In its early years, Facebook consis

In its early years, Facebook consisted entirely of college students. Unlike contemporaries Friendster and MySpace, which exhausted themselves to acquire as many users as possible from all ends of the Earth, Facebook operated more like a “secret society”, going so far as to require .edu e-mail addresses in order to join. And many of their users liked it that way, preferring Facebook’s exclusivity to the “the more the merrier” approach of other social networks.
The problem was that Facebook could only expand so much by catering to only college students. So despite much protest and uproar, Facebook founder Mark Zuckerberg decided to open Facebook to high school students in 2005. By 2006, the service had opened to anyone 13 years or older with a valid e-mail address. By and large, the strategy change has worked. A 2009 study by Compete.com found Facebook to be the most popular social network in terms if unique views and monthly visits.
The company has also sold a 1.6% stake to Microsoft for $240 million, and rumors of an IPO continue to appear.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในช่วงต้นของปี Facebook ประกอบด้วยทั้งหมดของนักศึกษาวิทยาลัย เหมือนโคตรเฟรนด์และ MySpace ซึ่งหมดแล้วตัวเองจะได้รับผู้ใช้ได้มากที่สุดจากทั้งหมดสุดขอบโลก Facebook ดำเนินมากขึ้นเช่น "สมาคม" ไปจนถึงต้องมีที่อยู่อีเมล.edu เพื่อเข้าร่วม และผู้ใช้หลายคนชอบวิธี รักผูกขาดของ Facebook ไป "การเพิ่มเติม merrier" แนวทางของเครือข่ายสังคมอื่น ๆปัญหาคือ ว่า Facebook เท่าสามารถขยายมาก โดยจัดไว้ให้เฉพาะนักศึกษาวิทยาลัย ดังนั้น แม้ มีการประท้วงและโกลาหลมาก ผู้ก่อตั้ง Facebook มาร์กซักเคอร์เบิร์กตัดสินใจเปิด Facebook นักเรียนมัธยมในปี 2005 โดย 2006 บริการได้เปิดให้ทุกคน 13 ปีขึ้นไปกับอีเมล โดยและมีขนาดใหญ่ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ได้ทำงาน การศึกษา 2009 โดย Compete.com พบ Facebook เป็น เครือข่ายสังคมนิยมมากที่สุดในเงื่อนไขถ้าเฉพาะมุมมอง และการเข้าชมรายเดือนบริษัทฯ ได้จำหน่ายหุ้น 1.6% ไปยัง Microsoft สำหรับ $240 ล้านบาท และข่าวลือของการเสนอขายหุ้นต่อให้ปรากฏ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงปีที่ผ่าน Facebook ประกอบด้วยทั้งหมดของนักศึกษา ซึ่งแตกต่างจากโคตร Friendster และ MySpace ซึ่งหมดตัวเองที่จะได้รับผู้ใช้จำนวนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จากปลายของโลก, Facebook ดำเนินการมากขึ้นเช่น "สมาคมลับ" ไปไกลที่สุดเท่าที่จะต้องอยู่ .edu อีเมลในการสั่งซื้อที่จะเข้าร่วม และส่วนมากของผู้ใช้ของตนชอบวิธีการที่เลือกการผูกขาดของ Facebook ที่ "มากขึ้นยิ่งสนุก" วิธีการของเครือข่ายทางสังคมอื่น ๆ .
ปัญหาก็คือว่า Facebook จะสามารถขยายตัวมากจากที่จัดไว้ให้นักศึกษาเท่านั้น ดังนั้นแม้จะมีการประท้วงมากและความโกลาหลผู้ก่อตั้ง Facebook Mark Zuckerberg ตัดสินใจที่จะเปิด Facebook ให้กับนักเรียนโรงเรียนมัธยมในปี 2005 โดยปี 2006 ให้บริการได้เปิดให้ทุกคนที่ 13 ปีหรือมากกว่าที่มีที่อยู่อีเมลที่ถูกต้อง และโดยมากการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ที่ได้ทำงาน การศึกษา 2009 โดย Compete.com พบ Facebook เพื่อเป็นเครือข่ายทางสังคมที่นิยมมากที่สุดในแง่ถ้ามุมมองที่ไม่ซ้ำกันและการเข้าชมรายเดือน.
นอกจากนี้ บริษัท ยังมียอดขายหุ้น 1.6% ยัง Microsoft เพื่อ $ 240 ล้านและข่าวลือเรื่องการเสนอขายหุ้นยังคงปรากฏ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงต้นปี Facebook มีทั้งหมดของนักศึกษา ซึ่งแตกต่างจากโคตร Friendster และ MySpace ซึ่งตัวเองหมดที่จะได้รับเป็นผู้ใช้มากที่สุดจากการสิ้นสุดของโลก , Facebook เป็น " สมาคมลับ " ไปให้ไกลเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ของที่อยู่ e - mail เพื่อเข้าร่วม และหลายผู้ใช้ของพวกเขาชอบอย่างนั้นชอบ Facebook ของการผูกขาดกับ " มากขึ้น " วิธีการของเครือข่ายทางสังคมอื่น ๆปัญหาคือว่า Facebook อาจจะขยายมาก โดยจัดนักเรียนเท่านั้น ดังนั้น แม้จะมีการประท้วงและความวุ่นวาย , ผู้ก่อตั้ง Facebook มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ตัดสินใจเปิด Facebook ให้นักเรียนมัธยมปลายในปี 2005 โดยปี 2006 บริการได้เปิดให้ใคร 13 ปีหรือมากกว่ากับอีเมล โดยและขนาดใหญ่ , การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ที่ได้ทำงาน 2009 การศึกษาโดย compete.com พบ Facebook เป็นเครือข่ายทางสังคมที่นิยมมากที่สุด ในแง่ถ้ามุมมองที่ไม่ซ้ำกันและเข้าชมต่อเดือนบริษัทยังขาย 1.6 บาทต่อหุ้นไมโครซอฟท์สำหรับ $ 240 ล้านบาท และข่าวลือของ IPO ยังคงปรากฏ .