decrease in ethanol production (dat

decrease in ethanol production (data not shown). This is reasonable,
since lactic acid is a stronger acid (pKa = 3.86) than acetic acid
(pKa = 4.75). Results suggest that acetic acid may be a more useful
indicator of harmful bacterial contamination than lactic acid or
reduced pH.
Contaminants were further analyzed based on their glucose
fermentation patterns. Facultatively heterofermentive isolates
produced lower levels of acetic acid than did obligately heterofermentative
isolates, and acetic acid production was correlated with
lactic acid production only in obligately heterofermentative strains
(Fig. 5A). Only 3% of total contaminants were obligately homofermentative
species, and as expected, none of these produced significant
levels of acetic acid. Obligately heterofermentative isolates
were most inhibitory to ethanol production, and this inhibition
was moderately correlated with acetic acid production (R2 = 0.50,
Fig. 5B).
This pattern was consistent among the four major contaminant
strains. Isolates of the facultatively heterofermentative species
L. casei and L. plantarum isolates generally produced lower levels
of acetic acid and did not strongly inhibit ethanol production
(Fig. 6A and D). In contrast, isolates of the obligately heterofermentative
species L. fermentum and L. mucosae produced higher levels
of acetic acid (Fig. 6B and C). Inhibition of ethanol production
was strongly correlated with acetic acid production by
L. fermentum (R2 = 0.77) and moderately correlated with acetic acid
production by L. mucosae (R2 = 0.50).
Although production facilities routinely monitor lactic and
acetic acid concentrations as a measure of microbial contamination,
the role of organic acids in ethanol inhibition is unclear.
Studies have shown that added lactic or acetic acid can inhibit
ethanol production under certain conditions (Narendranath et al.,
2001; Graves et al., 2006). Basso et al. (2014) reported that heterofermentative
lactobacilli were more deleterious to yeast than
homofermentative strains. Graves et al. (2007) reported that lactic
and acetic acids act synergistically to inhibit ethanol production.
Among the most abundant contaminants in the current study,
the facultatively heterofermentative species L. plantarum and
L. casei generally produced lower amounts of acetic acid and were
less inhibitory to ethanol production, while the obligately heterofermentative
species L. fermentum and L. mucosae produced higher
levels of acetic acid and were more inhibitory to ethanol production.
Since the biofuel production facility was considered healthy
and productive throughout the study period, this suggests that
potentially inhibitory contaminants are always present in a normal,
healthy microflora. It is possible that stuck fermentations
occur when the balance of this microflora is upset by unknown
factors. Parallels exist in animal and human pathology, and in this
sense the fermentation should perhaps be viewed as a living
organism rather than as a chemical factory.
In terms of practical control of contaminants, results suggest
that it may be important to maintain a desirable balance of
innocuous lactic acid bacteria, and particularly of facultatively

