1. IntroductionBiofuels, which are

1. Introduction
Biofuels, which are currently the only direct substitutes for fossil fuel in the transport industry, can be produced on a large scale [1]. However, first-generation biofuels from grains are recently in a downturn, whereas second-generation biofuels are not competitive [2]. Sweet sorghum has attracted attention as a non-food feedstock for biofuel. Sweet sorghum is known for its strong tolerance because it can grow under harsh environmental conditions, such as an arid climate and alkaline soil; it also possesses the combined advantages of corn, sugar cane, and switchgrass [3] and [4]. Sweet sorghum instead of starch-based grain is therefore used in bioethanol production. The ethanol from sweet sorghum is regarded as a 1.5 generation biofuel. This excellent energy crop has not been widely applied in commercial ethanol production because no cost-effective technology to process it is available. Traditionally, ethanol is produced from sugar-based feedstock, such as sugar cane, sugar beet, or sweet sorghum stems, via liquid-state fermentation (LSF). However, LSF requires much energy to obtain juice from crops. Additional energy is required to concentrate the juice by boiling. Serious issues in wastewater treatment also exist in LSF [4].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. บทนำสามารถผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งกำลังทดแทนโดยตรงเฉพาะสำหรับเชื้อเพลิงฟอสซิลในอุตสาหกรรมขนส่ง ในขนาดใหญ่ [1] อย่างไรก็ตาม เชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นจากธัญพืชอยู่เพิ่งชะลอตัว ในขณะที่เชื้อเพลิงชีวภาพ second-generation ไม่แข่งขัน [2] ข้าวฟ่างหวานได้ดึงดูดความสนใจเป็นวัตถุดิบไม่ใช่อาหารสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ ข้าวฟ่างหวานเป็นหนึ่งในค่าเผื่อของแรงเนื่องจากมันสามารถเติบโตในสภาวะสิ่งแวดล้อม สภาพภูมิอากาศแห้งแล้งและดินเค็ม การ มันยังมีประโยชน์รวมข้าวโพด อ้อย และ switchgrass [3] [4] ดังนั้นจึงมีใช้ข้าวฟ่างหวานแทนใช้แป้งข้าวในการผลิต bioethanol เอทานอลจากข้าวฟ่างหวานถือเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพเป็นรุ่น 1.5 พืชพลังงานแห่งนี้ยังไม่ถูกกันอย่างแพร่หลายใช้ในการผลิตเอทานอลพาณิชย์เนื่องจากเทคโนโลยีไม่คุ้มค่าการประมวลผลนั้นมี ประเพณี เอทานอลผลิตจากน้ำตาลโดยใช้วัตถุดิบ เช่นอ้อย นทาน หรือข้าวฟ่างหวานลำต้น ผ่านสถานะของเหลวหมัก (LSF) อย่างไรก็ตาม LSF ต้องใช้พลังงานมากเพื่อรับน้ำจากพืช พลังงานเพิ่มเติมจะต้องเข้มข้นในน้ำ โดยการต้ม ยังมีปัญหาร้ายแรงในการบำบัดน้ำเสียใน LSF [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1.
บทนำเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีอยู่ในปัจจุบันทดแทนโดยตรงเฉพาะสำหรับเชื้อเพลิงฟอสซิลในอุตสาหกรรมการขนส่ง, สามารถผลิตได้ในขนาดใหญ่ [1] แต่เชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นแรกจากธัญพืชที่มีการชะลอตัวในเร็ว ๆ นี้ในขณะที่เชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นที่สองในการแข่งขันไม่ได้ [2] ข้าวฟ่างหวานได้รับความสนใจเป็นวัตถุดิบที่ไม่ใช่อาหารสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ ข้าวฟ่างหวานเป็นที่รู้จักสำหรับความอดทนแข็งแกร่งเพราะมันสามารถเจริญเติบโตภายใต้สภาพแวดล้อมที่รุนแรงเช่นสภาพภูมิอากาศที่แห้งแล้งและดินด่าง; ก็ยังมีข้อได้เปรียบที่รวมของข้าวโพดอ้อยและสวิตซ์ [3] และ [4] ข้าวฟ่างหวานแทนข้าวแป้งที่ใช้จึงถูกนำมาใช้ในการผลิตเอทานอล เอทานอลจากข้าวฟ่างหวานได้รับการยกย่องเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพรุ่น 1.5 นี้พืชพลังงานที่ดีเยี่ยมยังไม่ได้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตเอทานอลในเชิงพาณิชย์เพราะไม่มีเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลก็สามารถใช้ได้ ตามเนื้อผ้าเอทานอลที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ใช้น้ำตาลเช่นอ้อยน้ำตาลหัวผักกาดหรือลำต้นข้าวฟ่างหวานผ่านการหมักเหลวของรัฐ (LSF) อย่างไรก็ตาม LSF ต้องใช้พลังงานมากที่จะได้รับน้ำจากพืช พลังงานเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะมีสมาธิน้ำผลไม้โดยการต้ม ปัญหาที่จริงจังในการบำบัดน้ำเสียยังมีอยู่ใน LSF [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . เชื้อเพลิงชีวภาพบทนำ
ซึ่งอยู่ในขณะนี้เท่านั้นโดยตรงแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในอุตสาหกรรมการขนส่งที่สามารถผลิตได้ในขนาดใหญ่ [ 1 ] อย่างไรก็ตาม เชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นแรกจากธัญพืชเป็นเมื่อเร็ว ๆนี้ในเศรษฐกิจโลก ในขณะที่เชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นที่สองจะไม่แข่งขัน [ 1 ] ข้าวฟ่างหวานได้ดึงดูดความสนใจเป็นวัตถุดิบอาหารที่ไม่ใช่สำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพข้าวฟ่างหวานเป็นที่รู้จักสำหรับความทนทานแข็งแรงของมันเพราะมันสามารถเติบโตภายใต้สภาวะแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ภูมิอากาศแห้งแล้งและดินด่าง มันยังมีรวมข้อดีของข้าวโพด อ้อย และสวิตซ์ [ 3 ] และ [ 4 ] ข้าวฟ่างหวานแทนแป้งจากเมล็ดจึงใช้ในการผลิตเอทานอล . เอทานอลจากข้าวฟ่างหวาน ถือเป็น 15 การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ พืชพลังงานที่ยอดเยี่ยมนี้ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตเอทานอลในเชิงพาณิชย์ เพราะไม่คุ้มค่าเทคโนโลยีกระบวนการ มันสามารถใช้ได้ ผ้า เอทานอลผลิตจากวัตถุดิบจากน้ำตาล เช่น อ้อย น้ำตาล หรือลำต้นข้าวฟ่างหวานที่ผ่านการหมักสถานะของเหลว ( LSF ) อย่างไรก็ตาม ต้องใช้พลังงานมากเพื่อให้ได้ LSF น้ำจากพืชพลังงานเพิ่มเติมจะต้องเข้มข้นน้ำผลไม้โดยการต้ม ปัญหาร้ายแรงในการบำบัดน้ำเสียยังอยู่ใน LSF
[ 1 ]