The value of a particular type of b

The value of a particular type of biomass depends on
the chemical and physical properties of the large molecules
from which it is made. Man for millennia has exploited
the energy stored in these chemical bonds, by
burning biomass as a fuel and by eating plants for the
nutritional content of their sugar and starch. More recently,
fossilised biomass has been exploited as coal and
oil. However, since it takes millions of years to convert
biomass into fossil fuels, these are not renewable within
a time-scale mankind can use. Burning fossil fuels uses
‘‘old’’ biomass and converts it into ‘‘new’’ CO2; which
contributes to the ‘‘greenhouse’’ effect and depletes a
non-renewable resource. Burning new biomass contributes
no new carbon dioxide to the atmosphere, because
replanting harvested biomass ensures that CO2 is absorbed
and returned for a cycle of new growth.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค่าของชนิดของชีวมวลนั้น ๆ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางกายภาพ และเคมีของโมเลกุลขนาดใหญ่ซึ่งมันจะทำให้ คนวัดวาอารามได้สามารถพลังงานที่เก็บไว้ในพันธบัตรเหล่านี้เคมี โดยเผาไหม้ชีวมวล เป็นเชื้อเพลิงเป็น และกินพืชเนื้อหาคุณค่าทางโภชนาการของน้ำตาลและแป้ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ชีวมวล fossilised ได้แล้วสามารถเป็นถ่านหิน และน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ใช้เวลาเป็นล้าน ๆ ปีในการแปลงชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล เหล่านี้จะไม่หมุนเวียนภายในมนุษย์มาตราส่วนเวลาสามารถใช้ ใช้เผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลชีวมวล ''เก่า '' และแปลงเป็น CO2 ''ใหม่ '' ซึ่งสนับสนุน ''เรือนกระจก '' และจ้าเป็นทรัพยากรไม่หมุนเวียน การเผาไหม้ชีวมวลใหม่จัดสรรคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ใหม่บรรยากาศ เนื่องจากซีเมนส์ร่วมปลูกเก็บเกี่ยวผลผลิตชีวมวลเพื่อให้แน่ใจว่า มีการดูดซึม CO2และส่งคืนสำหรับรอบการเจริญเติบโตใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มูลค่าของประเภทเฉพาะของชีวมวลขึ้นอยู่กับ
คุณสมบัติทางเคมีและทางกายภาพของโมเลกุลขนาดใหญ่
จากการที่มันถูกสร้างขึ้น ผู้ชายนับพันปีได้ใช้ประโยชน์
พลังงานที่เก็บไว้ในพันธะเคมีเหล่านี้โดย
การเผาไหม้ชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงและโดยการรับประทานพืชสำหรับ
เนื้อหาทางโภชนาการของน้ำตาลและแป้งของพวกเขา เมื่อเร็ว ๆ นี้
ชีวมวลฟอสซิลได้รับการใช้เป็นถ่านหินและ
น้ำมัน แต่เนื่องจากมันใช้เวลาหลายล้านปีการแปลง
ชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลเหล่านี้ไม่ได้ทดแทนภายใน
มนุษย์มาตราส่วนเวลาสามารถใช้ การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลใช้
'' เก่า '' ชีวมวลและแปลงเป็น '' ใหม่ '' CO2; ซึ่ง
ก่อให้เกิดการ '' เรือนกระจก '' ผลกระทบและบั่นทอน
ทรัพยากรสิ้นเปลือง การเผาไหม้ชีวมวลใหม่ก่อ
ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศใหม่เพราะ
ปลูกชีวมวลเก็บเกี่ยวเพื่อให้แน่ใจว่า CO2 จะถูกดูดซึม
และกลับสำหรับวงจรของการเจริญเติบโตใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค่าของประเภทเฉพาะของชีวมวลขึ้นอยู่กับ

ลักษณะทางกายภาพและทางเคมีของโมเลกุลขนาดใหญ่ซึ่งมีขึ้น มนุษย์นับพันปีได้ประโยชน์
พลังงานที่ถูกเก็บไว้ในพันธบัตรเคมีเหล่านี้ โดยชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงและการเผาไหม้

กินพืชสำหรับเนื้อหาทางโภชนาการของน้ำตาลและแป้ง เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ถูกใช้ประโยชน์เป็นฟอสซิล
3
ถ่านหินและน้ำมัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากมันใช้เวลานับล้านปีในแปลง
ชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงจากฟอสซิล เหล่านี้จะไม่หมุนเวียนภายใน
มาตราส่วนเวลามนุษย์สามารถใช้ การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใช้
''old ชีวมวลและแปลงมันเป็น ' ' ' ' ' 'new คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีส่วนช่วยใน 'greenhouse
' ' ' ผลและบั่นทอนเป็น
ไม่หมุนเวียนทรัพยากร การเผาไหม้ชีวมวลใหม่ก่อ
ไม่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ เพราะ
ปลูกเก็บเกี่ยวผลผลิตมวลชีวภาพ CO2 และยืนยันว่าถูกดูดซึม
กลับมาวงจรการเจริญเติบโตใหม่