Quantitative research usually invol

Quantitative research usually involves
massive amounts of data; that is, the greater the
number of cases studied, the more accurate and representative the outcome of study
ought to be (Slater 1990). This method is appropriately used for certain forms of
behaviour which can only be performed if concepts are quantifiable (Mann 1990). For
example,
if a customer defaults in payment, the bank can take action when there's a
proof of exact amount of default and frequency of default. The bank cannot solely rely
on
its officer saying the customer has defaulted. One of the most important features of
quantitative research is that it is highly structured and produces data which is open to
statistical analysis. Surveys, tests, structured interviews, laboratory experiments and
non-participant observation are usually categorized as quantitative data collection
methods. Results of quantitative research are presented in the form of descriptive or
complex statistics, like tests of significance, correlation and regression analysis
(Scanlon 2000). In short, it is concerned with presenting findings in a numerical form.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิจัยเชิงปริมาณมักจะเกี่ยวข้องกับ จำนวนขนาดใหญ่ของข้อมูล นั่นคือ มากกว่านี้ จำนวนของกรณีศึกษา ถูกต้องมากขึ้น และพนักงานผลการศึกษา ควรจะเป็น (สเลเทอร์ 1990) วิธีนี้จะใช้สำหรับบางรูปแบบอย่างเหมาะสม พฤติกรรมที่จะสามารถดำเนินการหากวัดปริมาณได้ (มานน์ 1990) มีแนวคิด สำหรับ ตัวอย่าง ถ้าลูกค้าเป็นค่าเริ่มต้นในการชำระเงิน ธนาคารสามารถดำเนินการเมื่อมีการ หลักฐานของจำนวนเริ่มต้นและความถี่ของการเริ่มต้น ธนาคารไม่สามารถใช้แต่เพียงผู้เดียว บน เจ้าหน้าที่มันบอกว่า ลูกค้ามีค่าเริ่มต้น หนึ่งในคุณลักษณะที่สำคัญของ การวิจัยเชิงปริมาณคือ มันสูงจัดโครงสร้าง และสร้างข้อมูลซึ่งเปิดให้ การวิเคราะห์ทางสถิติ สำรวจ ทดสอบ สัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ห้องปฏิบัติการทดลอง และ ไม่เข้าร่วมสังเกตการณ์มักจะจัดประเภทเป็นการรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ วิธี ผลของการวิจัยเชิงปริมาณจะนำเสนอในรูปแบบของคำอธิบาย หรือ สถิติที่ซับซ้อน เช่นทดสอบการวิเคราะห์ความสำคัญ ความสัมพันธ์ และการถดถอย (Scanlon 2000) ในระยะสั้น มันเป็นเรื่องการนำเสนอผลการวิจัยในรูปแบบตัวเลข

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยเชิงปริมาณมักจะเกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมหาศาล; ที่เป็นมากขึ้นจำนวนของกรณีศึกษาที่ถูกต้องและเป็นตัวแทนผลของการศึกษาที่ควรจะเป็น(ตำหนิ 1990) วิธีการนี้ถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสมสำหรับบางรูปแบบของพฤติกรรมที่สามารถดำเนินการในกรณีที่มีแนวคิดเชิงปริมาณ (แมนน์ 1990) สำหรับตัวอย่างเช่นถ้ามีการเริ่มต้นในการชำระเงินของลูกค้าธนาคารสามารถดำเนินการเมื่อมีหลักฐานของจำนวนเงินที่แน่นอนของการเริ่มต้นและความถี่ของการเริ่มต้น ธนาคารไม่สามารถเพียงอาศัยอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่บอกว่าลูกค้าผิดนัด หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของการวิจัยเชิงปริมาณคือว่ามันเป็นโครงสร้างสูงและผลิตข้อมูลซึ่งจะเปิดให้การวิเคราะห์ทางสถิติ การสำรวจการทดสอบการสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้างทดลองในห้องปฏิบัติการและที่ไม่ได้เข้าร่วมการสังเกตมีการแบ่งประเภทมักจะเป็นข้อมูลเชิงปริมาณคอลเลกชันวิธี ผลการวิจัยเชิงปริมาณที่ถูกนำเสนอในรูปแบบของการบรรยายหรือสถิติที่ซับซ้อนเช่นการทดสอบอย่างมีนัยสำคัญความสัมพันธ์และการวิเคราะห์การถดถอย(โมโห 2000) ในระยะสั้นจะเป็นกังวลกับผลการวิจัยที่นำเสนอในรูปแบบตัวเลข

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยเชิงปริมาณ มักจะเกี่ยวข้องกับ
จำนวนมหาศาลของข้อมูล นั่นคือ ยิ่ง
จำนวนของกรณีศึกษาที่ถูกต้องมากขึ้นและตัวแทนผลการศึกษา
ควรจะ ( สเลเตอร์ 1990 ) วิธีนี้เป็นวิธีที่เหมาะสมที่ใช้ในรูปแบบบางอย่างของ
พฤติกรรมซึ่งสามารถทําได้หากมีแนวคิดเชิงปริมาณ ( Mann 1990 )

สำหรับตัวอย่างถ้าลูกค้าเริ่มต้นในการชำระเงินธนาคารจะดำเนินการเมื่อมี
หลักฐานแน่นอนเริ่มต้นและความถี่ของการเริ่มต้น ธนาคารไม่สามารถพึ่งพา

แต่เพียงผู้เดียวบนของเจ้าหน้าที่ว่า ลูกค้ามี defaulted . หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของ
การวิจัยเชิงปริมาณ คือ ว่า มันเป็นโครงสร้างสูงและผลิตข้อมูลซึ่งจะเปิดให้
การวิเคราะห์ทางสถิติ สำรวจ ทดสอบ สัมภาษณ์ การทดลองในห้องปฏิบัติการและ
การสังเกตแบบมีส่วนร่วมองค์กรมักจะแบ่งเป็นวิธีการเก็บรวบรวม
ข้อมูลเชิงปริมาณ ผลของการวิจัยเชิงปริมาณจะถูกนำเสนอในรูปแบบของสถิติเชิงพรรณนาหรือ
ซับซ้อน เช่นการทดสอบนัยสำคัญ สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์การถดถอย (
สแกลลอน 2000 ) ในระยะสั้นจะเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตัวเลข