1.Start to write memos shortly afte

1.Start to write memos shortly after you begin data collection, and continue memo writing until just before the final research report is completed.
2.Put the date on memo entries so that you can see progress and the development of thinking. This will be helpful when rereading long, complicated memos, since you will periodically modify memos as research progresses and add to them.
3.Interrupt coding or data recording to write a memo. Do not wait and let a creative spark or new insight fade away-write it down.
4.Periodically read memos and compare memos on similar codes to see whether they can be combined, or whether differences between codes can be made clearer.
5.Keep a separate file for memos on each concept or theme. All memo writing on that theme or concept is kept together in one file, folder, or notebook. Label it with the name of the concept or theme so it can be located easily. It is important to be able to sort or reorganize memos physically as analysis progresses, so you should be able to sort the memos in some way.
6.Keep analytic memos and data notes separate because they have different purposes. The data are evidence. The analytic memos have a conceptual, theory-building intent. They do not report data, but comment on how data are tied together or how a cluster of data is an instance of a general theme or concept.
7.Refer to other concepts within an analytic memo. When writing a memo, think of similarities to, differences between, or causal relationships to other concepts. Note these in the analytic memo to facilitate later integration, synthesis, and analysis.
8.If two ideas arise at once, put each in a separate memo. Try to keep each distinct theme or concept in a separate memo and file.
9.If nothing new can be added to a memo and you have reached a point of saturation

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1.เริ่มต้นการเขียนบันทึกในไม่ช้าหลัง จากที่คุณเริ่มต้นการเก็บรวบรวมข้อมูล เขียนบันทึกต่อจนกว่าจะเสร็จรายงานก่อนการวิจัยขั้นสุดท้าย2.ใส่วันบันทึกรายการเพื่อให้คุณสามารถดูความคืบหน้าและการพัฒนาความคิด นี้จะมีประโยชน์เมื่อ rereading บันทึกยาว ซับซ้อน เนื่องจากคุณจะปรับเปลี่ยนบันทึกเป็นงานวิจัยดำเนินไปเป็นระยะ ๆ และเพิ่มไป3.ขัดจังหวะรหัสหรือข้อมูลที่บันทึกเพื่อเขียนใบ รอสักครู่ และให้จุดประกายความคิดสร้างสรรค์หรือเข้าใจใหม่ค่อย ๆ เก็บและเขียนมันลง4.เป็นระยะ ๆ อ่านบันทึก และเปรียบเทียบบันทึกรหัสคล้ายสามารถรวมหรือไม่ หรือว่าความแตกต่างระหว่างรหัสได้ชัดเจน5.เก็บแฟ้มแยกต่างหากสำหรับบันทึกในแต่ละแนวคิดหรือรูปแบบ เขียนบันทึกทั้งหมดในชุดรูปแบบหรือแนวคิดที่จะเก็บไว้ด้วยกัน ในหนึ่งแฟ้ม โฟลเดอร์ โน๊ตบุ๊ค ป้ายจะ มีชื่อของแนวคิดหรือรูปแบบเพื่อให้สามารถอยู่ได้อย่างง่ายดาย เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สามารถเรียงลำดับ หรือจัดบันทึกทางกายภาพเป็นวิเคราะห์ดำเนินไป ดังนั้นคุณควรจะเรียงลำดับบันทึกในบางวิธี6.บันทึกโกดังเก็บ และบันทึกข้อมูลแยกต่างหากเนื่องจากมีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน ข้อมูลหลักฐานได้ บันทึกการสร้างมีเจตนา สร้างทฤษฎี แนวคิด นอกจากนี้พวกเขาไม่รายงานข้อมูล แต่คิดว่าข้อมูลเชื่อมโยงกันหรือวิธีคลัสเตอร์ข้อมูลคือ ตัวอย่างของชุดรูปแบบทั่วไปหรือแนวคิด7.หมายถึงแนวคิดอื่น ๆ ในการบันทึกคู่ เมื่อเขียนใบ คิดถึงความคล้ายคลึงกับ แตก หรือความสัมพันธ์เชิงสาเหตุกับแนวคิดอื่น ๆ หมายเหตุในบันทึกโกดังเพื่อรวมในภายหลัง การสังเคราะห์ และการวิเคราะห์8.ถ้าความคิดที่สองเกิดขึ้นในครั้งเดียว ใส่ในบันทึกแยกแต่ละ พยายามให้แต่ละรูปแบบแตกต่างกันหรือแนวคิดในการแยกบันทึกและแฟ้ม9.ถ้าไม่มีอะไรใหม่สามารถเพิ่มลงในใบบันทึก และถึงจุดอิ่มตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1.Start ที่จะเขียนบันทึกช่วยจำไม่นานหลังจากที่คุณเริ่มต้นการเก็บรวบรวมข้อมูลและดำเนินการต่อการเขียนบันทึกจนกว่าจะถึงรายงานการวิจัยขั้นสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.
2. แนบวันที่บันทึกรายการเพื่อให้คุณสามารถดูความคืบหน้าและการพัฒนาความคิด นี้จะเป็นประโยชน์เมื่อ rereading ยาวบันทึกช่วยจำที่มีความซับซ้อนเนื่องจากคุณเป็นระยะ ๆ จะแก้ไขบันทึกการวิจัยดำเนินการและเพิ่มให้กับพวกเขา.
3.Interrupt การเข้ารหัสหรือบันทึกข้อมูลในการเขียนบันทึก ไม่ต้องรอและให้จุดประกายความคิดสร้างสรรค์หรือความเข้าใจใหม่จางหายไปเขียนมันลง.
