีในทางปฏิบัติของวิธีการดําเนินงานพื้นฐาน รู้วิธีการผสมผสานรสชาติ และการใส่ใจกับการนำเสนอ - ชุบ ส่วนศิลปะของโครงเรื่อง คือการผสมเนื้อหาทั้งหมด ทรัพย์สิน การสอน และการเดินเรือในตรรกะและง่ายต่อการเข้าใจเอกสารหรือชุดของเอกสารStoryboard คือตอนนี้ทำงานพิมพ์เขียวสำหรับหนึ่งคนหรือทีมงาน ตลอดจนวิธีที่จะบันทึกโครงการโดยรวมสำหรับการบำรุงรักษาในอนาคต

คำว่า " ศิลปะ " ก็หมายถึง ไม่มีกฏ ( เย้ ! ไม่มีกฎ ! มันเป็นกฎ แต่หลักนี้หมายความว่าไม่มีทางที่ถูกหรือผิดใน Storyboard โครงการ แต่ละโครงการต้องการอะไรต้องได้และแต่ละ บริษัท หรือทีมงานมีภาษาของตนเอง วัฒนธรรมภายใน ประเด็นคือ ต้องมีเอกสารที่สรุป และ / หรือ แผนที่การไหลของการสอน ดังนั้น ศิลปะในการเขียนบทมากการออกแบบสร้างสรรค์กระบวนการเป็น eLearning หลักสูตรเอง ยิ่งเวลาที่คุณทุ่มเทให้เรื่องราว น้อยกว่าเวลาที่จำเป็นสำหรับการพัฒนา

ดึงจากแหล่งข้อมูลวิกิพีเดียเป็นนิยามของ " โครงเรื่อง " จะได้รับเป็น " กระบวนการคิดภาพที่แสดงในลำดับ " ที่เราเขียนออกแบบการสอนเรายังต้องคิด มองเห็นว่ามันจะถูกแสดงบนหน้าจอ ในเวลาเดียวกัน เราต้องเก็บความคิดมีสติ " ลำดับ " ในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าการสอนดี

ที่ minumum ควรจะมีอย่างน้อยสองเอกสารสำหรับการออกแบบการสอนและหนึ่งสำหรับการออกแบบภาพ เมื่อเราพูดถึง ศิลปะ ไม่มีเหตุผลในการอภิปรายว่า ควรทำสตอรี่บอร์ดออกแบบการจัดการเรียนการสอนของหลักสูตรแรกแล้วเห็นการออกแบบ หรือในทางกลับกัน จำไว้ มันเป็นกระบวนการ ไม่ใช่กฎ ถ้าคุณทำงานคนเดียว คุณอาจจะ simutaneously . ถ้าคุณทำงานเป็นทีมหนึ่งอาจได้รับมอบหมายงานออกแบบการสอนในขณะที่คนอื่นมีความรับผิดชอบในรูปแบบภาพ ในทั้งสองกรณี , มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนอยู่ในซิงค์กับการออกแบบโดยรวม และออกแบบเอกสารในการทำสตอรี่บอร์ด