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลดลงในการผลิตเอทานอล (ข้อมูลไม่แสดง) นี้ไม่เหมาะสมเนื่องจากกรดแลกติก กรดแข็งแกร่ง (pKa = 3.86) กว่ากรดอะซิติก(pKa =ระดับ 4.75) ผลแนะนำว่า กรดน้ำส้มอาจเป็นประโยชน์มากขึ้นตัวบ่งชี้การปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายมากกว่ากรด หรือpH ลดลงสารปนเปื้อนที่วิเคราะห์ตามของกลูโคสต่อไปรูปแบบการหมัก Facultatively heterofermentive แยกระดับล่างของกรดน้ำส้มมากกว่า heterofermentative obligately ได้ผลิตแยก และการผลิตกรดอะซิติกถูก correlated กับกรดผลิตเฉพาะในสายพันธุ์ heterofermentative obligately(Fig. ของ 5A) เพียง 3% ของสารปนเปื้อนรวมได้ obligately homofermentativeชนิด และผลิตตามที่คาดไว้ สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญระดับของกรดน้ำส้ม Obligately heterofermentative แยกมีลิปกลอสไขเพื่อผลิตเอทานอล และยับยั้งนี้มากที่สุดมีปานกลาง correlated ผลิตกรดอะซิติก (R2 = 0.50Fig. 5B)รูปแบบนี้ไม่สอดคล้องกันระหว่างสารปนเปื้อนหลักสี่สายพันธุ์ แยกของ facultatively heterofermentative พันธุ์L. casei และ L. plantarum แยกผลิตโดยทั่วไประดับล่างของกรดน้ำส้ม และก็ไม่ขอขัดขวางการผลิตเอทานอล(Fig. 6A และ D) ในทางตรงกันข้าม แยกของ obligately heterofermentativeชนิด L. fermentum และ L. mucosae ผลิตระดับที่สูงขึ้นของกรดน้ำส้ม (Fig. 6B และ C) ยับยั้งการผลิตเอทานอลถูกขอ correlated กับกรดอะซิติกผลิตโดยL. fermentum (R2 = 0.77) และปานกลาง correlated กับกรดอะซิติกผลิต โดย L. mucosae (R2 = 0.50)แม้ว่าการผลิตเป็นประจำตรวจแล็กติก และความเข้มข้นของกรดน้ำส้มเป็นการวัดการปนเปื้อนจุลินทรีย์บทบาทของกรดอินทรีย์ในการยับยั้งการเปลี่ยนเอทานอลไม่ชัดเจนศึกษาแสดงให้เห็นที่เพิ่มแล็กติก หรือกรดน้ำส้มสามารถยับยั้งเอทานอลผลิตภายใต้เงื่อนไข (Narendranath et al.,2001 หลุมฝังศพและ al., 2006) Al. ร้อยเอ็ด basso (2014) รายงานว่า heterofermentativelactobacilli ได้มากสุดถึงยีสต์มากกว่าสายพันธุ์ homofermentative หลุมฝังศพ et al. (2007) รายงานว่า แล็กติกและกรดอะซิติกทำหน้าที่เป็นการขัดขวางการผลิตเอทานอลระหว่างสารปนเปื้อนมากที่สุดในการศึกษาปัจจุบันfacultatively heterofermentative ชนิด L. plantarum และL. casei ผลิตจำนวนต่ำกว่ากรดอะซิติก และมีโดยทั่วไปลิปกลอสไขน้อยที่ผลิตเอทานอล ในขณะ obligately heterofermentativeชนิด L. fermentum และ L. mucosae ผลิตสูงกว่าระดับของกรดน้ำส้มและลิปกลอสไขในการผลิตเอทานอลเนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพถือเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและมีประสิทธิภาพตลอดระยะเวลาการศึกษา นี้แนะนำที่ลิปกลอสไขอาจสารปนเปื้อนมักอยู่ในปกติmicroflora สุขภาพ เป็นไปได้ที่ติดหมักแหนมเกิดขึ้นเมื่อดุลของ microflora นี้เป็นอารมณ์เสีย โดยไม่ทราบปัจจัย Parallels มีพยาธิสัตว์ และมนุษย์ และ ในนี้sense the fermentation should perhaps be viewed as a livingorganism rather than as a chemical factory.In terms of practical control of contaminants, results suggestthat it may be important to maintain a desirable balance ofinnocuous lactic acid bacteria, and particularly of facultatively

