There are a lot of attempts to stud

There are a lot of attempts to study the human responses in hot and humid environments. Epstein et al. [11] studied the effect of different heat loads on vigilance and complex cognitive tasks. 9 subjects were asked to expose to three climatic conditions and shoot at targets of three different sizes randomly. The results indicated that the heat load had no effect on the easy work but had a great effect on the difficult work, in addition, the effect of the task intensity and heat load on deteriorating performance are synergistic. Vangelova et al. [12] investigated the dyslipidemia (abnormal blood lipids) of the industrial workers in hot environments. 102 male industrial workers exposed to heat and a control group of 102 male workers were studied. The results showed that the heat exposed workers run a higher risk of becoming dyslipidemic than the control group. Brake and Bates [13]monitored the deep body core temperatures of 36 industrial workers continuously, and the results indicated that the values regularly exceeded the commonly recommended limits (a temperature of 38.0 °C or an increase of +1 °C) with the average maximum deep body core temperature was 38.3 °C, the maximum temperature rise was 1.4 °C, and the maximum heat storage was 431 kJ. Kalkowsky and Kampmann [14] carried out a study to record the physiological strain of miners. 38 miners were asked to participate during 125 shifts, and the heart rate and rectal temperature were measured continuously. The results showed that the average heart rate and rectal temperature during all shifts were 102.8 beats/min and 37.7 °C, the mean sweat loss per shift was 3436 g and the mean sweat rate was 494 g/h. Saha et al. [15] evaluated the physiological strain of different categories of miners.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีจำนวนมากของความพยายามในการศึกษาการตอบสนองมนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่ร้อน และชื้น สเตียน et al. [11] ศึกษาผลของปริมาณความร้อนที่แตกต่างระมัดระวังและรับรู้งานซับซ้อน หัวข้อที่ 9 ถูกต้องเปิดเผยเงื่อนไข climatic สาม และยิงเป้าหมายขนาดแตกต่างกันสามแบบสุ่ม ผลระบุว่า โหลดความร้อนก็ไม่มีผลต่อการทำงานที่ง่าย แต่ได้ผลดีในการทำงานยาก แห่ง ผลของงานและความร้อนโหลดกำลังทรุดลงประสิทธิภาพพลัง Vangelova et al. [12] ตรวจสอบไขมัน (โครงการเลือดผิดปกติ) ของแรงงานอุตสาหกรรมในสภาพแวดล้อมที่ร้อน มีศึกษา 102 ชายอุตสาหกรรมผู้ปฏิบัติงานสัมผัสกับความร้อนและควบคุมกลุ่มคนชาย 102 ผลพบว่า ความร้อนสัมผัสกับแรงงานที่เสี่ยงสูงของ dyslipidemic มากกว่ากลุ่มควบคุม เบรคและเบตส์ [13] ติดตามอุณหภูมิหลักของร่างกายลึกแรงงานอุตสาหกรรม 36 อย่างต่อเนื่อง และผลลัพธ์บ่งชี้ว่า ค่าประจำเกินขีดจำกัดแนะนำทั่วไป (อุณหภูมิ 38.0 องศาเซลเซียส) หรือการเพิ่ม + 1 ° C มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 38.3 ° C เป็นอุณหภูมิหลักของร่างกายที่ลึก อุณหภูมิสูงสุดที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.4 ° C และเก็บความร้อนสูงสุด 431 kJ Kalkowsky และ Kampmann [14] ดำเนินการศึกษาบันทึกสายพันธุ์สรีรวิทยาของผู้ปฏิบัติงาน 38 ผู้ปฏิบัติถูกต้องมีส่วนร่วมระหว่างกะ 125 และอัตราการเต้นหัวใจและอุณหภูมิไส้ถูกวัดอย่างต่อเนื่อง ผลพบว่า เฉลี่ยอัตราการเต้นหัวใจและอุณหภูมิไส้ระหว่างกะทั้งหมดได้ 102.8 เต้น/min และ 37.7 องศาเซลเซียส การสูญเสียเหงื่อเฉลี่ยต่อกะ 3436 g และอัตราเฉลี่ยเหงื่อถูก h. 494 g al. ร้อยเอ็ดบริษัทสห [15] ประเมินพันธุ์สรีรวิทยาของประเภทต่าง ๆ ของผู้ปฏิบัติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีจำนวนมากของความพยายามที่จะศึกษาการตอบสนองของมนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้นอยู่ เอพสเต et al, [11] การศึกษาผลกระทบของการโหลดความร้อนแตกต่างกันในการเฝ้าระวังและงานองค์ความรู้ที่ซับซ้อน 9 เรื่องที่ถูกถามจะเปิดเผยถึงสามสภาพภูมิอากาศและยิงที่เป้าหมายของสามขนาดที่แตกต่างกันแบบสุ่ม ผลการศึกษาพบว่าภาระความร้อนไม่มีผลต่อการทำงานที่ง่าย แต่มีผลที่ดีในการทำงานที่ยากลำบากในนอกจากนี้ผลของความเข้มงานและภาระความร้อนที่ทวีความรุนแรงในการปฏิบัติงานมีการทำงานร่วมกัน Vangelova et al, [12] การตรวจสอบภาวะไขมันผิดปกติ (ไขมันในเลือดผิดปกติ) ของคนงานอุตสาหกรรมในสภาพแวดล้อมที่ร้อน 102 คนงานชายสัมผัสกับความร้อนและกลุ่มควบคุม 102 คนงานชายมีการศึกษา ผลการศึกษาพบว่าความร้อนสัมผัสแรงงานทำงานมีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็น dyslipidemic กว่ากลุ่มควบคุม เบรคและเบตส์ [13] การตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายแกนลึก 36 คนงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องและผลที่ชี้ให้เห็นว่าค่าสม่ำเสมอเกินขีด จำกัด แนะนำทั่วไป (อุณหภูมิ 38.0 องศาเซลเซียสหรือเพิ่มขึ้น 1 ° C) มีค่าเฉลี่ย อุณหภูมิของร่างกายสูงสุดลึกหลักคือ 38.3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 1.4 องศาเซลเซียสและจัดเก็บความร้อนสูงสุด 431 กิโลจูล Kalkowsky และ Kampmann [14] ดำเนินการศึกษาเพื่อบัน​​ทึกความเครียดทางสรีรวิทยาของคนงานเหมือง 38 คนงานเหมืองถูกถามในการมีส่วนร่วมระหว่าง 125 กะและอัตราการเต้นหัวใจและอุณหภูมิทางทวารหนั​​กถูกวัดอย่างต่อเนื่อง ผลการศึกษาพบว่าอัตราการเต้นหัวใจเฉลี่ยและอุณหภูมิทางทวารหนั​​กในช่วงการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด 102.8 ครั้ง / นาทีและ 37.7 องศาเซลเซียสการสูญเสียเหงื่อเฉลี่ยต่อการเปลี่ยนแปลงเป็น 3,436 กรัมและค่าเฉลี่ยอัตราเหงื่อเป็น 494 กรัม / ชั่วโมง เครือสหพัฒน์, et al [15] การประเมินความเครียดทางสรีรวิทยาของประเภทที่แตกต่างของคนงานเหมือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีความพยายามที่จะศึกษาการตอบสนองของมนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้น . Epstein et al . [ 11 ] ศึกษาผลของระดับความร้อนในการโหลดและงาน การคิดที่ซับซ้อน 9 คนถูกถามเพื่อแสดงถึงสามสภาพอากาศและยิงที่เป้าหมายสามขนาดแตกต่างกันโดยการสุ่มผลการศึกษา พบว่า ภาระความร้อนไม่มีผลต่อการทำงานที่ง่ายแต่ได้ผลดีในงานยาก นอกจากนี้ ผลของงาน ความเข้มและโหลดความร้อนทวีประสิทธิภาพเพิ่ม . vangelova et al . [ 12 ] และภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ ( ไขมันในเลือดผิดปกติ ) ของคนงานในสภาพแวดล้อมที่ร้อนคนงานในอุตสาหกรรม 102 ชายสัมผัสกับความร้อน และกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 3 คน ชาย พบว่า ผลการศึกษาพบว่า คนงานที่สัมผัสความร้อนเรียกความเสี่ยงสูงของการเป็น dyslipidemic มากกว่ากลุ่มควบคุม เบรกและระบบ [ 13 ] การตรวจสอบอุณหภูมิของร่างกายหลักลึก 36 คนงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องและพบว่าค่าปกติเป็นประจำเกินขีดจำกัด ( อุณหภูมิของ 38.0 ° C หรือเพิ่ม 1 ° C ) อุณหภูมิแกนร่างกายลึกเฉลี่ยสูงสุดคือ 38.3 องศา C เพิ่มขึ้นอุณหภูมิสูงสุด 1.4 ° C และกระเป๋าความร้อนสูงสุดเป็นกิโลแล้ว . และ kalkowsky kampmann [ 14 ] ทำการศึกษาบันทึกความเครียดทางสรีรวิทยาของคนงานเหมือง38 ผู้ปฏิบัติถูกขอให้เข้าร่วมใน 125 กะ และอัตราการเต้นของหัวใจ และอุณหภูมิร่างกายถูกวัดอย่างต่อเนื่อง ผลการศึกษาพบว่าค่าเฉลี่ยของอัตราการเต้นของหัวใจ และอุณหภูมิระหว่างกะเป็น 102.8 ครั้ง / นาทีและพบ° C , หมายถึงเหงื่อขาดทุนต่อเปลี่ยน 3436 G และหมายถึงเหงื่อ 494 g / h อัตราสห et al .[ 15 ] ประเมินความเครียดทางสรีรวิทยาของประเภทที่แตกต่างกันของผู้ปฏิบัติ