Verena Gerber, owner of a successfu

Verena Gerber, owner of a successful hotel south of Cancún, on the Caribbean
coast of the Yucatán Peninsula of Mexico, decided to build a lodge in a
remote natural area on the western side of Yucatán to serve people who
enjoy vacationing in nature. She had become disillusioned with the changes
in the flavor of tourism along the Caribbean, as her previously tranquil lodge
became surrounded by intense development. With strongly held environmental
ideals and goals, she initiated the purchase of 530 hectares of
mangrove swamps, coastal dunes, and a coconut palm plantation on the
undeveloped Gulf of Mexico coast of the Yucatán Peninsula.
Her land adjoined Ría Celestún, a protected natural area owned by
the Mexican government, which attracts the world’s largest colony (20,000)
of greater flamingos during the winter, and over 350 other species of birds.
Three species of endangered sea turtles nest on the quiet beaches of this
area. Ms. Gerber opened an ecological hotel on her property, naming it Eco
Paraiso (Ecological Paradise). To better serve nature-oriented tourists, she
hired one of the best local naturalists to guide guests on a variety of nature
tours and employed a biologist to manage the lodge. His special strengths
were adhering to ecotourism ideals and educating tourists. He developed a
natural history museum in a room in the reception center and worked at Eco
Paraiso for three years. The hotel has consistently employed eight people
full-time, including one expatriate manager and seven nationals.
The occupancy rate of Eco Paraiso increased slowly, from 9.5 to 22 percent.
In the past year an average of 3.3 rooms were occupied per night. The
lodge’s direct and indirect variable costs comprised about 40 percent of the
rooms revenue, consistent with the hotel industry’s typical margin of approximately
60 percent. The “high season” was November through April, when
occupancy rates averaged about 34 percent. During the “low season” from May
to October, occupancy rates averaged around 14 percent. Ms. Gerber calculated
her break-even occupancy rate at 55 percent.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Verena Gerber เจ้าของโรงแรมที่ประสบความสำเร็จจากคานคัน ในคาริเบียนชายฝั่งของ Yucatán เพนนินซูล่าของเม็กซิโก ตัดสินใจที่จะสร้างลอดจ์เป็นพื้นที่ธรรมชาติระยะไกลทางด้านตะวันตกของ Yucatán เพื่อคนที่เพลิดเพลินไปกับจิตใจในธรรมชาติ เธอได้กลายเป็น disillusioned ด้วยการเปลี่ยนแปลงในรสชาติของการท่องเที่ยวตามคาริเบียน เป็นลอดจ์สงบก่อนหน้านี้ของเธอกลายเป็นล้อมพัฒนารุนแรง ด้วยอย่างยิ่งจัดสิ่งแวดล้อมอุดมคติและเป้าหมาย เธอเริ่มซื้อของ 530 เฮคเตอร์ของป่าชายเลนหนองน้ำ ชายฝั่งดันส์ และสวนปาล์มมะพร้าวในการundeveloped ชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกของคาบสมุทร YucatánRía Celestún พื้นที่ธรรมชาติป้องกันเจ้า adjoined ที่ดินของเธอรัฐบาลเม็กซิโก