Emerging research suggests drinking

Emerging research suggests drinking alcohol to fall asleep may ultimately be counterproductive as the drug interferes with sleep homeostasis, the body’s sleep-regulating mechanism.

Researchers from the University of Missouri School of Medicine believe that over time, the impairment in normal sleep function can result in insomnia.

The findings are important because many individuals drink as an effort to aid sleep. In fact, alcohol is known to be a powerful somnogen, or sleep inducer, and approximately 20 percent of the U.S. adult population drinks alcohol to help fall asleep.

The researchers, led by Mahesh Thakkar, Ph.D., have studied alcohol’s effects on sleep for more than five years. They found that alcohol interferes with the brain’s built-in system for regulating a person’s need for sleep.

“The prevailing thought was that alcohol promotes sleep by changing a person’s circadian rhythm — the body’s built-in 24-hour clock,” Thakkar said.

“However, we discovered that alcohol actually promotes sleep by affecting a person’s sleep homeostasis — the brain’s built-in mechanism that regulates your sleepiness and wakefulness.”

Sleep homeostasis balances the body’s need for sleep in relation to how long a person has been awake. If an individual loses sleep, the body produces adenosine, a naturally occurring sleep-regulating substance that increases a person’s need for sleep.

When a person goes to sleep early, sleep homeostasis is shifted and he or she may wake up in the middle of the night or early morning. The researchers found that alcohol alters the sleep homeostatic mechanism and puts pressure on an individual to sleep. When this happens, the sleep period is shifted, and a person may experience disrupted sleep.

“Based on our results, it’s clear that alcohol should not be used as a sleep aid,” said Pradeep Sahota, M.D., chair of the University of Missouri School of Medicine’s Department of Neurology and an author of the study.

“Alcohol disrupts sleep and the quality of sleep is diminished. Additionally, alcohol is a diuretic, which increases your need to go the bathroom and causes you to wake up earlier in the morning.”

In addition to studying alcohol’s impact on sleep homeostasis, the researchers explored how alcohol withdrawal affects sleep.

The investigators found that after extended periods of frequent drinking, subjects would fall asleep as expected, but would wake within a few hours and would be unable to fall back asleep. When the subjects were not given alcohol, the researchers found that subjects showed symptomatic insomnia.

“During acute alcohol withdrawal, subjects displayed a significant increase in wakefulness with a reduction in rapid eye movement (REM) and non-rapid eye movement sleep,” Thakkar said. “This caused insomnia-like symptoms and suggests an impaired sleep homeostasis.”

The researchers hope to use these findings to explore other effects of alcohol consumption.

“Sleep is an immense area of study,” Thakkar said. “Approximately one-third of our life is spent sleeping. Coupled with statistics that show 20 percent of people drink alcohol to sleep, it’s vital that we understand how the two interact.

“If you are experiencing difficulty sleeping, don’t use alcohol. Talk to your doctor or a sleep medicine physician to determine what factors are keeping you from sleeping. These factors can then be addressed with individualized treatments.”

