5.2. Flower crops and ornamentalsDi

5.2. Flower crops and ornamentals

Different chitosan concentrations have been used in various flower crops, such as rose (Rosa spp.) and chrysanthemum (Chrysanthemum indicum L.), to protect the plant against pathogens that induce foliar diseases. Chitosan was applied by foliar spray after the first appearance of symptoms caused by Oidium chrysanthemi and Puccinia horiana on chrysanthemum leaves ( Wojdyla, 2004).

Chitosan also acts as a biostimulant on flower crops. The growth enhancement of in vitro cultures was found in Dendrobium treated with chitosan ( Kananont et al., 2010, Nge et al., 2006 and Pornpienpakdee et al., 2010), while the application of the appropriate chitosan type and concentration enhanced the seed germination percentage of Dendrobium formosum. In contrast, chitosan did not increase the germination rate of Dendrobium bigibbum var. compactum, but rather it improved the growth of D. bigibbum var. compactum protocorms ( Kananont et al., 2010). Different developmental stages of orchids required different stimulants as shown in the process of Dendrobium ‘Eiskul’ micropropagation ( Table 2). In addition, chitosan can be used for exflasking of orchid plants by soaking the whole plants in chitosan solution (Pornpienpakdee et al., 2010).

Chitosan can stimulate the flowering process. When Dendrobium ‘Eiskul’ was sprayed once a week with chitosan it resulted in early flowering and a higher total number of inflorescences compared with non-treated plants ( Limpanavech et al., 2008). The application of 1.0% (w/v) chitosan to the soil also led to early flowering in lisianthus (Eustoma grandiflorum (Raf.) Shinn.; Ohta et al., 1999) and in other flower crops, like Wishbone flower (Torenia fournieri Linden ex E, Fourn.), Persian Violet (Exacum affine Balf.), Elatior begonia (Begonia hiemalis Fotsch.), Gloxinia [Sinningia speciosa (Lodd.) Hiern], garden lobelia (Lobelia erinus L.) and Monkey-Flower (Mimulus × hybridus hort. ex Siebert and Voss; Ohta et al., 2004).

Chitosan treatments of gladiolus (Gladiolus communis L.) by corm dipping before planting stimulated the emergence and increased the number of flowers. It also extended the vase-life of the flowers and increased the number of cormlets ( Ramos-García et al., 2009). Similarly, high-MW chitosan application by corm dipping freesia led to an increase in plant growth and chlorophyll content, and to early flowering with an increased number of inflorescence shoots. In addition, the number and weight of corms were also increased (Salachna and Zawadzińska, 2014).

Chitosan enhances the levels of secondary metabolites in many species. When lisianthus floral buds were placed in a chitosan solution with different types of sugar, the anthocyanin accumulation in the petals increased, but this response was sugar and cultivar dependent (Jamal Uddin et al., 2001).

The experimental results of chitosan use on flowers and ornamental plants are summarized in Table 3.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5.2. ดอกไม้พืชและ ornamentalsมีการใช้ความเข้มข้นของไคโตซานที่แตกต่างกันในพืชดอกไม้ต่าง ๆ โรส (โรโอ) และเบญจมาศ (เก๊กฮวย L.), การป้องกันพืชจากโรคที่ก่อให้เกิดโรค foliar ไคโตซานถูกใช้สเปรย์ foliar หลังแรกลักษณะอาการสาเหตุ Oidium chrysanthemi และ horiana Puccinia ในเบญจมาศใบ (Wojdyla, 2004)ไคโตซานยังทำหน้าที่เป็น biostimulant บนดอกไม้พืช เพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตในวัฒนธรรมพบในกล้วยไม้สกุลหวายรับไคโตซาน (Kananont et al., 2010, Nge et al., 2006 และ Pornpienpakdee et al., 2010), ใน ขณะที่แอพลิเคชันชนิดไคโตซานที่เหมาะสมและความเข้มข้นเพิ่มเปอร์เซ็นต์การงอกของเมล็ดของกล้วยไม้สกุลหวาย formosum ในทางตรงกันข้าม ไคโตซานไม่ได้เพิ่มอัตราการงอกของกล้วยไม้สกุลหวาย bigibbum เพียง compactum แต่ค่อนข้าง มันพัฒนาเจริญเติบโตของ D. bigibbum เพียง compactum protocorms (Kananont et al., 2010) ขั้นพัฒนาต่าง ๆ ของกล้วยไม้จำเป็นสารกระตุ้นอย่างแตกต่างกันมากระหว่างกล้วยไม้สกุลหวาย 'Eiskul' micropropagation (ตารางที่ 2) นอกจากนี้ สามารถใช้สำหรับ exflasking ของพืชกล้วยไม้ไคโตซาน โดยแช่พืชทั้งหมดในไคโตซานโซลูชั่น (Pornpienpakdee et al., 2010)ไคโตซานสามารถกระตุ้นกระบวนการดอก เมื่อกล้วยไม้สกุลหวาย 'Eiskul' ถูกฉีดพ่นเมื่อสัปดาห์ ด้วยไคโตซานที่จะส่งผลให้ต้นเวอร์ริ่งและสูงรวมจำนวนช่อเขียวเปรียบเทียบกับพืชที่ไม่ได้รับ (Limpanavech et al., 2008) การประยุกต์ใช้ไคโตซาน 1.0% (w/v) ในดินที่ยัง นำไปดอกแรกใน lisianthus (Eustoma grandiflorum (Raf) ชิน Ohta et al., 1999) และ ใน พืชอื่น ๆ ดอกไม้ เช่นดอกไม้ Wishbone (Torenia fournieri ลินเดนอดีต E, Fourn.), ม่วงเปอร์เซีย (Exacum affine Balf.) โคเน่ Elatior (โคเน่ hiemalis Fotsch.), Gloxinia [น้ำ Sinningia (Lodd) Hiern], การ์โล (โล erinus L.) และประดู่ (Mimulus × hybridus hort. อดีต Siebert และ Voss Ohta et al., 2004)ไคโตซานบำบัดของแกลดิโอลัส (แกลดิโอลัส communis L.) โดย corm จุ่มก่อนปลูกถูกกระตุ้นเกิด และเพิ่มจำนวนของดอกไม้ นอกจากนี้ยังขยายชีวิตแจกันของดอกไม้ และเพิ่มจำนวน cormlets (Ramos García et al., 2009) ในทำนองเดียวกัน ใช้ไคโตซานสูง MW โดยจุ่ม freesia corm นำขึ้นเจริญเติบโตของพืชและคลอโรฟิลล์เนื้อหา และดอกต้น ด้วยจำนวนยอด inflorescence เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จำนวนและน้ำหนักของ corms ได้ยังเพิ่มขึ้น (Salachna และ Zawadzińska, 2014)ไคโตซานช่วยเพิ่มระดับของ metabolites รองในหลายชนิด เมื่อ lisianthus อาหารดอกไม้ไว้ในโซลูชันไคโตซานกับน้ำตาลชนิดต่าง ๆ สะสมมีโฟเลทสูงในกลีบดอกเพิ่ม แต่การตอบสนองนี้มีน้ำตาลและ cultivar ขึ้น (กาฐมาณฑุ Uddin et al., 2001)ผลการทดลองของไคโตซานใช้กับดอกไม้ และไม้ประดับได้สรุปไว้ในตาราง 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5.2 