ทะแยมอญ เป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญ ที่มีความเก่าแก่ และมีประวัติควา การแปล - ทะแยมอญ เป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญ ที่มีความเก่าแก่ และมีประวัติควา ไทย วิธีการพูด

ทะแยมอญ เป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนม

ทะแยมอญ เป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญ ที่มีความเก่าแก่ และมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน จากข้อมูลที่ได้จากการศึกษาภาคสนาม พบว่า ไม่มีใครที่สามารถจะระบุถึงต้นกำเนิดของทะแยมอญได้ชัดเจน ว่าเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใด บอกได้แค่เพียงว่า เมื่อเกิดขึ้นมาจำความได้ ก็ได้พบเห็นการแสดงชนิดนี้แล้ว จากการค้นหาเอกสารที่เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์มอญ พบว่า การละเล่นทะแยมอญนี้ มีมาตั้งนานแล้ว และปรากฎในพงศาวดารเรื่องราชาธิราช ที่กล่าวถึงชาวบ้านในสมัยนั้น ร้องเพลงทะแยมอญกล่อมเด็ก หรือบอกนิมิตรต่างๆที่ปรากฎในบางตอนของเรื่องราชาธิราชนี้ ซึ่งคาดว่าการละเล่นชนิดนี้คงเป็นการละเล่นที่มีมานานแล้ว เป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำหน้าที่ทางสังคมและวัฒนธรรมให้กับกลุ่มชาติพันธุ์มอญตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน
สำหรับการละเล่นทะแยมอญ ในชุมชนมอญหมู่บ้านบางกระดี่ เกิดขึ้นจากความสนใจและความชอบร่วมกัน โดยใช้ใช้เวลาว่างจากการทำการเกษตร ทำไร่ทำนา ก็หยิบเครื่องดนตรีที่ตนถนัดมาคนละชิ้น มานั่งเล่นรวมกัน ดังเช่นที่คุณลุงกัลยา หัวหน้าคณะหงษ์ฟ้ารามัญ ซึ่งเป็นวงทะแยมอญวงเดียวที่ยังเหลืออยู่และก่อตั้งมาประมาณ20กว่าปีแล้ว บอกกับผมว่า “ ทะแยมอญมีมานานตั้งแต่ผมเล็กๆ เลย เวลาเลิกจากนาเขาก็มารุม คนนั้นชิ้นคนนี้ชิ้น เวลามีงานเขาก็มีทะแยมอญมาร้องรำ เป็นประจำหมู่บ้านเลยละ ทะแยมอญ คนเฒ่าคนแก่ก็รักษา สืบทอดกับลูกหลานต่อๆมา… รุ่นเก่าๆเหลือไม่กี่คนแล้ว ที่เป็นเครื่องสาย เห็นแกสีซอดีดจระเข้ ก็สนใจ …เมื่อก่อนผมทำงานการไฟฟ้านครหลวงมีซอด้วงอันเดียว เล่นไม่เป็น ขึ้นสายก็ไม่เป็น มีคนแก่เขียนโน้ตให้เพลงหนึ่ง ลาวเชิงเทียน ง่ายๆสั้นๆหน่อย ก็เป็น ต่อมาตามผู้ใหญ่ไปแสดงบ่อยๆ ก็จำเอา ดีดเอาเองสีเอาเอง เมื่อก่อนไม่ต้องจ้างมีงานอะไร ก็มีทะแยมอญแสดงแล้ว งานบวช งานแต่งงาน …”
ดังนั้นการละเล่นทะแยมอญ จึงถือเป็นวัฒนธรรมและวรรณกรรมมุขปาถะ ที่ใช้ภาษามอญในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ และใช้เครื่องดนตรีในการให้จังหวะขับกล่อมบรรเลงอย่างน่าฟัง ซึ่งมีผู้ศึกษางานวรรณกรรมและประเพณีต่างๆหลายท่าน ได้วิเคราะห์ทางจิตวิทยาการเมือง เชื่อมโยงกับความคิดทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจว่า การเป็นชนชาติไร้แผ่นดิน ทำให้วิถีแห่งศิลปะในชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านั้น ได้ถูกถ่ายทอดออกมาในท่วงทำนอง และเนื้อหาที่เศร้าสร้อย โศกสลด ท่วงทำนองที่โหยหวน เศร้า ชวนวังเวง เช่นการละเล่นของมอญ ดังเช่น เพลงมอญ มอญร้องไห้ มอญรำ ซึ่งมักจะนำไปใช้ในงานศพเป็นหลัก แต่ในทางตรงกันข้ามทะแยมอญ กลับเป็นการละเล่น ที่ใช้ศิลปะไหวพริบและทักษะทางด้านดนตรีของผู้ขับร้องและผู้แต่ง ประพันธ์วรรณกรรมในเวลาเดียวกัน โดยการแต่งกลอนสดด้นไป และประกอบการร่ายรำไปพร้อมกัน โดยมีดนตรีประกอบจังหวะ โต้ตอบกันระหว่างชาย-หญิง สาระเนื้อหา ที่สื่อออกมาก็มีการปรับเปลี่ยน ตามสถานการณ์และตามปฎิภาณไหวพริบของแต่ละคน และเนื้อหายังสอดคล้องไปกับสภาพของงานแต่ละงาน ว่าเป็นงานบุญ งานบวช งานแต่งงาน หรืองานศพ เป็นต้น อีกทั้งดนตรีที่บรรเลงสอดประสานก็มีความพริ้วไหว บีบคั้นอารมณ์ สนุกสานรื่นเริงคละเค้ากันไป ที่ใช้ได้ในทุกๆโอกาสด้วย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ทะแยมอญเป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญที่มีความเก่าแก่และมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานจากข้อมูลที่ได้จากการศึกษาภาคสนามพบว่าไม่มีใครที่สามารถจะระบุถึงต้นกำเนิดของทะแยมอญได้ชัดเจนว่าเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดบอกได้แค่เพียงว่าเมื่อเกิดขึ้นมาจำความได้ก็ได้พบเห็นการแสดงชนิดนี้แล้วจากการค้นหาเอกสารที่เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์มอญพบว่าการละเล่นทะแยมอญนี้มีมาตั้งนานแล้วและปรากฎในพงศาวดารเรื่องราชาธิราชที่กล่าวถึงชาวบ้านในสมัยนั้นร้องเพลงทะแยมอญกล่อมเด็กหรือบอกนิมิตรต่างๆที่ปรากฎในบางตอนของเรื่องราชาธิราชนี้ซึ่งคาดว่าการละเล่นชนิดนี้คงเป็นการละเล่นที่มีมานานแล้วเป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำหน้าที่ทางสังคมและวัฒนธรรมให้กับกลุ่มชาติพันธุ์มอญตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันสำหรับการละเล่นทะแยมอญในชุมชนมอญหมู่บ้านบางกระดี่เกิดขึ้นจากความสนใจและความชอบร่วมกันโดยใช้ใช้เวลาว่างจากการทำการเกษตรทำไร่ทำนาก็หยิบเครื่องดนตรีที่ตนถนัดมาคนละชิ้นมานั่งเล่นรวมกันดังเช่นที่คุณลุงกัลยาหัวหน้าคณะหงษ์ฟ้ารามัญซึ่งเป็นวงทะแยมอญวงเดียวที่ยังเหลืออยู่และก่อตั้งมาประมาณ20กว่าปีแล้ว บอกกับผมว่า "ทะแยมอญมีมานานตั้งแต่ผมเล็ก ๆ เลยเวลาเลิกจากนาเขาก็มารุมคนนั้นชิ้นคนนี้ชิ้นเวลามีงานเขาก็มีทะแยมอญมาร้องรำเป็นประจำหมู่บ้านเลยละทะแยมอญคนเฒ่าคนแก่ก็รักษาสืบทอดกับลูกหลานต่อๆมา... รุ่นเก่าๆเหลือไม่กี่คนแล้วที่เป็นเครื่องสายเห็นแกสีซอดีดจระเข้ก็สนใจ... เมื่อก่อนผมทำงานการไฟฟ้านครหลวงมีซอด้วงอันเดียวเล่นไม่เป็นขึ้นสายก็ไม่เป็นมีคนแก่เขียนโน้ตให้เพลงหนึ่งลาวเชิงเทียนง่ายๆสั้นๆหน่อยก็เป็นต่อมาตามผู้ใหญ่ไปแสดงบ่อย ๆ ก็จำเอาดีดเอาเองสีเอาเองเมื่อก่อนไม่ต้องจ้างมีงานอะไรก็มีทะแยมอญแสดงแล้วงานบวชงานแต่งงาน..." ดังนั้นการละเล่นทะแยมอญ จึงถือเป็นวัฒนธรรมและวรรณกรรมมุขปาถะ ที่ใช้ภาษามอญในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ และใช้เครื่องดนตรีในการให้จังหวะขับกล่อมบรรเลงอย่างน่าฟัง ซึ่งมีผู้ศึกษางานวรรณกรรมและประเพณีต่างๆหลายท่าน