บทบาททางการเมืองตามรัฐธรรมนูญแห่งรา

บทบาททางการเมือง

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระองค์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ จอมทัพไทย และอัครศาสนูปถัมภก และทรงเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่พระองค์ทรงมีบทบาทในการเมืองไทยหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงปี 2530-2540 เป็นที่ทราบกันว่า พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผันประเทศไทยจากระบอบทหารไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และทรงใช้พระราชอำนาจทางศีลธรรมยับยั้งการปฏิวัติและการกบฏหลายช่วงด้วยกัน

ทว่า พระองค์ก็ทรงสนับสนุนระบอบทหารหลายครา ซึ่งในจำนวนนี้ อาทิ สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในช่วงปี 2500-2510 ในรัชสมัยของพระองค์ เกิดการรัฐประหารกว่าสิบห้าครั้ง รัฐธรรมนูญกว่าสิบแปดฉบับ และการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีเกือบสามสิบคน

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2554 กลุ่มนิติราษฎร์จัดการเสวนาวิพากษ์บทบาทกองทัพต่อการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพันเอก อภิวันท์ วิริยะชัย ผู้ร่วมเสวนาคนหนึ่ง ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทุกครั้งที่มีรัฐประหาร หัวหน้าคณะจะได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหัวหน้าคณะ จะเห็นว่าเป็นการเกื้อกูลกันระหว่างกองทัพกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ปี 2490 คณะใดที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้า คณะนั้นก็จะเป็นกบฏ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระองค์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐจอมทัพไทยและอัครศาสนูปถัมภก โดยเฉพาะในช่วงปี 2530-2540 เป็นที่ทราบกันว่า ซึ่งในจำนวนนี้อาทิสฤษดิ์ ธ นะรัชต์ในช่วงปี 2500-2510 ในรัชสมัยของพระองค์เกิดการรัฐประหารกว่าสิบห้าครั้งรัฐธรรมนูญกว่าสิบแปดฉบับ 6 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งพันเอกอภิวันท์วิริยะชัยผู้ร่วมเสวนาคนหนึ่งว่า หัวหน้าคณะจะได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็นหัวหน้าคณะ 2490 คณะใดที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้าคณะนั้นก็จะเป็นกบฏ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทบาททางการเมือง

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพระองค์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐจอมทัพไทยและอัครศาสนูปถัมภกและทรงเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญแต่พระองค์ทรงมีบทบาทในการเมืองไทยหลายครั้งโดยเฉพาะในช่วงปี 2530-2540พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผันประเทศไทยจากระบอบทหารไปสู่ระบอบประชาธิปไตยและทรงใช้พระราชอำนาจทางศีลธรรมยับยั้งการปฏิวัติและการกบฏหลายช่วงด้วยกัน

ทว่าพระองค์ก็ทรงสนับสนุนระบอบทหารหลายคราซึ่งในจำนวนนี้อาทิสฤษดิ์ธนะรัชต์ในช่วงปี 2500-2510 ในรัชสมัยของพระองค์เกิดการรัฐประหารกว่าสิบห้าครั้งรัฐธรรมนูญกว่าสิบแปดฉบับ
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2554 กลุ่มนิติราษฎร์จัดการเสวนาวิพากษ์บทบาทกองทัพต่อการเมืองในระบอบประชาธิปไตยซึ่งพันเอกอภิวันท์วิริยะชัยผู้ร่วมเสวนาคนหนึ่งว่าหัวหน้าคณะจะได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็นหัวหน้าคณะจะเห็นว่าเป็นการเกื้อกูลกันระหว่างกองทัพกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ปี 2490 คณะใดที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้าคณะนั้นก็จะเป็นกบฏ