Limitations and RisksSmaller partic

Limitations and Risks
Smaller particles occupy less volume, but have
a higher surface area per unit mass. This
dramatically increases the availability of surface
groups for biologic interaction and it could lead
to the development of whole new classes of
irritants, allergens, haptens, cross-reactants,
and unanticipated particle-particle interactions.
From this point of view, the toxic potential of
nanosubstances and nanomaterials is exponentially
proportional to a decrease in particle size
(35–37).
Small particles can penetrate the skin and particles
7000 nm in size or smaller can penetrate
skin that is damaged (38–40). Disease states such
as atopic dermatitis, contact dermatitis, acne, seborrheic
dermatitis, and psoriasis can make the
skin more permeable. Simple acts such as shaving
or injuries such as sunburns, cuts, or scrapes
can increase cutaneous permeability. Skin care
products containing nanoparticles or nanoemulsions
include cosmetics, sunscreens, toothpastes,
shaving creams, and shampoos that are often
formulated with penetration enhancers (40).
Foreign body granulomas or Melkersson–
Rosenthal like granulomatous cheilitis due to
the reaction to exogenous materials could also
become more common as a consequence of a
larger use of nanoparticle in cosmetics (41).
Finally, nanoparticles have the potential to
damage DNA and cell membranes. Once particles
enter the skin, nanomaterials can be allergenic
or toxic at a variety of cellular and
subcellular levels (42).
Conclusions
In this article, current and future promising
applications of nanomedicine in dermatology
have been described. Nanotherapeutics found
application in both topical and systemic treatments
and benefits are relevant in esthetic
dermatology, treatment of malignancies, and
inflammatory skin diseases.
Moreover, new direction in medical diagnosis
and monitoring of skin diseases include a lager
use of gold nanoparticle, quantum dots and
magnetic nanoparticles in the development of
non-invasive nanoimaging of high-resolution
dermoscopy, microscopy, and sentinel lymphnode.
These findings will offer great advances
in diagnostic and therapeutic modalities. However,
particle reactivity and toxicity seem to be
exponentially proportional to a decrease in particle
size and we cannot predict the hazards
associated with nanomaterials.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อจำกัดและความเสี่ยงอนุภาคขนาดเล็กครอบครองปริมาณน้อย แต่มีพื้นที่สูงต่อหน่วยโดยรวม นี้พร้อมใช้งานของพื้นผิวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากกลุ่มการโต้ตอบที่อุบัติและอาจการพัฒนาชั้นเรียนใหม่ทั้งหมดของเมื่อสารก่อภูมิแพ้ haptens,, reactants ข้ามและอนุภาคอนุภาคสภาวะโต้ตอบจากมุมนี้มอง ศักยภาพของพิษnanosubstances และ nanomaterials จะสร้างสัดส่วนการลดขนาดอนุภาค(35 – 37)อนุภาคขนาดเล็กสามารถเจาะผิวและอนุภาคสามารถเจาะ 7000 nm ขนาด หรือเล็กลงผิวที่เสียหาย (38-40) ระบุโรคดังกล่าวเป็นผิวหนังอักเสบ atopic ติดต่อผิวหนังอักเสบ สิว seborrheicอักเสบ และโรคสะเก็ดเงินสามารถทำการผิวขึ้น permeable กระทำอย่างเช่นโกนหรือการบาดเจ็บเช่น sunburns ตัด หรือสามารถสามารถเพิ่ม permeability ผิวหนัง การดูแลผิวผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยการเก็บกักหรือ nanoemulsionsมีเครื่องสำอาง sunscreens, toothpastesครีมโกนหนวด และแชมพูที่มักสูตร มีการเจาะเพิ่ม (40)ตัวต่างประเทศ granulomas หรือ Melkersson-โรเซนธอลเช่น cheilitis granulomatous เนื่องปฏิกิริยากับวัสดุบ่อยอาจยังเป็นทั่วไปเป็นแบบ consequence ของการใหญ่ใช้ nanoparticle ในเครื่องสำอาง (41)สุดท้าย เก็บกักมีศักยภาพความเสียหายของดีเอ็นเอและเยื่อหุ้มเซลล์ เมื่ออนุภาคป้อนผิว nanomaterials จะแพ้หรือพิษที่หลากหลายของมือถือ และsubcellular ระดับ (42)บทสรุปในบทความนี้ สัญญาปัจจุบัน และในอนาคตงานการแพทย์นาโนในผิวหนังมีการอธิบายไว้ Nanotherapeutics พบแอพลิเคชันในการรักษาเฉพาะ และระบบและผลประโยชน์เกี่ยวข้อง estheticผิวหนัง รักษา malignancies และโรคผิวหนังอักเสบนอกจากนี้ ทิศทางใหม่ในการวินิจฉัยทางการแพทย์และตรวจสอบโรคผิวหนังเป็นลาเกอร์ใช้ทอง nanoparticle จุดควอนตัม และเก็บกักแม่เหล็กในการพัฒนาnanoimaging ไม่ใช่รุกรานของความละเอียดสูงdermoscopy, microscopy และ lymphnode องครักษ์ผลการวิจัยเหล่านี้จะนำเสนอความก้าวหน้ามากในการวินิจฉัย และรักษา modalities อย่างไรก็ตามเกิดปฏิกิริยาอนุภาคและความเป็นพิษดูเหมือนจะสร้างสัดส่วนลดลงในอนุภาคขนาดและเราไม่สามารถคาดการณ์อันตรายเกี่ยวข้องกับ nanomaterials

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อ จำกัด
และความเสี่ยงอนุภาคที่มีขนาดเล็กใช้ปริมาณน้อย
แต่มีพื้นที่ผิวสูงขึ้นต่อหน่วยมวล นี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมของพื้นผิวกลุ่มสำหรับการปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาและมันอาจนำไปสู่การพัฒนาของการเรียนใหม่ทั้งหมดของการระคายเคืองสารก่อภูมิแพ้haptens, สารตั้งต้นข้ามและการมีปฏิสัมพันธ์อนุภาคอนุภาคที่ไม่คาดคิด. จากมุมมองนี้มีศักยภาพที่เป็นพิษของnanosubstances และวัสดุนาโนเป็นชี้แจงสัดส่วนกับการลดลงของขนาดอนุภาค(35-37). อนุภาคขนาดเล็กสามารถผ่านเข้าไปในผิวหนังและอนุภาค7000 นาโนเมตรในขนาดหรือเล็กสามารถเจาะผิวที่เสียหาย(38-40) โรคดังกล่าวเป็นโรคผิวหนังภูมิแพ้, ติดต่อโรคผิวหนังสิว seborrheic โรคผิวหนังและโรคสะเก็ดเงินสามารถทำให้ผิวดูดซึมมากขึ้น การกระทำที่เรียบง่ายเช่นโกนหนวดหรือการบาดเจ็บเช่น sunburns ตัดหรือครูสามารถเพิ่มการซึมผ่านผิวหนัง การดูแลผิวผลิตภัณฑ์ที่มีอนุภาคนาโนหรือ nanoemulsions รวมถึงเครื่องสำอาง, ครีมกันแดด, ยาสีฟัน, ครีมโกนหนวดและแชมพูที่มักจะสูตรที่มีการเพิ่มการเจาะ (40). ร่างกายต่างประเทศ granulomas หรือ Melkersson- โรเซนธาลเช่น Cheilitis granulomatous เนื่องจากการเกิดปฏิกิริยากับวัสดุภายนอกยังสามารถกลายเป็นที่พบบ่อยมากขึ้นเป็นผลมาจากการใช้งานขนาดใหญ่ของอนุภาคนาโนในเครื่องสำอางค์ (41). สุดท้ายอนุภาคนาโนมีศักยภาพที่จะเกิดความเสียหาย DNA และเยื่อหุ้มเซลล์ เมื่ออนุภาคเข้าสู่ผิววัสดุนาโนสามารถเป็นภูมิแพ้หรือเป็นพิษที่หลากหลายของโทรศัพท์มือถือและระดับsubcellular (42). สรุปในบทความนี้มีแนวโน้มในปัจจุบันและอนาคตการใช้งานของnanomedicine ในการรักษาโรคผิวหนังได้รับการอธิบาย Nanotherapeutics พบการประยุกต์ใช้ทั้งในการรักษาเฉพาะและเป็นระบบและผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องในความงามผิวหนังรักษาโรคมะเร็งและโรคผิวหนังอักเสบ. นอกจากนี้ทิศทางใหม่ในการวินิจฉัยทางการแพทย์และการตรวจสอบของโรคผิวหนังรวมถึงเบียร์ใช้อนุภาคนาโนทองคำจุดควอนตัมและแม่เหล็กอนุภาคนาโนในการพัฒนาnanoimaging ไม่รุกรานของความละเอียดสูงdermoscopy กล้องจุลทรรศน์และ lymphnode แมวมอง. การค้นพบนี้จะนำเสนอความก้าวหน้าอย่างมากในรังสีวินิจฉัยและการรักษา แต่ปฏิกิริยาของอนุภาคและความเป็นพิษดูเหมือนจะชี้แจงสัดส่วนลดลงในอนุภาคขนาดและเราไม่สามารถคาดการณ์อันตรายที่เกี่ยวข้องกับวัสดุนาโน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อจำกัดและความเสี่ยง
อนุภาคขนาดเล็กใช้ปริมาณน้อย แต่ได้
สูงกว่าพื้นที่ผิวต่อมวลหนึ่งหน่วย นี้
เพิ่มความพร้อมของกลุ่มพื้นผิว
ปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาและอาจทำให้เกิด
เพื่อการพัฒนาของชั้นเรียนใหม่ทั้งหมดของ
การระคายเคือง สารก่อภูมิแพ้ haptens ข้ามก๊าซและอนุภาค อนุภาคของ unanticipated
, .
จากมุมมองนี้ศักยภาพที่เป็นพิษของ
nanosubstances nanomaterials ชี้แจงและมีสัดส่วนลดลง

ขนาดอนุภาค ( 35 - 37 ) .
อนุภาคขนาดเล็กสามารถซึมผ่านผิวและอนุภาค
7 , 000 nm หรือขนาดเล็กสามารถเจาะ
ผิวที่เสียหาย ( 38 – 40 ) โรคสหรัฐอเมริกาเช่น
เป็นผิวหนังอักเสบ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ , สิว , โรคสะเก็ดเงินโรคผิวหนัง seborrheic

และทำให้ผิวสามารถดูดซึมได้มากขึ้นการกระทำง่ายๆเช่นการโกน
หรือการบาดเจ็บเช่น sunburns , ตัด , scrapes
สามารถเพิ่มการซึมผ่านผิวหนัง . ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีอนุภาคนาโน หรือ nanoemulsions

รวมถึงเครื่องสำอาง , ครีมกันแดด , toothpastes
ครีมโกนหนวด และแชมพูที่มักจะ
สูตรด้วยการเจาะเพิ่ม ( 40 ) .
ศัลยกรรมพลาสติกหรือร่างกายต่างประเทศ melkersson –


cheilitis เนื่องจากพบ โรเซนธาล เช่นปฏิกิริยากับวัสดุภายนอกอาจ
กลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเป็นผลของการใช้อนุภาคนาโนในเครื่องสำอาง
ขนาดใหญ่ ( 41 ) .
ในที่สุด อนุภาคนาโนมีศักยภาพที่จะ
ความเสียหายของดีเอ็นเอ และเยื่อหุ้มเซลล์ เมื่ออนุภาค
เข้าสู่ผิว nanomaterials สามารถภูมิแพ้
หรือพิษที่ความหลากหลายของระดับเซลล์และระดับตําแหน่งภายในเซลล์ ( 42 )
.

สรุปในบทความนี้ ปัจจุบัน และอนาคต
การประยุกต์ใช้การแพทย์นาโนในผิวพรรณ
ได้รับการอธิบาย nanotherapeutics พบการประยุกต์ใช้ในทั้งหัวข้อและ

รักษาระบบและประโยชน์มีความเกี่ยวข้องในความงาม
ผิวพรรณการรักษามะเร็งและโรคผิวหนังอักเสบ
.
และทิศทางใหม่ใน
การวินิจฉัยทางการแพทย์และติดตามผลของโรคผิวหนัง ได้แก่เบียร์
ใช้อนุภาคนาโนควอนตัมและ
ทองแม่เหล็กนาโนในการพัฒนาที่ดีของความละเอียดสูง

nanoimaging dermoscopy กล้องจุลทรรศน์ , และเซนติเนล lymphnode .
ค้นพบเหล่านี้จะมีความก้าวหน้ามากในการวินิจฉัยและการรักษา modalities
. อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของอนุภาคและ

ชี้แจงพิษดูเหมือนจะเป็นสัดส่วนการลดลงในขนาดอนุภาค
และเราไม่สามารถทำนายอันตราย
ที่เกี่ยวข้องกับ nanomaterials .