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลดลงในการผลิตเอทานอล (ไม่ได้แสดงข้อมูล) นี้เป็นที่เหมาะสมตั้งแต่กรดแลคติกเป็นกรดที่แข็งแกร่ง (pKa = 3.86) สูงกว่ากรดอะซิติก (pKa = 4.75) ผลการชี้ให้เห็นว่ากรดอะซิติกอาจจะเป็นประโยชน์มากขึ้นตัวบ่งชี้ของการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายกว่ากรดแลคติกหรือพีเอชลดลง. สารปนเปื้อนที่ถูกวิเคราะห์ต่อไปขึ้นอยู่กับระดับน้ำตาลของพวกเขารูปแบบการหมัก facultatively heterofermentive แยกผลิตระดับล่างของกรดอะซิติกกว่าheterofermentative obligately สายพันธุ์และการผลิตกรดอะซิติกมีความสัมพันธ์กับการผลิตกรดแลคติกสายพันธุ์เฉพาะใน heterofermentative obligately (รูป. 5A) เพียง 3% ของสารปนเปื้อนรวม homofermentative obligately ชนิดและคาดว่าจะไม่มีการผลิตเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญระดับของกรดอะซิติก obligately ไอโซเลท heterofermentative ส่วนใหญ่ยับยั้งเอทานอลเพื่อการผลิตและการยับยั้งนี้มีความสัมพันธ์ในระดับปานกลางที่มีการผลิตกรดอะซิติก (R2 = 0.50, รูป. 5B). รูปแบบนี้มีความสอดคล้องในหมู่สารปนเปื้อนที่สำคัญสี่สายพันธุ์ แยกชนิด heterofermentative facultatively ลิตร casei และ L. plantarum แยกผลิตโดยทั่วไปลดระดับของกรดอะซิติกและไม่ได้ขอยับยั้งการผลิตเอทานอล(รูป. 6A และ D) ในทางตรงกันข้ามการแยกของ heterofermentative obligately ชนิด L. fermentum ลิตรและ mucosae ผลิตระดับที่สูงขึ้นของกรดอะซิติก(รูป. 6B และ C) ยับยั้งการผลิตเอทานอลมีความสัมพันธ์อย่างมากกับการผลิตกรดอะซิติกโดยลิตร fermentum (R2 = 0.77) และมีความสัมพันธ์ในระดับปานกลางที่มีกรดอะซิติกผลิตโดยแอลmucosae (R2 = 0.50). แม้ว่าสถานที่ผลิตเป็นประจำตรวจสอบแลคติกและความเข้มข้นของกรดอะซิติกเป็นตัวชี้วัดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ของที่บทบาทของกรดอินทรีย์ในการยับยั้งเอทานอลก็ไม่มีความชัดเจน. การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มแลคติกหรือกรดอะซิติกสามารถยับยั้งการผลิตเอทานอลภายใต้เงื่อนไขบาง (Narendranath, et ​​al. 2001;. เกรฟส์ et al, 2006) Basso et al, (2014) รายงานว่า heterofermentative แลคโตเป็นอันตรายมากขึ้นในการยีสต์กว่าสายพันธุ์ homofermentative เกรฟส์และอัล (2007) รายงานว่าแลคติกกรดอะซิติกและทำหน้าที่ร่วมในการยับยั้งการผลิตเอทานอล. ในบรรดาสารปนเปื้อนมากที่สุดในการศึกษาในปัจจุบันสายพันธุ์ heterofermentative facultatively L. plantarum และแอล casei ผลิตทั่วไปจำนวนเงินที่ลดลงของกรดอะซิติกและยับยั้งน้อยกว่าในการผลิตเอทานอลในขณะที่heterofermentative obligately ชนิด L. fermentum ลิตรและ mucosae ผลิตที่สูงกว่าระดับของกรดอะซิติกและอื่นๆ อีกมากมายที่จะยับยั้งการผลิตเอทานอล. ตั้งแต่โรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพได้รับการพิจารณาที่ดีต่อสุขภาพและมีประสิทธิภาพตลอดระยะเวลาการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าสารปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นในการยับยั้งมักจะอยู่ในปกติจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ เป็นไปได้ว่าการหมักแหนมติดเกิดขึ้นเมื่อความสมดุลของจุลินทรีย์นี้จะถูกคว่ำโดยที่ไม่รู้จักปัจจัย Parallels มีอยู่ในสัตว์และพยาธิสภาพของมนุษย์และในการนี้ความรู้สึกหมักอาจจะถูกมองว่าเป็นชีวิตที่มีชีวิตมากกว่าที่จะเป็นโรงงานเคมี. ในแง่ของการควบคุมการปฏิบัติของสารปนเปื้อนผลแสดงให้เห็นว่ามันอาจจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาสมดุลที่พึงประสงค์ของแบคทีเรียกรดแลคติกที่ไม่มีอันตรายและโดยเฉพาะอย่างยิ่งของ facultatively

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลดลงในการผลิตเอทานอล ( ข้อมูลไม่แสดง ) นี้เป็นที่เหมาะสม
เนื่องจากกรดเป็นกรดที่แข็งแกร่ง ( pKa = 3.86 ) มากกว่ากรดอะซิติก
( pKa = 4.75 ) พบว่า กรดอาจเป็นตัวบ่งชี้ที่มีประโยชน์เพิ่มเติมของการปนเปื้อนแบคทีเรียอันตรายมากกว่า