พืชและดอกไม้ประดับความเข้มข้นของไคโตซานที่แตกต่างกันมีการใช้ในพืชดอกไม้ต่างๆเช่นดอกกุหลาบ (Rosa spp.) และดอกเบญจมาศ (ดอกเบญจมาศ indicum L. ) เพื่อป้องกันพืชกับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคทางใบ ไคโตซานถูกนำมาใช้โดยการฉีดพ่นทางใบหลังจากที่ปรากฏตัวครั้งแรกของอาการที่เกิดจากการ Oidium chrysanthemi และ Puccinia horiana บนใบดอกเบญจมาศ (Wojdyla, 2004). ไคโตซานยังทำหน้าที่เป็น biostimulant กับพืชดอก การเพิ่มประสิทธิภาพของการเจริญเติบโตของในวัฒนธรรมหลอดทดลองพบว่าในกล้วยไม้สกุลหวายรับการรักษาด้วยไคโตซาน (Kananont et al., 2010 Nge et al., 2006 และ Pornpienpakdee et al., 2010) ในขณะที่การประยุกต์ใช้ชนิดไคโตซานที่เหมาะสมและความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นเมล็ด งอกร้อยละของ Dendrobium formosum ในทางตรงกันข้ามไคโตซานไม่ได้เพิ่มอัตราการงอกของกล้วยไม้สกุลหวาย bigibbum วา Compactum แต่ค่อนข้างจะดีขึ้นการเจริญเติบโตของดี bigibbum วา Compactum โปรโตคอร์ (Kananont et al., 2010) ระยะการพัฒนาที่แตกต่างกันของกล้วยไม้ที่ต้องการกระตุ้นที่แตกต่างกันตามที่ปรากฏในกระบวนการของกล้วยไม้สกุลหวาย 'Eiskul' การขยาย (ตารางที่ 2) นอกจากนี้ไคโตซานสามารถใช้สำหรับการ exflasking ของพืชโดยการแช่กล้วยไม้พืชทั้งในสารละลายไคโตซาน (Pornpienpakdee et al., 2010). ไคโตซานสามารถกระตุ้นกระบวนการออกดอก เมื่อหวาย 'Eiskul' พ่นสัปดาห์ละครั้งด้วยไคโตซานที่มันส่งผลให้ดอกต้นและจำนวนที่สูงขึ้นของช่อดอกเมื่อเทียบกับพืชที่ไม่ได้รับการรักษา (ลิตลิมปนะเวช et al., 2008) การประยุกต์ใช้ 1.0% (ที่ w / v) ไคโตซานไปยังดินยังนำไปสู่การออกดอกในช่วงต้น lisianthus (Eustoma grandiflorum (Raf.) Shinn .; Ohta et al., 1999) และในพืชดอกไม้อื่น ๆ เช่นดอกไม้ Wishbone (Torenia fournieri ลินเด้นอดีต E, Fourn.) เปอร์เซียสีม่วง (Exacum เลียนแบบ Balf.) elatior ต้นดาดตะกั่ว (Begonia hiemalis Fotsch.) Gloxinia [Sinningia speciosa (Lodd.) Hiern], สวนพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง (โลบีเลีย erinus L. ) และลิงดอกไม้ ( Mimulus × hybridus Hort อดีตเบิร์ทและโว;... Ohta, et al, 2004) การรักษาของไคโตซานพืชไม้ดอก (พืชไม้ดอก communis L. ) โดยการจุ่มหัวก่อนปลูกกระตุ้นการเกิดขึ้นและการเพิ่มจำนวนของดอกไม้ นอกจากนี้ยังขยายแจกันชีวิตของดอกไม้และเพิ่มจำนวนของ cormlets (รามอสการ์เซีย-et al., 2009) ในทำนองเดียวกันการประยุกต์ใช้สูงเมกะวัตต์ไคโตซานจากฟรีเซียจุ่มหัวนำไปสู่การเพิ่มขึ้นในการเจริญเติบโตของพืชและเนื้อหาคลอโรฟิลและต้นดอกมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นของยอดช่อดอก นอกจากนี้จำนวนและน้ำหนักของเหง้ายังเพิ่มขึ้น (Salachna และZawadzińska 2014). ไคโตซานช่วยเพิ่มระดับของสารรองในหลายชนิด เมื่อตาดอกไม้ lisianthus ถูกวางไว้ในการแก้ปัญหาไคโตซานที่มีชนิดที่แตกต่างกันของน้ำตาลสะสม anthocyanin ในกลีบที่เพิ่มขึ้น แต่การตอบสนองนี้คือน้ำตาลและพันธุ์ขึ้นอยู่กับ (ออสการ์ Uddin et al., 2001). ผลการทดลองการใช้ไคโตซานบนดอกไม้ และไม้ประดับได้สรุปไว้ในตารางที่ 3