ได้วิเคราะห์ทางจิตวิทยาการเมือง เชื่อมโยงกับความคิดทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจว่า การเป็นชนชาติไร้แผ่นดิน ทำให้วิถีแห่งศิลปะในชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านั้น ได้ถูกถ่ายทอดออกมาในท่วงทำนอง และเนื้อหาที่เศร้าสร้อย โศกสลด ท่วงทำนองที่โหยหวน เศร้า ชวนวังเวง เช่นการละเล่นของมอญ ดังเช่น เพลงมอญ มอญร้องไห้ มอญรำ ซึ่งมักจะนำไปใช้ในงานศพเป็นหลัก แต่ในทางตรงกันข้ามทะแยมอญ กลับเป็นการละเล่น ที่ใช้ศิลปะไหวพริบและทักษะทางด้านดนตรีของผู้ขับร้องและผู้แต่ง ประพันธ์วรรณกรรมในเวลาเดียวกัน โดยการแต่งกลอนสดด้นไป และประกอบการร่ายรำไปพร้อมกัน โดยมีดนตรีประกอบจังหวะ โต้ตอบกันระหว่างชาย-หญิง สาระเนื้อหา ที่สื่อออกมาก็มีการปรับเปลี่ยน ตามสถานการณ์และตามปฎิภาณไหวพริบของแต่ละคน และเนื้อหายังสอดคล้องไปกับสภาพของงานแต่ละงาน ว่าเป็นงานบุญ งานบวช งานแต่งงาน หรืองานศพ เป็นต้น อีกทั้งดนตรีที่บรรเลงสอดประสานก็มีความพริ้วไหว บีบคั้นอารมณ์ สนุกสานรื่นเริงคละเค้ากันไป ที่ใช้ได้ในทุกๆโอกาสด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ทะแยมอญเป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญที่มีความเก่าแก่และมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานจากข้อมูลที่ได้จากการศึกษาภาคสนามพบว่า ว่าเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดบอกได้แค่เพียงว่าเมื่อเกิดขึ้นมาจำความได้ก็ได้พบเห็นการแสดงชนิดนี้แล้ว พบว่าการละเล่นทะแยมอญนี้มีมาตั้งนานแล้วและปรากฎในพงศาวดารเรื่องราชาธิราชที่กล่าวถึงชาวบ้านในสมัยนั้นร้องเพลงทะแยมอญกล่อมเด็ก เป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญ
ในชุมชนมอญหมู่บ้านบางกระดี่ โดยใช้ใช้เวลาว่างจากการทำการเกษตรทำไร่ทำนา มานั่งเล่นรวมกันดังเช่นที่คุณลุงกัลยาหัวหน้าคณะหงษ์ฟ้ารามัญ บอกกับผมว่า "ทะแยมอญมีมานานตั้งแต่ผมเล็ก ๆ เลยเวลาเลิกจากนาเขาก็มารุมคนนั้นชิ้นคนนี้ชิ้นเวลามีงานเขาก็มีทะแยมอญมาร้องรำเป็นประจำหมู่บ้านเลยละทะแยมอญคนเฒ่าคน แก่ก็รักษาสืบทอดกับลูกหลานต่อ ๆ มา ... รุ่นเก่า ๆ เหลือไม่กี่คนแล้วที่เป็นเครื่องสายเห็นแกสีซอดีดจระเข้ก็สนใจ เล่นไม่เป็นขึ้นสายก็ไม่เป็นมีคนแก่เขียนโน้ตให้เพลงหนึ่งลาวเชิงเทียนง่ายๆสั้น ๆ หน่อยก็เป็นต่อมาตามผู้ใหญ่ไปแสดงบ่อยๆก็จำเอาดีดเอาเองสีเอาเองเมื่อก่อนไม่ต้องจ้างมีงานอะไร ก็มีทะแยมอญแสดงแล้วงานบวชงานแต่งงาน ... "
ดังนั้นการละเล่นทะแยมอญ ได้วิเคราะห์ทางจิตวิทยาการเมือง การเป็นชนชาติไร้แผ่นดิน ได้ถูกถ่ายทอดออกมาในท่วงทำนองและเนื้อหาที่เศร้าสร้อยโศกสลดท่วงทำนองที่โหยหวนเศร้าชวนวังเวงเช่นการละเล่นของมอญดังเช่นเพลงมอญมอญร้องไห้มอญรำซึ่งมักจะนำไปใช้ในงานศพเป็นหลัก แต่ในทางตรงกันข้ามทะแยมอญ กลับเป็นการละเล่น ประพันธ์วรรณกรรมในเวลาเดียวกันโดยการแต่งกลอนสดด้นไปและประกอบการร่ายรำไปพร้อมกันโดยมีดนตรีประกอบจังหวะโต้ตอบกันระหว่างชาย - หญิงสาระเนื้อหาที่สื่อออกมาก็มีการปรับเปลี่ยน