The degraded land rehabilitation pr

The degraded land rehabilitation programs that was actually initiated since 1930 in Jawa, and
more intensive since 1976 when FAO supported loan for Upper Solo Watershed Management
and Upland Development project, and the availability of Aforestation and Reforestation
Grant through Presidential Instruction No. 8/76, 1976 are more focused on direct reduction of
surface run-off and erosion through physical measures approaches such as trees planting,
terraces, check dams and other constructions development, but less attention to find and solve
the root problems causes the deforestation and inappropriate land uses itself.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โครงการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมที่จริงเริ่มตั้งแต่ 1930 ใน Jawa และเข้มข้นมากขึ้นตั้งแต่ปี 1976 เมื่อ FAO สนับสนุนสินเชื่อสำหรับการจัดการลุ่มน้ำเดียวด้านบนและโครงการพัฒนาที่แห้ง และ Aforestation และปลูกป่าเงินช่วยเหลือผ่านประธานาธิบดีสอนเลข 8/76, 1976 จะเน้นลดโดยตรงทิ้งพื้นผิวและกัดเซาะผ่านแนวทางมาตรการทางกายภาพเช่นต้นไม้ที่ปลูกระเบียง ฝาย และพัฒนาก่อสร้างอื่น ๆ แต่น้อยกว่าความสนใจในการค้นหา และแก้ปัญหารากทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า และใช้ที่ดินไม่เหมาะสมเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เสื่อมโทรมโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพดินแดนที่ได้ริเริ่มขึ้นจริงตั้งแต่ปี 1930 ใน Jawa และ
เข้มข้นมากขึ้นตั้งแต่ปี 1976 เมื่อเอฟเอโอได้รับการสนับสนุนเงินกู้เพื่อ Upper เดี่ยวจัดการลุ่มน้ำ
และพัฒนาพื้นที่สูงโครงการและความพร้อมของ Aforestation และปลูกป่า
แกรนท์ผ่านการเรียนการสอนประธานาธิบดีเลขที่ 8/76, 1976 จะเน้นการลดโดยตรงของ
พื้นผิวที่วิ่งออกและการพังทลายผ่านมาตรการทางกายภาพอื่น ๆ เช่นการปลูกต้นไม้,
ระเบียงฝายแม้วและที่ดินอื่น ๆ การพัฒนา แต่ความสนใจน้อยในการค้นหาและแก้
ปัญหารากทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าและที่ดินที่ไม่เหมาะสมจะใช้ตัวเอง .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมโปรแกรมที่จริงเริ่มต้นตั้งแต่ 1930 ในชวาและเพิ่มเติมอย่างเข้มข้นตั้งแต่ 1976 เมื่อองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติสนับสนุนเงินกู้เพื่อการจัดการลุ่มน้ำบนเดี่ยวโครงการพัฒนาที่สูง และความพร้อมของ aforestation และฟื้นฟูสภาพป่าให้ผ่านประธานาธิบดีไม่สอน 8 / 76 , 1976 จะเน้นมากขึ้นในการโดยตรง- การกัดเซาะพื้นผิวและผ่านมาตรการแนวทางกายภาพ เช่น ต้นไม้ การปลูกห้องตรวจสอบเขื่อนและการพัฒนาการก่อสร้างอื่นๆ แต่ความสนใจน้อยมากที่จะค้นหาและแก้ไขรากปัญหาสาเหตุการทำลายป่าและการใช้ที่ดินไม่เหมาะสมนั่นเอง