4.Periodically อ่านบันทึกและเปรียบเทียบบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับรหัสที่คล้ายกันเพื่อดูว่าพวกเขาสามารถนำมารวมกันหรือไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างระหว่างรหัสสามารถทำชัดเจน.
5.Keep ไฟล์ที่แยกต่างหากสำหรับบันทึกในแต่ละแนวคิดหรือรูปแบบ การเขียนบันทึกทั้งหมดในรูปแบบหรือแนวคิดที่จะถูกเก็บไว้ด้วยกันในไฟล์โฟลเดอร์หรือโน๊ตบุ๊ค ป้ายมันมีชื่อของแนวคิดหรือรูปแบบเพื่อที่จะสามารถอยู่ได้อย่างง่ายดาย มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถที่จะเรียงลำดับหรือจัดระเบียบบันทึกช่วยจำทางร่างกายเช่นการวิเคราะห์ความคืบหน้าดังนั้นคุณควรจะสามารถที่จะเรียงลำดับบันทึกช่วยจำในบางวิธี.
6.Keep บันทึกวิเคราะห์และบันทึกข้อมูลที่แยกเพราะพวกเขามีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ข้อมูลที่เป็นหลักฐาน บันทึกช่วยจำการวิเคราะห์มีความคิดความตั้งใจที่จะสร้างทฤษฎี พวกเขาไม่ได้รายงานข้อมูล แต่แสดงความคิดเห็นในวิธีการที่ข้อมูลมีการเชื่อมโยงเข้าด้วยกันหรือว่ากลุ่มของข้อมูลเป็นตัวอย่างของรูปแบบทั่วไปหรือแนวคิด.
7.Refer กับแนวคิดอื่น ๆ ในบันทึกการวิเคราะห์ เมื่อมีการเขียนบันทึกคิดว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับความแตกต่างระหว่างหรือความสัมพันธ์เชิงสาเหตุกับแนวคิดอื่น ๆ หมายเหตุเหล่านี้ในการบันทึกการวิเคราะห์เพื่อความสะดวกในการรวมภายหลังการสังเคราะห์และการวิเคราะห์.
8.If สองความคิดที่เกิดขึ้นในครั้งเดียวใส่ในแต่ละบันทึกแยกต่างหาก พยายามที่จะให้แต่ละรูปแบบที่แตกต่างกันหรือแนวคิดในการบันทึกแยกต่างหากและไฟล์.
9.If ไม่มีอะไรใหม่สามารถเพิ่มบันทึกและคุณได้มาถึงจุดของความอิ่มตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . เริ่มเขียนบันทึกหลังจากที่คุณเริ่มต้นเก็บรวบรวมข้อมูล และยังคงเขียนบันทึกจนกระทั่งก่อนรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์เสร็จ .
2.put วันที่บันทึกรายการเพื่อให้คุณสามารถเห็นความคืบหน้าและการพัฒนาของการคิด นี้จะเป็นประโยชน์เมื่อมีการอ่านข้อความยาว ซับซ้อน ตั้งแต่คุณเป็นระยะ ๆ จะแก้ไขบันทึกเป็นการดําเนินการวิจัยและเพิ่มพวกเขา .
3รบกวนเขียนหรือบันทึกข้อมูลเพื่อเขียนบันทึก ไม่รอให้จุดประกายสร้างสรรค์หรือใหม่ลึกจางหายไปเขียนลง .
4.periodically อ่านบันทึกและเปรียบเทียบบันทึกในรหัสที่คล้ายกันเพื่อดูว่าพวกเขาสามารถรวมหรือความแตกต่างระหว่างรหัสสามารถทำให้ชัดเจน .
5.keep แฟ้มแยกต่างหากสำหรับบันทึกในแต่ละแนวคิดหรือรูปแบบทั้งหมดที่เขียนบันทึกในหัวข้อหรือแนวคิดไว้ด้วยกันในหนึ่งไฟล์ โฟลเดอร์ หรือโน๊ตบุ๊ค ป้ายชื่อกับชื่อของความคิดเพื่อให้สามารถอยู่ได้อย่างง่ายดายหรือชุดรูปแบบ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถจัดการหรือจัดระเบียบบันทึกทางกายที่การวิเคราะห์ ดังนั้นคุณควรจะสามารถจัดเรียงบันทึก ในบางวิธี วิเคราะห์และบันทึกข้อมูล
6.keep บันทึกแยกต่างหาก เพราะพวกเขามีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันข้อมูลที่มีหลักฐาน การบันทึกแบบมีความคิด , เจตนาการสร้างทฤษฎี พวกเขาไม่ต้องรายงานข้อมูล แต่ความเห็นเกี่ยวกับวิธีการที่ข้อมูลถูกมัดหรือกลุ่มของข้อมูลที่เป็นตัวอย่างของชุดรูปแบบทั่วไปหรือแนวคิด .
7.refer แนวคิดอื่น ๆ ในการบันทึก วิเคราะห์ เมื่อเขียนบันทึก นึกถึงความเหมือน , ความแตกต่างระหว่าง , หรือความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ กับแนวคิดอื่น ๆบันทึกนี้ในบันทึก วิเคราะห์ เพื่อความสะดวกในการรวมภายหลังการวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และ .
8.if สองความคิดเกิดขึ้นครั้งเดียว ใส่ในแต่ละบันทึกที่แยกต่างหาก พยายามให้แต่ละธีมที่แตกต่างกันหรือแนวคิดในการบันทึกแยกต่างหากและไฟล์ .
9.if อะไรใหม่สามารถเพิ่มบันทึกและคุณจะถึงจุดอิ่มตัว