ว่าเป็นงานบุญงานบวชงานแต่งงานหรืองานศพเป็นต้น บีบคั้นอารมณ์สนุกสานรื่นเริงคละเค้ากันไปที่ใช้ได้ในทุกๆโอกาสด้วย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ทะแยมอญเป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญที่มีความเก่าแก่และมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานจากข้อมูลที่ได้จากการศึกษาภาคสนามพบว่าไม่มีใครที่สามารถจะระบุถึงต้นกำเนิดของทะแยมอญได้ชัดเจนบอกได้แค่เพียงว่าเมื่อเกิดขึ้นมาจำความได้ก็ได้พบเห็นการแสดงชนิดนี้แล้วจากการค้นหาเอกสารที่เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์มอญพบว่าการละเล่นทะแยมอญนี้มีมาตั้งนานแล้วและปรากฎในพงศาวดารเรื่องราชาธิราชร้องเพลงทะแยมอญกล่อมเด็กหรือบอกนิมิตรต่างๆที่ปรากฎในบางตอนของเรื่องราชาธิราชนี้ซึ่งคาดว่าการละเล่นชนิดนี้คงเป็นการละเล่นที่มีมานานแล้วเป็นการละเล่นพื้นบ้านของคนมอญสำหรับการละเล่นทะแยมอญในชุมชนมอญหมู่บ้านบางกระดี่เกิดขึ้นจากความสนใจและความชอบร่วมกันโดยใช้ใช้เวลาว่างจากการทำการเกษตรทำไร่ทำนาก็หยิบเครื่องดนตรีที่ตนถนัดมาคนละชิ้นมานั่งเล่นรวมกันหัวหน้าคณะหงษ์ฟ้ารามัญซึ่งเป็นวงทะแยมอญวงเดียวที่ยังเหลืออยู่และก่อตั้งมาประมาณ 20 กว่าปีแล้วบอกกับผมว่า " ทะแยมอญมีมานานตั้งแต่ผมเล็กๆเลยเวลาเลิกจากนาเขาก็มารุมคนนั้นชิ้นคนนี้ชิ้นเป็นประจำหมู่บ้านเลยละทะแยมอญคนเฒ่าคนแก่ก็รักษาสืบทอดกับลูกหลานต่อๆมารุ่นเก่าๆเหลือไม่กี่คนแล้วที่เป็นเครื่องสายเห็นแกสีซอดีดจระเข้ก็สนใจเมื่อก่อนผมทำงานการไฟฟ้านครหลวงมีซอด้วงอันเดียว . . . . . . . . . . . . . .ขึ้นสายก็ไม่เป็นมีคนแก่เขียนโน้ตให้เพลงหนึ่งลาวเชิงเทียนง่ายๆสั้นๆหน่อยก็เป็นต่อมาตามผู้ใหญ่ไปแสดงบ่อยๆก็จำเอาดีดเอาเองสีเอาเองเมื่อก่อนไม่ต้องจ้างมีงานอะไรก็มีทะแยมอญแสดงแล้วงานบวชงานแต่งงาน . . . . . . . "ดังนั้นการละเล่นทะแยมอญจึงถือเป็นวัฒนธรรมและวรรณกรรมมุขปาถะที่ใช้ภาษามอญในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆและใช้เครื่องดนตรีในการให้จังหวะขับกล่อมบรรเลงอย่างน่าฟังได้วิเคราะห์ทางจิตวิทยาการเมืองเชื่อมโยงกับความคิดทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจว่าการเป็นชนชาติไร้แผ่นดินทำให้วิถีแห่งศิลปะในชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านั้นได้ถูกถ่ายทอดออกมาในท่วงทำนองโศกสลดท่วงทำนองที่โหยหวนเศร้าชวนวังเวงเช่นการละเล่นของมอญดังเช่นเพลงมอญมอญร้องไห้มอญรำซึ่งมักจะนำไปใช้ในงานศพเป็นหลักแต่ในทางตรงกันข้ามทะแยมอญกลับเป็นการละเล่นประพันธ์วรรณกรรมในเวลาเดียวกันโดยการแต่งกลอนสดด้นไปและประกอบการร่ายรำไปพร้อมกันโดยมีดนตรีประกอบจังหวะโต้ตอบกันระหว่างชาย - หญิงสาระเนื้อหาที่สื่อออกมาก็มีการปรับเปลี่ยนและเนื้อหายังสอดคล้องไปกับสภาพของงานแต่ละงานว่าเป็นงานบุญงานบวชงานแต่งงานหรืองานศพเป็นต้นอีกทั้งดนตรีที่บรรเลงสอดประสานก็มีความพริ้วไหวบีบคั้นอารมณ์สนุกสานรื่นเริงคละเค้ากันไป
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: