There is growing consumer interest

There is growing consumer interest in the green tea extract- supplemented products in recent years. Green tea extract has been used in a variety of food products including bread (Wang & Zhou, 2004), biscuits, dehydrated apple (Lavelli, Van- taggi, Corey, & Kerr, 2010) and various meat products (Mit- sumoto, O’Grady, Kerry, & Buckley, 2005; O’Sullivan, Lynch, Lynch, Buckley, & Kerry, 2004; Tang, Kerry, Sheehan, & Buck- ley, 2001). The main application areas of green tea extract are summarized in Table 1. In internal tests with fat spreads, green tea extract showed comparable antioxidant perfor- mance to conventional synthetic antioxidant tert-butylhydro- quinone (TBHQ) and may be more cost-effective than other natural sources of antioxidants. This makes it ideal for both full-fat margarines as well as oxidation-sensitive products that are low in fat, free of trans fatty acids or have a high con- tent of polyunsaturated fatty acids. In this study, samples of 40% low-fat spread were produced with green tea extract con- taining 60 ppm total catechins or 100 ppm TBHQ and stored at 5 °C for 13 weeks. A control sample contained no antioxidant solution. In an accelerated shelf-life test, a comparison of green tea extract and TBHQ revealed similar performance.
Lipid oxidation is one of the primary causes of quality deterioration in meat and poultry products. Red meats and poultry are typically highly susceptible to lipid oxidation due to their high fat content (Yilmaz, 2006) and a high propor- tion of polyunsaturated fatty acids. These highly unsaturated phospholipids present in meat and poultry products are responsible for the development of off-flavours and off-odors after cooking and subsequent refrigerated storage. This off- flavour development, also referred to as warmed-over-flavour (WOF), frequently causes consumers to reject freshly cooked meat and poultry products. Therefore, these products should be protected by natural sources of antioxidants such as green tea extract to protect against WOF.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีมีการเติบโตผู้บริโภคสนใจในชาเขียวสกัด-เสริมผลิตภัณฑ์ในปีที่ผ่านมา มีการใช้สารสกัดจากชาเขียวในความหลากหลายของอาหารอบแห้งขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์ได้แก่ขนมปัง (วังและโจว 2004), แอปเปิ้ล (Lavelli, Van taggi, Corey และ เคอร์ 2010) และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ต่าง ๆ (Mit-sumoto, O'Grady, Kerry และ Buckley, 2005 โรงง Lynch, Lynch, Buckley และ เคอร์รี่ 2004 ถัง Kerry, Sheehan และบัค ระเบียง 2001) โปรแกรมประยุกต์หลักของชาเขียวสกัดที่สรุปในตารางที่ 1 ในการทดสอบภายในมีแพร่กระจายไขมัน สารสกัดจากชาเขียวพบ mance perfor ต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับสารต้านอนุมูลอิสระสังเคราะห์ธรรมดา tert-butylhydro-quinone (TBHQ) และอาจมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าแหล่งอื่น ๆ ตามธรรมชาติของสารต้านอนุมูลอิสระ นี้ทำให้เหมาะสำหรับทั้ง margarines ไขมันเต็มเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญเกิดออกซิเดชันที่ต่ำในไขมัน กรดไขมันทรานส์ฟรี หรือมีคอนเต็นท์สูงกรดไขมันไม่อิ่มตัว ในการศึกษานี้ ตัวอย่าง 40% กระจายไขมันต่ำถูกผลิต ด้วยสารสกัดจากชาเขียวคอน taining 60 ppm catechins รวมหรือ 100 ppm TBHQ และเก็บที่ 5 ° C สำหรับสัปดาห์ที่ 13 ตัวอย่างควบคุมประกอบด้วยโซลูชันที่ไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ในการเร่งอายุทดสอบ การเปรียบเทียบสารสกัดจากชาเขียวและ TBHQ เปิดเผยประสิทธิภาพการทำงานคล้ายกันออกซิเดชันของไขมันเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพคุณภาพในผลิตภัณฑ์เนื้อและสัตว์ปีก เนื้อสัตว์สีแดงและสัตว์ปีกโดยทั่วไปจะสูงไวต่อการเกิดออกซิเดชันของไขมันเนื่องจากความสูงไขมัน (Yilmaz, 2006) และสูง propor-สเตรชันของกรดไขมันไม่อิ่มตัว Phospholipids ในระดับที่สมสูงเหล่านี้แสดงในเนื้อ และผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกรับผิดชอบการพัฒนารสชาติออก และเก็บรเออร์ปิดกลิ่นหลัง จากทำอาหาร และต่อมา พัฒนานี้ออกรส ยัง เรียกว่าเป็น warmed-over-รส (WOF), มักทำให้ผู้บริโภคปฏิเสธสดต้มเนื้อและสัตว์ปีกผลิตภัณฑ์ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ควรได้รับการป้องกัน โดยแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติเช่นสารสกัดจากชาเขียวเพื่อป้องกัน WOF

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีการเติบโตที่น่าสนใจของผู้บริโภคในชาเขียว extract- เสริมผลิตภัณฑ์ในปีที่ผ่านมา สารสกัดจากชาเขียวถูกนำมาใช้ในความหลากหลายของผลิตภัณฑ์อาหารรวมทั้งขนมปัง (วังและโจว, 2004), บิสกิต, แอปเปิ้ลแห้ง (Lavelli, Van- taggi คอเรย์และเคอร์, 2010) และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ต่างๆ (Mit- sumoto โอ 'เกรดี้เคอร์รีและบัคลี่ย์ 2005 ซัลลิแวนลินช์, ลินช์บัคลี่ย์และเคอร์รี่, 2004; ถังเคอร์รีชีแฮนและ Buck- หลากหลาย, 2001) พื้นที่หลักของการประยุกต์ใช้สารสกัดจากชาเขียวมีรายละเอียดในตารางที่ 1 ในการทดสอบภายในที่มีการแพร่กระจายไขมันสารสกัดชาเขียวแสดงให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานเปรียบสารต้านอนุมูลอิสระในการสังเคราะห์สารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป tert-butylhydro- quinone (TBHQ) และอาจจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า แหล่งธรรมชาติอื่น ๆ ของสารต้านอนุมูลอิสระ นี้จะทำให้มันเหมาะสำหรับทั้งมาการีนไขมันเต็มเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ออกซิเดชันที่สำคัญที่มีไขมันต่ำ, ฟรีทรานส์กรดไขมันหรือมีเต็นท์ทำาสูงของกรดไขมันไม่อิ่มตัว ในการศึกษานี้กลุ่มตัวอย่าง 40% การแพร่กระจายไขมันต่ำที่ผลิตด้วยสารสกัดจากชาเขียวทำาในประเด็น 60 ppm catechins รวม 100 ppm TBHQ และเก็บไว้ที่ 5 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 13 สัปดาห์ ตัวอย่างการควบคุมที่มีอยู่ไม่มีการแก้ปัญหาสารต้านอนุมูลอิสระ ในการเร่งการทดสอบอายุการเก็บรักษาการเปรียบเทียบของสารสกัดจากชาเขียวและ TBHQ เปิดเผยผลการดำเนินงานที่คล้ายกัน.
ออกซิเดชันของไขมันเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพที่มีคุณภาพในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีก เนื้อสัตว์และสัตว์ปีกสีแดงมักจะสูงไวต่อการเกิดออกซิเดชันของไขมันเนื่องจากเนื้อหาที่มีไขมันสูงของพวกเขา (Yilmaz, 2006) และการ propor- สูงของกรดไขมันไม่อิ่มตัว เหล่านี้ phospholipids ไม่อิ่มตัวสูงอยู่ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสัตว์ปีกที่มีความรับผิดชอบสำหรับการพัฒนาของรสชาติปิดและกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกจากหลังจากการปรุงอาหารและการเก็บรักษาในตู้เย็นที่ตามมา นี้การพัฒนารสชาตินอกยังเรียกว่าอบอุ่นกว่ารส (WOF) บ่อยครั้งที่ทำให้เกิดผู้บริโภคที่จะปฏิเสธเนื้อสัตว์ปรุงสุกใหม่และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีก ดังนั้นผลิตภัณฑ์เหล่านี้ควรได้รับการคุ้มครองจากแหล่งธรรมชาติของสารต้านอนุมูลอิสระเช่นสารสกัดจากชาเขียวเพื่อป้องกัน WOF