The study has been published in the journal Alcohol.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกิดใหม่พบว่าการดื่มแอลกอฮอล์ที่จะหลับไปในท้ายที่สุดอาจจะ counterproductive เป็นยารบกวนการนอนสมดุลของร่างกาย , นอนที่ควบคุมกลไกนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิสซูรีโรงเรียนแพทย์เชื่อว่า เมื่อเวลาผ่านไป บกพร่องในหน้าที่นอนปกติ อาจส่งผลให้นอนไม่หลับข้อมูลสิ่งสําคัญ เพราะหลายคนดื่มเป็นความพยายามเพื่อช่วยนอนหลับ ในความเป็นจริง , แอลกอฮอล์เป็นที่รู้จักกันเป็น somnogen ที่มีประสิทธิภาพ หรือนอน inducer และประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรผู้ใหญ่ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อช่วยให้หลับนักวิจัยนำโดย Mahesh ฐักการ , ปริญญาเอก , เรียนต่อ นอนแอลกอฮอล์ กว่าห้าปี พวกเขาพบว่า แอลกอฮอล์รบกวนสมองของระบบในตัวสำหรับการควบคุมของคนต้องนอน" ในขณะนั้นคิดว่าเป็นแอลกอฮอล์ที่ส่งเสริมการนอนหลับโดยการเปลี่ยนแปลงของคน จังหวะที่เป็นกลาง - ของร่างกายในตัว 24 ชั่วโมงนาฬิกา " ฐักการกล่าว" อย่างไรก็ตาม เราพบว่าแอลกอฮอล์จริงส่งเสริมนอน โดยมีผลต่อสมดุลของคนนอนหลับ - สมองของตัวกลไกที่ควบคุมของคุณความง่วงและความตื่นตัว”สมดุลสมดุลของร่างกาย ต้องนอนให้หลับอยู่ในความสัมพันธ์กับระยะเวลาที่บุคคลได้รับการฟื้น ถ้าบุคคลจะหลับ ร่างกายผลิตสารอะดีโนซีนเป็นสารเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือนอนที่เพิ่มคนก็ต้องนอนเมื่อบุคคลไปเข้านอน นอนสมดุลเปลี่ยนไปและเขาหรือเธออาจจะตื่นในตอนกลางคืนหรือตอนเช้า นักวิจัยพบว่า แอลกอฮอล์ไปหลับ homeostatic กลไกและกดดันบุคคลนอนหลับ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ , ระยะเวลาการนอนหลับเปลี่ยนไป และคนอาจพบรบกวนการนอนหลับ" บนพื้นฐานของผลของเรา มันชัดเจนว่า แอลกอฮอล์ ไม่ควรใช้เป็นเครื่องช่วยการนอนหลับ กล่าว และ sahota , M.D . , เก้าอี้ของมหาวิทยาลัยมิสซูรีโรงเรียนแผนกยาของประสาทวิทยาและผู้เขียนของการศึกษา" เหล้ารบกวนการนอนหลับและคุณภาพของการนอนหลับลดลง นอกจากนี้ แอลกอฮอล์เป็นยาขับปัสสาวะ ซึ่งเพิ่มความต้องการของคุณไปที่ห้องน้ำ และทำให้คุณตื่นในตอนเช้า "นอกจากการเรียนต่อนอนแอลกอฮอล์เกี่ยวข้อง นักวิจัยได้สำรวจวิธีการถอนแอลกอฮอล์มีผลต่อการนอนหลับนักวิจัยพบว่าหลังจากที่ขยายระยะเวลาการดื่มบ่อย คนก็หลับอย่างที่คิด แต่จะฟื้นภายในไม่กี่ชั่วโมงและจะไม่สามารถถอยหลับ เมื่อคนไม่ได้รับแอลกอฮอล์ นักวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างแสดงอาการนอนไม่หลับ ." ในระหว่างการถอนแอลกอฮอล์เฉียบพลัน เพื่อแสดงผลการเพิ่มความตื่นตัวกับการลดลงของการเคลื่อนไหวของตาอย่างรวดเร็ว ( REM ) และไม่ใช่อย่างรวดเร็วตาเคลื่อนไหวนอน " ฐักการกล่าว " นี่ ทำให้นอนไม่หลับ เช่น อาการ และแสดงให้เห็นการบกพร่องนอนหลับสมดุล”นักวิจัยหวังว่าจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อศึกษาผลของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์" นอนอยู่ในพื้นที่อันยิ่งใหญ่ของการศึกษา " ฐักการกล่าว " ประมาณหนึ่งในสามของชีวิตของเราจะใช้นอน คู่กับสถิติที่แสดง 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์นอน มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราเข้าใจว่าทั้งสองโต้ตอบ" หากคุณกำลังประสบกับปัญหาการนอน ไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์ . พูดคุยกับแพทย์หรือแพทย์ของคุณเพื่อตรวจสอบว่า ยา นอน ปัจจัยที่จะรักษาคุณจากการนอน ปัจจัยเหล่านี้สามารถ addressed กับรายบุคคล " รักษาการศึกษาได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร แอลกอฮอล์