This case study describes a 40-year

This case study describes a 40-year-old lady with long-standing type 1 diabetes for 37 years. Despite a history of recurrent
hypoglycemia, impaired hypoglycemia awareness and an eating disorder, by changing to continuous subcutaneous insulin
infusion therapy with an insulin pump, in combination with carbohydrate counting, she restored her hypoglycemia awareness
and reduced blood glucose variability. This gave her the confidence to register to run in a marathon but during training
experienced wide fluctuations in blood glucose with frequent hypoglycemia. With continuous glucose monitoring using a
glucose sensor, she was able to undertake a strenuous training programme and subsequently manage her glucose to avoid
hypoglycemia and maintain good control for the duration of the marathon. For some people with type 1 diabetes,
technological advances have provided the capacity to reduce hypoglycemia risk, improve their quality of life, and enable them
to participate in demanding physical activities.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรณีศึกษานี้อธิบายเป็นผู้หญิงอายุ 40 ปีป่วยโรคเบาหวานชนิดยาวนาน 1 ปี แม้ มีประวัติของการเกิดซ้ำภาวะน้ำตาลในเลือด การรับรู้ภาวะน้ำตาลในเลือดลดลง และการ เสพ โดยการเปลี่ยนอินซูลินใต้ผิวหนังอย่างต่อเนื่องรักษาด้วยยากับการปั๊มอินซูลิน ร่วมกับคาร์โบไฮเดรตนับ เธอคืนของเธอรับรู้ภาวะน้ำตาลในเลือดและความแปรปรวนของระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ให้เธอมีความมั่นใจในการลงทะเบียนงาน ในมาราธอน แต่ใน ระหว่างการฝึกอบรมมีประสบการณ์ผันผวนในเลือดกับภาวะน้ำตาลในเลือดบ่อย มีกลูโคสต่อเนื่องตรวจสอบโดยใช้การกลูโคสเซนเซอร์ เธอก็สามารถดำเนินการโปรแกรมการฝึกพลัง และจัดการต่อกลูโคสของเธอเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือด และรักษาควบคุมดีสำหรับระยะเวลาของการวิ่งมาราธอน สำหรับบางคนที่มีโรคเบาหวานประเภท 1ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีความสามารถที่จะลดความเสี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือด เพิ่มคุณภาพชีวิต และช่วยให้พวกเขาเข้าร่วมในฐานกิจกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรณีศึกษานี้จะอธิบายถึงผู้หญิง 40 ปีมีประเภทยาวนานโรคเบาหวาน 1 สำหรับ 37 ปี แม้จะมีประวัติของการกำเริบ
ภาวะน้ำตาลในเลือด, การรับรู้ภาวะน้ำตาลในเลือดบกพร่องและความผิดปกติของการรับประทานอาหารโดยการเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องต่ออินซูลินใต้ผิวหนัง
การรักษาด้วยยาที่มีอินซูลินปั๊มในการรวมกันกับการนับคาร์โบไฮเดรตเธอเรียกคืนการรับรู้ภาวะน้ำตาลในเลือดของเธอ
และการลดระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวน เรื่องนี้ทำให้เธอมีความมั่นใจที่จะลงทะเบียนในการเรียกใช้ในการวิ่งมาราธอน แต่ในระหว่างการฝึก
ความผันผวนกว้างที่มีประสบการณ์ระดับน้ำตาลในเลือดที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดบ่อย ด้วยกลูโคสอย่างต่อเนื่องการตรวจสอบการใช้
กลูโคสเซนเซอร์เธอก็สามารถที่จะดำเนินการโปรแกรมการฝึกอบรมที่มีพลังและต่อมาจัดการกลูโคสเธอเพื่อหลีกเลี่ยง
ภาวะน้ำตาลในเลือดและการบำรุงรักษาการควบคุมที่ดีสำหรับระยะเวลาของการวิ่งมาราธอนที่ สำหรับบางคนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1,
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ให้ความสามารถในการลดความเสี่ยงจากภาวะน้ำตาลในเลือดในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขาและช่วยให้พวกเขา
มีส่วนร่วมในกิจกรรมการออกกำลังกายที่เรียกร้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรณีศึกษานี้อธิบายถึงผู้หญิงอายุ 40 ปี อันยาวนานของโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นเวลา 37 ปี แม้จะมีประวัติของการเกิดขึ้นอีกจากการบกพร่องในการรับรู้และความผิดปกติของการรับประทานอาหาร , โดยการเปลี่ยนเพื่ออินซูลินใต้ผิวหนังแบบต่อเนื่องการรักษาด้วยการฉีดอินซูลินปั๊มในการรวมกันกับการนับคาร์โบไฮเดรต เธอทำให้ความตระหนักในเธอและลดความแปรปรวนของกลูโคสในเลือด นี้ให้ความมั่นใจที่จะลงทะเบียนเพื่อใช้ในการแข่งขัน แต่ระหว่างการฝึกความผันผวนของระดับน้ำตาลในเลือดด้วยประสบการณ์กว้างในเลือดบ่อย ๆ กับการตรวจสอบกลูโคสอย่างต่อเนื่องโดยใช้กลูโคสเซนเซอร์ เธอก็สามารถที่จะดำเนินการโครงการฝึกอบรมยากเย็นแสนเข็ญ และต่อมาเธอหลีกเลี่ยงการจัดการกลูโคสในการรักษาที่ดีและการควบคุมสำหรับระยะเวลาของมาราธอน สำหรับบางคนที่มีโรคเบาหวานชนิดที่ 1ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ให้ความสามารถในการลดความเสี่ยงในการ ปรับปรุงคุณภาพของชีวิตของพวกเขา และให้พวกเขาการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกายภาพ .