Serving as the Royal Monastery from

Serving as the Royal Monastery from 1350 to 1448, the temple occupies expansive grounds inside the walls of the now-collapsed Royal Palace. The three iconic chedis – housing the royal relics of three Ayutthaya Kings – are among the few structures left standing in the temple grounds, which is itself a must-see ruin site.

On what appears as empty space between the three chedis once stood two mandapas for storing Buddhist scriptures and religious relics. East of the chedis are the remains of the main chapel’s concrete columns. Continue walking towards the north and you will reach the entrance to the Royal Palace.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดให้เป็นอารามหลวงจาก 1350 1448 ใช้ไพศาลภายในกำแพงที่ยุบตอนนี้รอยัลพาเลส Chedis สัญลักษณ์สาม –บ้านธาตุราชกษัตริย์อยุธยาสามมีโครงสร้างน้อยที่เหลือยืนอยู่ในบริเวณวัด ซึ่งเป็นตัวทำลายแห้งไซต์เกี่ยวกับสิ่งที่ปรากฏเป็นพื้นที่ว่างระหว่าง chedis สามเมื่อยืนสอง mandapas สำหรับเก็บคัมภีร์พระพุทธศาสนาและศาสนาธาตุ ตะวันออก chedis อยู่ของคอลัมน์ของโบสถ์หลักคอนกรีต ต่อเดินไปทางทิศเหนือ และจะถึงทางเข้าห้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ทำหน้าที่เป็นพระอารามหลวง 1350-1448 วัดตรงบริเวณพื้นที่กว้างขวางภายในผนังของตอนนี้ทรุดตัวลงพระบรมมหาราชวัง สัญลักษณ์สามเจดีย์ที่อยู่อาศัย - พระธาตุของพระสามอยุธยา Kings - เป็นหนึ่งในไม่กี่โครงสร้างที่เหลือยืนอยู่ในบริเวณวัดซึ่งเป็นตัวเองจะได้เห็นเว็บไซต์ทำลายในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นพื้นที่ว่างระหว่างสามเจดีย์ครั้งหนึ่งเคยเป็นสองมณฑป สำหรับการจัดเก็บพระไตรปิฎกและพระธาตุทางศาสนา ทางตะวันออกของเจดีย์ซากของเสาคอนกรีตโบสถ์หลักของ เดินต่อไปทางทิศเหนือและคุณจะไปถึงทางเข้าพระบรมมหาราชวัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ให้บริการเป็นอารามหลวง จาก 1350 ถึง 999 , วัด ตรงบริเวณลานกว้างภายในผนังของตอนนี้ถล่มพระบรมมหาราชวัง สามสัญลักษณ์เจดีย์–ที่อยู่อาศัยเสด็จพระบรมสารีริกธาตุ 3 กษัตริย์ของอยุธยาและโครงสร้างอีกหลายที่ยืนอยู่ในบริเวณวัด ซึ่งตัวเองต้องดู

ทำลายเว็บไซต์ในสิ่งที่ปรากฏเป็นช่องว่างระหว่างสามเจดีย์เมื่อยืนสองแมนดาปาสสำหรับเก็บพระไตรปิฎกและพระธาตุศาสนา ทางทิศตะวันออกของเจดีย์เป็นซากของโบสถ์เป็นหลักเสาคอนกรีต . เดินต่อไปทางทิศเหนือ ก็จะถึงทางเข้าพระราชวัง