Despite being a medium-sized countr

Despite being a medium-sized country with an unstable political system, Thailand has long demonstrated been recognized for its practice of shrewd diplomacy, which successfully served to main its independence throughout difficult periods in the country's history." Thai leaders demonstrated that the art of diplomacy was carefully crafted not only to defend their nation from all kinds threat, but also to raise the global Thai profile as one of the predominant players in mainland Southeast Asia. In retrospect, there are at least two major international events that put the are Thai diplomacy to the test: the colonial period and the second world war. These historical episodes allowed Thai leaders to sharpen their diplomatic skills as they dealt with the outside world. Siam, the former name of Thailand, was the only country in Southeast Asia never to have been officially colonised by foreign Powers? It was able to escape colonialism, according to the majority of Thai historians, because of the resilience and flexibility of Thai diplomacy, buttressed by two factors: its geographical position as a buffer state between Britain and France and the far sightedness and ingenuity of king Chulalongkorn (1868-1910). The King apparently attempted to create a balance of power between two European nations by blurring the line of allegiance to make the kingdom somewhat independent. Equally sharp-witted diplomacy was continually practiced during the Second World War, when Thailand succeeded in being on both sides, the Axis and the Allies. Whereas the Phibun Songkhran Government (1936-44) formed an alliance with Japan and declared war on the United States, the Thai ambassador in Washington, seni Pramoj, lent his support to the pro-Allied Free Thai' movement. At the war's end, the Free Thai movement claimed to represent the real stance of wartime Thailand, an argument broadly accepted by the Americans. This reflected a rare feat of foreign-policy flexibility. Through centuries, Thai leaders have prided themselves on a mastery of bamboo diplomacy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้จะเป็นประเทศขนาดกลางกับระบบการเมืองไม่มั่นคง ไทยได้นานแสดงให้เห็นการยอมรับสำหรับการปฏิบัติของการทูตฉลาด ซึ่งสำเร็จหลักการอิสรภาพตลอดระยะเวลาที่ยากในประวัติศาสตร์ของประเทศ " ผู้นำไทยแสดงให้เห็นว่า ศิลปะการเจรจาต่อรองถูกคัดสรรเพื่อไม่เพียงแต่ เพื่อปกป้องชาติจากภัยคุกคามทุกชนิด แต่ยังเพิ่มค่าไทยทั่วโลกเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการหวนกลับ มีเหตุการณ์ระหว่างประเทศใหญ่น้อยสองที่ใส่มีทูตไทยไปทดสอบ: ยุคอาณานิคมและสงครามโลกครั้งสอง ตอนนี้อดีตผู้นำไทยคมทักษะทางการทูต ตามที่พวกเขาจัดการกับโลกภายนอกได้ สยาม ชื่อเดิมของประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เคยไปได้เป็นอย่างเป็นทางเมือง โดยอำนาจต่างประเทศ ก็สามารถที่จะหนีลัทธิ ตามส่วนใหญ่ของประวัติศาสตร์ไทย เนื่องจากความยืดหยุ่นและความยืดหยุ่นของการทูตไทย ค้ำยัน โดยปัจจัยที่สอง: ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เป็นรัฐกันชนระหว่างอังกฤษ และฝรั่งเศส และ sightedness ไกล และความฉลาดของกษัตริย์จุฬาลงกรณ์ (1868-1910) เห็นได้ชัดว่ากษัตริย์พยายามสร้างดุลอำนาจระหว่างสองประเทศยุโรปโดยบรรทัดของความจงรักภักดีเพื่อให้ราชอาณาจักรค่อนข้างอิสระ เท่า ๆ กัน การทูต sharp-witted ถูกอย่างต่อเนื่องฝึกในระหว่างสงครามโลกครั้งสอง เมื่อประเทศไทยประสบความสำเร็จได้ทั้งสองด้าน แกนและพันธมิตร ในขณะที่รัฐบาลเทศกาลสงกรานต์พิบูลย์ (1936-44) เกิดเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่นและประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกา เอกอัครราชทูตไทยในวอชิงตัน เสนีหม่อมราชวงศ์ปราโมช ยืมของเขาสนับสนุนพันธมิตรโปไทยฟรี ' เคลื่อนไหว ในตอนท้ายของสงคราม เสรีไทยอ้างว่า การแสดงท่าทางจริงของยามสงครามไทย อาร์กิวเมนต์ที่ยอมรับโดยทั่วไป นี้แสดงผลงานของความยืดหยุ่นของนโยบายต่างประเทศหายาก ผ่านศตวรรษ ผู้นำไทยมี prided ตัวเองในความเชี่ยวชาญการทูตไม้ไผ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้จะเป็นประเทศที่มีขนาดกลางที่มีระบบการเมืองที่ไม่แน่นอนประเทศไทยได้นานแสดงให้เห็นถึงการได้รับการยอมรับสำหรับการปฏิบัติของการเจรจาต่อรองที่ชาญฉลาดซึ่งประสบความสำเร็จในหน้าที่หลักความเป็นอิสระตลอดระยะเวลาที่ยากลำบากในประวัติศาสตร์ของประเทศ. "ผู้นำไทยแสดงให้เห็นว่าศิลปะของการเจรจาต่อรอง ถูกสร้างขึ้นอย่างรอบคอบไม่เพียง แต่จะปกป้องประเทศชาติของพวกเขาจากทุกชนิดภัยคุกคาม แต่ยังจะเพิ่มรายละเอียดไทยทั่วโลกเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นในแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้. ในการหวนกลับมีอย่างน้อยสองเหตุการณ์ระหว่างประเทศที่สำคัญที่ทำให้มีการเจรจาต่อรองของไทย การทดสอบ.. ยุคอาณานิคมและสงครามโลกครั้งที่สองเหล่านี้ได้รับอนุญาตให้ผู้นำไทยคมชัดของทักษะการเจรจาต่อรองของพวกเขาขณะที่พวกเขาจัดการกับโลกภายนอกสยามในอดีตชื่อของประเทศไทยตอนประวัติศาสตร์เป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เคยที่จะมี ? เป็นอาณานิคมอย่างเป็นทางการจากประเทศมหาอำนาจมันก็สามารถที่จะหลบหนีการล่าอาณานิคมตามเสียงส่วนใหญ่ของประวัติศาสตร์ไทยเพราะความยืดหยุ่นและความยืดหยุ่นของการทูตไทยยันจากสองปัจจัยตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นรัฐกันชนระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสและ สายตายาวไกลและความฉลาดของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า (1868-1910) พระมหากษัตริย์ทรงเห็นได้ชัดว่าพยายามที่จะสร้างความสมดุลของอำนาจระหว่างสองประเทศในยุโรปโดยการทำให้ฟางเส้นของความจงรักภักดีที่จะทำให้ราชอาณาจักรค่อนข้างอิสระ อย่างเท่าเทียมกันทางการทูตแหลมเป็นประสบการณ์อย่างต่อเนื่องในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อประเทศไทยประสบความสำเร็จในการที่ทั้งสองฝ่ายอักษะและพันธมิตร ในขณะที่รัฐบาลพิบูลย์ Songkhran (1936-1944) เป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่นและประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาทูตไทยในกรุงวอชิงตันเสนีย์ปราโมชให้การสนับสนุนของเขาที่จะเคลื่อนไหว Pro-พันธมิตรฟรีไทย เมื่อสงครามสิ้นสุดที่เสรีไทยอ้างว่าเป็นตัวแทนของจุดยืนที่แท้จริงของสงครามไทยโต้แย้งได้รับการยอมรับในวงกว้างโดยชาวอเมริกัน นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จที่หายากของความยืดหยุ่นในนโยบายต่างประเทศ ผ่านศตวรรษผู้นำไทยได้ภาคภูมิใจในการเรียนรู้ของการเจรจาต่อรองไม้ไผ่