ลดกรดหรือด่าง
สารปนเปื้อนได้วิเคราะห์บนพื้นฐานของการหมักกลูโคส
รูปแบบfacultatively heterofermentive ไอโซ
ผลิต ลดระดับของกรดกว่า obligately heterofermentative
สายพันธุ์และการผลิตกรดมีความสัมพันธ์กับ
การผลิตกรดแลกติกใน obligately heterofermentative สายพันธุ์
( รูปที่ 43 ) เพียง 3% ของสารปนเปื้อนทั้งหมดถูก obligately homofermentative
ชนิด และเป็นที่คาดหวัง เรื่องเหล่านี้สำคัญ
ผลิตระดับของกรดอะซิติก obligately heterofermentative ไอโซ
ถูกยับยั้งมากที่สุดเพื่อการผลิตเอทานอล และการยับยั้ง
มีความสัมพันธ์กับการผลิตกรดน้ำส้ม ( R2 = 0.50
มะเดื่อ 5B ) .
รูปแบบนี้มีความสอดคล้องระหว่างสี่สาขาสารปนเปื้อน
สายพันธุ์ สายพันธุ์ของ facultatively heterofermentative L . casei สายพันธุ์และเชื้อ L . plantarum

โดยทั่วไปผลิตระดับล่างของกรดและไม่ได้ขอยับยั้ง
การผลิตเอทานอล ( รูปที่ 6 และ D ) ในทางตรงกันข้าม , สายพันธุ์ของ obligately heterofermentative
ชนิด L . fermentum และ mucosae ผลิตที่สูงกว่าระดับ
ของกรด ( ภาพที่แรงและ C ) การยับยั้ง
การผลิตเอทานอลมีความสัมพันธ์อย่างยิ่งกับการผลิตกรดโดย
L fermentum ( R2 = 0.77 ) และมีความสัมพันธ์กับกรดแอซีติก
ผลิตโดย mucosae ( R2 = 0.50 )
ถึงแม้ว่าเครื่องการผลิตตรวจตรวจสอบและความเข้มข้นของกรดแลคติก
เป็นการวัดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์
บทบาทของกรดอินทรีย์ในการยับยั้งเอทานอลไม่ชัดเจน .
มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเพิ่มกรดแลคติกหรือสามารถยับยั้ง
การผลิตเอทานอลภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง ( narendranath et al .
, 2001 ; หลุมฝังศพ et al . , 2006 ) บาสโซ และคณะ( 2014 ) รายงานว่า heterofermentative
Lactobacilli และเป็นอันตรายยีสต์สายพันธุ์มากกว่า
homofermentative . หลุมฝังศพ et al . ( 2007 ) รายงานว่าปริมาณกรดน้ำส้มและพระราชบัญญัติ
synergistically เพื่อยับยั้งการผลิตเอทานอล .
ของสารปนเปื้อนชุกชุมมากที่สุดในการศึกษาปัจจุบัน
facultatively heterofermentative ชนิด L . plantarum และ
Lเซียสโดยทั่วไปผลิตจํานวนลดลงของกรดและ
ยับยั้งน้อยกว่าการผลิตเอทานอล ขณะที่ obligately heterofermentative
ชนิด L . fermentum และ mucosae ผลิตระดับสูงของกรดและมากกว่า

ยับยั้งการผลิตเอทานอล เนื่องจากเชื้อเพลิงสถานที่ผลิตถือว่ามีสุขภาพดี
และมีประสิทธิภาพตลอดระยะเวลาการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า
สารปนเปื้อนที่อาจยับยั้งอยู่เสมอเป็นปกติ
จุลินทรีย์สุขภาพ มันเป็นไปได้ที่ติด fermentations
เกิดขึ้นเมื่อสมดุลของจุลินทรีย์นี้ผิดหวัง โดยปัจจัยที่ไม่รู้จัก

เหมือนกับอยู่ในสัตว์และโรคของมนุษย์ และในความรู้สึกนี้
การหมักอาจจะถูกมองว่าเป็นการมีชีวิตสิ่งมีชีวิตแทนที่จะเป็น

โรงงานเคมีในแง่ของการควบคุมการปฏิบัติของสารปนเปื้อนผลแนะนำ
มันอาจจะสำคัญในการรักษาสมดุลไม่พึงปรารถนาของ
แบคทีเรียกรดแลคติก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งของ facultatively