ที่ดึงดูดฝูงใหญ่ที่สุดในโลก (20000)ของ flamingos มากกว่าในช่วงฤดูหนาว และพันธุ์อื่น ๆ กว่า 350 ของนกพันธุ์เต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ที่สามซ้อนบนหาดที่เงียบสงบนี้ที่ตั้ง นางสาว Gerber เปิดโรงแรมระบบนิเวศในลักษณะของเธอ ตั้งชื่ออีโคปาเรอิโซ (ระบบนิเวศสวรรค์) ดี พร้อมเน้นธรรมชาตินักท่องเที่ยว เธอจ้างที่นักธรรมชาติวิทยาท้องถิ่นสุดไปพักบนความหลากหลายของธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่งทัวร์ และจ้างนักชีววิทยาจัดการลอดจ์ จุดเด่นพิเศษของเขายึดมั่นในอุดมคติการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และให้นักท่องเที่ยว เขาได้พัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในห้องในศูนย์ประชาสัมพันธ์ และทำงานในสิ่งแวดล้อมปาไรโซสามปี โรงแรมมีลูกจ้าง 8 คนอย่างสม่ำเสมอแบบเต็มเวลา รวมถึงชาวต่างชาติผู้หนึ่งและชาวเจ็ดอัตราการเข้าพักของปาเรอิโซโคเพิ่มขึ้นช้า จาก 9.5 ร้อยละ 22ในปีผ่านมา มีการครอบครองโดยเฉลี่ย 3.3 ห้องต่อคืน ที่ลอดจ์โดยตรง และทางอ้อมต้นทุนผันแปรประกอบด้วยประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของการห้องรายได้ สอดคล้องกับอัตราทั่วไปของอุตสาหกรรมโรงแรมของประมาณร้อยละ 60 "High season" พฤศจิกายน-เมษายน เมื่ออัตราการเข้าพัก averaged ประมาณ 34 เปอร์เซ็นต์ ระหว่าง "กาล" จาก Mayถึงตุลาคม อัตราการเข้าพัก averaged ประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ นางสาว Gerber คำนวณเธอ break-even อัตราการเข้าพักที่ 55 เปอร์เซ็นต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Verena Gerber เจ้าของโรงแรมที่ประสบความสำเร็จทางตอนใต้ของCancúnในแคริบเบียนชายฝั่งของคาบสมุทรYucatánเม็กซิโกตัดสินใจที่จะสร้างกระท่อมในพื้นที่ธรรมชาติระยะไกลบนฝั่งตะวันตกของYucatánที่จะให้บริการคนที่สนุกกับการพักผ่อนหย่อนใจในธรรมชาติ เธอได้กลายเป็นไม่แยแสกับการเปลี่ยนแปลงในรสชาติของการท่องเที่ยวไปในทะเลแคริบเบียนในขณะที่เธอยื่นเงียบสงบก่อนหน้านี้กลายเป็นที่ล้อมรอบไปด้วยการพัฒนาที่รุนแรง ด้วยการจัดขึ้นอย่างยิ่งสิ่งแวดล้อมอุดมการณ์และเป้าหมายที่เธอเริ่มต้นการซื้อของ 530 เฮคเตอร์ของโกงกางทรายชายฝั่งทะเลและสวนมะพร้าวปาล์มในอ่าวยังไม่ได้พัฒนาของประเทศเม็กซิโกชายฝั่งของคาบสมุทรYucatán. ที่ดินของเธออยู่ติดกับ Ria Celestun พื้นที่ธรรมชาติที่ได้รับการคุ้มครองเป็นเจ้าของโดยรัฐบาลเม็กซิโกซึ่งดึงดูดฝูงใหญ่ที่สุดของโลก (20,000) ของลามิงโกที่มากขึ้นในช่วงฤดูหนาวและสายพันธุ์อื่น ๆ กว่า 350 นก. สามสายพันธุ์ของเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ทำรังอยู่บนชายหาดที่เงียบสงบของนี้พื้นที่ นางสาว Gerber เปิดโรงแรมของระบบนิเวศในบริเวณของเธอตั้งชื่อมัน Eco Paraiso (นิเวศวิทยาพาราไดซ์) เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวธรรมชาติที่มุ่งเน้นการที่เธอได้รับการว่าจ้างเป็นหนึ่งในธรรมชาติท้องถิ่นที่ดีที่สุดเพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้เข้าพักเกี่ยวกับความหลากหลายของธรรมชาติทัวร์และลูกจ้างชีววิทยาในการจัดการยื่นที่ จุดแข็งพิเศษของเขาถูกยึดมั่นในอุดมการณ์การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและความรู้แก่นักท่องเที่ยว เขาพัฒนาพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในห้องพักในศูนย์รับและทำงานที่ Eco Paraiso เป็นเวลาสามปี โรงแรมมีการจ้างงานอย่างต่อเนื่องแปดคนเต็มเวลารวมทั้งผู้จัดการชาวต่างชาติคนหนึ่งเจ็ดชาติ. อัตราการเข้าพักของ Eco Paraiso เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ 9.5-22 เปอร์เซ็นต์. ในปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 3.3 ห้องถูกยึดครองต่อคืน ลอดจ์ต้นทุนผันแปรโดยตรงและโดยอ้อมประกอบด้วยประมาณร้อยละ 40 ของรายได้จากห้องพักให้สอดคล้องกับอัตรากำไรขั้นต้นโดยทั่วไปของอุตสาหกรรมโรงแรมประมาณร้อยละ60 ว่า "ไฮซีซั่น" คือเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนเมื่ออัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณร้อยละ34 ในช่วง "ฤดูต่ำ" ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณร้อยละ14 นางสาว Gerber คำนวณทำลายแม้กระทั่งอัตราการเข้าพักของเธอที่ร้อยละ55

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เวอรีน่า เกอเบอร์ ของเจ้าของ ใต้โรงแรมที่ประสบความสำเร็จของกังกุน , บนชายฝั่งของทะเลแคริบเบียน
รัฐยูกาตังคาบสมุทรของเม็กซิโก จึงตัดสินใจสร้างโรงแรมใน
ห่างไกลธรรมชาติพื้นที่ด้านตะวันตกของรัฐยูกาตัง เพื่อให้บริการประชาชนที่
สนุกพักผ่อนหย่อนใจในธรรมชาติ เธอได้กลายเป็น disillusioned กับการเปลี่ยนแปลง
ในรสของการท่องเที่ยวตามแคริบเบียนที่เงียบสงบโรงแรม
เธอก่อนหน้านี้เป็นล้อมรอบด้วยการพัฒนาที่เข้มข้น ขอร่วมอุดมการณ์กับสิ่งแวดล้อม
และเป้าหมาย เธอเริ่มซื้อ 530 ไร่
เนินทรายชายฝั่ง และป่าชายเลน บึง สวนปาล์มมะพร้าวบน
อ่าวแกนของเม็กซิโกชายฝั่งของรัฐยูกาตังคาบสมุทร .
ที่ดินเธอติด r í a celest ú N คุ้มครองพื้นที่ธรรมชาติ
รัฐบาลเป็นเจ้าของโดย เม็กซิกันซึ่งดึงดูดอาณานิคมที่ใหญ่ที่สุดของโลก ( 20 , 000 )
ของแสดงมากขึ้นในช่วงฤดูหนาว และกว่า 350 ชนิดอื่น ๆของนก
3 ชนิดของเต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์รังบนชายหาดที่เงียบสงบของพื้นที่นี้

นางสาว Gerber เปิดโรงแรมนิเวศวิทยาคุณสมบัติของเธอ ชื่อ โค
Paraiso ( สวรรค์นิเวศ ) เพื่อตอบสนองธรรมชาติและนักท่องเที่ยว เธอ
จ้างหนึ่งของสัตว์ท้องถิ่นที่ดีที่สุดที่จะแนะนำแขกในความหลากหลายของทัวร์ธรรมชาติ
และลูกจ้างนักชีววิทยาจัดการที่พัก
จุดแข็งพิเศษของเขายึดมั่นในอุดมการณ์ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว เขาพัฒนา
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในห้องในศูนย์รับและทำงานที่โค
Paraiso สำหรับสามปี โรงแรมมีเสมอจำนวนแปดคน
แบบเต็มเวลารวมทั้งผู้จัดการประเทศหนึ่งและเจ็ดชาติ .
อัตราการเข้าพักของ Eco Paraiso เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ จาก 9.5 ถึง 22 เปอร์เซ็นต์
ในปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 3.3 ห้องว่างบาทต่อคืน
ของโรงแรมโดยตรงและโดยอ้อม ต้นทุนผันแปร ประกอบด้วย ประมาณร้อยละ 40 ของ
ห้องรายได้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมโรงแรมปกติขอบประมาณ
60 เปอร์เซ็นต์" ฤดู " มากคือ พฤศจิกายนถึงเมษายน อัตราการเข้าพักเฉลี่ยเมื่อ
ประมาณ 34 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง " ฤดูฝน " จากอาจ
ตุลาคม อัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ นางสาว Gerber คำนวณ
จุดคุ้มทุนอัตราการเข้าพักของเธอใน 55 เปอร์เซ็นต์