AbstractOBJECTIVE:The present study

Abstract
OBJECTIVE:
The present study aimed to assess dental status in 7-12-year-old Lithuanian children and to evaluate the extent and the efficiency of the Pit and Fissure Sealing in Permanent Molars program.
MATERIAL AND METHODS:
This cross-sectional study was performed between September 2007 and May 2008. Children, aged 7-12 years, from secondary schools in five biggest cities of Lithuania were invited for the examination using a cluster random sampling method. The data for the present study were collected following the general principles for basic oral health surveys of the World Health Organization.
RESULTS:
The prevalence of dental caries was 85.5%, 88.9%, and 70.6% in 7-8-, 9-10-, and 12-year olds, respectively. The prevalence of dental caries in permanent molars increased with age and became as high as 57.7% in 12-year-old children. The data showed that the mean number of sealed teeth depends on the county and ranged from 0.83 (1.31) to 1.45 (1.85) in 7-8-year olds, from 0.95 (1.29) to 2.54 (1.15) in 9-10-year olds, and from 0.26 to 2.13 (1.15) in 12-year olds.
CONCLUSIONS:
The prevalence and incidence of dental caries in 7-12-year-old Lithuanian children are high. Only half of all examined children have at least one sealed molar. The financial resources allocated for the Pit and Fissure Sealing in Permanent Molars program were used insufficiently; therefore, there is a need for systematic measures in order to improve the efficacy of the aforementioned program.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์:
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสถานะทางทันตกรรมในเด็กลิทัวเนีย 7-12 ปีและเพื่อประเมินขอบเขตและประสิทธิภาพของหลุมและรอยแยกซีลในโปรแกรมถาวรแคลเซียม.
วัสดุและวิธีการ:
การศึกษาครั้งนี้ตัดเป็น ดำเนินการระหว่างเดือนกันยายนปี 2007 และพฤษภาคม 2008 เด็กอายุ 7-12 ปีจากโรงเรียนมัธยมในห้าเมืองที่ใหญ่ที่สุดของลิทัวเนียได้รับเชิญสำหรับการตรวจสอบโดยใช้กลุ่มวิธีการสุ่มตัวอย่าง ข้อมูลสำหรับการศึกษาในปัจจุบันถูกเก็บต่อไปนี้หลักการทั่วไปสำหรับการสำรวจสุขภาพช่องปากพื้นฐานขององค์การอนามัยโลก.
ผลการศึกษา:
ความชุกของโรคฟันผุเป็น 85.5%, 88.9% และ 70.6% ในปี 7-8-, 9-10- และเด็กอายุ 12 ปีตามลำดับ ความชุกของโรคฟันผุในฟันกรามถาวรเพิ่มขึ้นกับอายุและกลายเป็นที่สูงถึง 57.7% ในเด็ก 12 ปี ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าจำนวนเฉลี่ยของฟันที่ปิดสนิทขึ้นอยู่กับเขตและตั้งแต่ 0.83 (1.31) 1.45 (1.85) ในเด็กอายุ 7-8 ปีจาก 0.95 (1.29) 2.54 (1.15) ใน 9-10 ปี อายุและ 0.26-2.13 (1.15) ในเด็กอายุ 12 ปี.
สรุปความชุกและอุบัติการณ์ของการเกิดโรคฟันผุใน 7-12 ปีเด็กจะสูงลิทัวเนีย
เพียงครึ่งหนึ่งของเด็กทุกคนต้องมีการตรวจสอบฟันกรามที่ปิดสนิทอย่างน้อยหนึ่ง ทรัพยากรทางการเงินจัดสรรสำหรับหลุมและรอยแยกซีลในโปรแกรมฟันกรามถาวรถูกนำมาใช้ไม่เพียงพอ; จึงมีความจำเป็นสำหรับมาตรการที่เป็นระบบเพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของโปรแกรมดังกล่าวข้างต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ :

บทคัดย่อการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสถานภาพทางทันตกรรมใน 7-12-year-old ภาษาไทยเด็กและประเมินขอบเขตและประสิทธิภาพของหลุมและรอยแยกดังกล่าวในโปรแกรมฟันกรามถาวร วัสดุและวิธีการ :

การศึกษานี้เป็นการศึกษาปฏิบัติระหว่างเดือนกันยายน พ.ศ. 2550 และ 2551 เด็ก อายุ 7-12 ปีจากโรงเรียนมัธยมในห้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองของลิทัวเนียได้รับเชิญสำหรับการสอบโดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่มโดยวิธี ข้อมูลสำหรับการศึกษาครั้งนี้รวบรวมต่อไปนี้หลักการพื้นฐานของสุขภาพช่องปากการสำรวจขององค์การอนามัยโลก

ผล : ความชุกของฟันผุร้อยละ 85.5 88.9 เปอร์เซ็นต์และร้อยละ 70.6 ใน 7-8 - 9-10 - และ 12 olds ปี ตามลำดับความชุกของฟันผุในฟันกรามถาวรเพิ่มขึ้นกับอายุและก็สูงเท่ากับ 65 % ใน 12 คน ข้อมูล พบว่า ค่าเฉลี่ยจำนวนฟันผนึกขึ้นอยู่กับมณฑลและมีค่าเท่ากับ 0.83 ( 1.31 ) 1.45 ( 1.85 ) ใน 7-8-year olds จาก 0.95 ( 1.29 ) 2.54 ( 1.15 ) ใน 9-10-year olds , และ 0.26 2.13 ( 1.15 ) ใน 12 ปี .

สรุปความชุกและอุบัติการณ์ของโรคฟันผุในเด็ก 7-12-year-old ลิทัวเนียมีสูง เพียงครึ่งหนึ่งของเด็กทั้งหมดที่ตรวจสอบมีอย่างน้อยหนึ่งปิดกราม ทรัพยากรทางการเงินที่กำหนดสำหรับหลุมร่องฟันกรามถาวรและปิดผนึกในโปรแกรมใช้ไม่ ดังนั้น จึงต้องมีมาตรการที่เป็นระบบเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโปรแกรมดังกล่าว