Figure 17.13 depicts a typical CC-N

Figure 17.13 depicts a typical CC-NUMA organization. There are multiple independent nodes, each of which is, in effect, an SMP organization. Thus, each node contains multiple processors, each with its own L1 and L2 caches, plus main memory.
The node is the basic building block of the overall CC-NUMA organization. For
example, each Silicon Graphics Origin node includes two MIPS R10000 processors;
each Sequent NUMA-Q node includes four Pentium II processors. The nodes are
interconnected by means of some communications facility, which could be a switching mechanism, a ring, or some other networking facility.
Each node in the CC-NUMA system includes some main memory. From the
point of view of the processors, however, there is only a single addressable memory,
with each location having a unique system wide address. When a processor initiates
a memory access, if the requested memory location is not in that processor’s cache,
then the L2 cache initiates a fetch operation. If the desired line is in the local portion
of the main memory, the line is fetched across the local bus. If the desired line is in a
remote portion of the main memory, then an automatic request is sent out to fetch
that line across the interconnection network, deliver it to the local bus, and then
deliver it to the requesting cache on that bus. All of this activity is automatic and
transparent to the processor and its cache.
In this configuration, cache coherence is a central concern. Although implementations differ as to details, in general terms we can say that each node must
maintain some sort of directory that gives it an indication of the location of various
portions of memory and also cache status information. To see how this scheme
works, we give an example taken from [PFIS98]. Suppose that processor 3 on node
2 (P2-3) requests a memory location 798, which is in the memory of node 1. The following sequence occurs:
1. P2-3 issues a read request on the snoopy bus of node 2 for location 798.
2. The directory on node 2 sees the request and recognizes that the location is in
node 1.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

17.13 ตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าองค์กร CC-Numa ทั่วไป มีโหนดอิสระหลายแต่ละซึ่งเป็นผลองค์กร SMP ดังนั้นแต่ละโหนดมีโปรเซสเซอร์หลายตัวแต่ละคนมีของตัวเองแคช L1 และ L2 บวกกับหน่วยความจำหลัก.
โหนดคือการสร้างบล็อกพื้นฐานขององค์กร CC-Numa โดยรวม ตัวอย่างเช่น
แต่ละโหนดซิลิคอนกำเนิดกราฟิกมีสอง MIPS R10000 โปรเซสเซอร์
แต่ละโหนด Numa-Q ตามลำดับรวมถึงสี่ตัวประมวลผล Pentium II โหนดที่มีการเชื่อมต่อระหว่างกัน
โดยวิธีการของบางสิ่งอำนวยความสะดวกการสื่อสารซึ่งอาจจะเป็นกลไกสลับ, แหวน, หรือสถานที่บางเครือข่ายอื่น ๆ .
โหนดในระบบ CC-Numa แต่ละรวมถึงบางหน่วยความจำหลัก จากจุด
จากมุมมองของการประมวลผล แต่มีเพียงหน่วยความจำแอ​​ดเดรสเดียว
กับสถานที่ที่มีระบบที่อยู่ไม่ซ้ำกันและกว้าง เมื่อประมวลผลเริ่มต้น
เข้าถึงหน่วยความจำถ้าตั้งหน่วยความจำที่มีการร้องขอไม่ได้อยู่ในแคชของโปรเซสเซอร์ที่แล้ว
แคช L2 เริ่มต้นการดำเนินการเรียก ถ้าเส้นที่ต้องการอยู่ในส่วน
ท้องถิ่นของหน่วยความจำหลักสายจะเรียกข้ามรถบัสท้องถิ่น ถ้าเส้นที่ต้องการอยู่ในส่วนระยะไกล
จากหน่วยความจำหลัก,แล้วขออัตโนมัติจะถูกส่งออกไปยังเรียก
ว่าสายผ่านเครือข่ายเชื่อมต่อโครงข่าย, ส่งไปยังรถบัสท้องถิ่นและจากนั้น
ส่งไปยังแคชร้องขอบนรถบัสที่ ทั้งหมดของกิจกรรมนี้เป็นไปโดยอัตโนมัติและ
โปร่งใสให้กับโปรเซสเซอร์และแคช.
ในการกำหนดค่านี้แคชการเชื่อมโยงกันนั้นเป็นปัญหาสำคัญ แม้ว่าการใช้งานที่แตกต่างกันไปในรายละเอียดในแง่ทั่วไปเราสามารถพูดได้ว่าแต่ละโหนด
ต้องรักษาบางจัดเรียงของไดเรกทอรีที่ให้มันบ่งบอกถึงที่ตั้งของส่วน
ต่างๆของหน่วยความจำและข้อมูลสถานะแคช เพื่อดูว่าโครงการนี​​้
การทำงานเราให้ตัวอย่างที่นำมาจาก [pfis98] คิดว่า 3 ประมวลผลที่อยู่ในโหนด
2 (p2-3) คำขอตั้งหน่วยความจำ 798 ซึ่งอยู่ในหน่วยความจำของโหนด 1 ลำดับต่อไปนี้เกิดขึ้น:
1 ประเด็น p2-3 ขออ่านบนรถบัสด้อมของโหนด 2 798 สถานที่.
2 ไดเรกทอรีบนโหนด 2 เห็นคำขอและรับรู้ว่าสถานที่ที่อยู่ในโหนด
1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูป 17.13 มีภาพองค์กร CC NUMA ทั่วไป มีหลายโหนอิสระ ซึ่งมี ผล องค์กร SMP แต่ละโหนประกอบด้วยโปรเซสเซอร์หลายตัว ด้วยตนเอง L1 และ L2 มมาก บวกหลักหน่วยความจำดัง
โหนเป็นบล็อกอาคารพื้นฐานขององค์กรที่ CC NUMA โดยรวม สำหรับ
ตัวอย่าง แต่ละโหนซิลิคอนกราฟิกมาประกอบด้วยตัวประมวลผล MIPS R10000 สอง;
แต่ละโหน NUMA Sequent-Q มีตัวประมวลผล Pentium II 4 โหนดมี
เข้าใจ โดยบางสถานการสื่อสาร ซึ่งอาจเป็นกลไกสลับ แหวน หรือบางอื่น ๆ เครือข่ายอำนวยการ
แต่ละโหนดในระบบ CC NUMA มีหน่วยความจำหลัก จาก
จุดของมุมมองของโปรเซสเซอร์ อย่างไรก็ตาม มีเพียงหนึ่งแอดเดรสจำ,
แต่ละสถานที่มีที่อยู่กว้างระบบเฉพาะ เมื่อตัวประมวลผลเริ่ม
เข้าหน่วยความจำ ถ้าตำแหน่งหน่วยความจำที่ร้องขอไม่ได้อยู่ในแคชของตัวประมวลผล,
แล้วแคช L2 เริ่มดำเนินการนำมาใช้ ถ้าบรรทัดที่ระบุอยู่ในส่วนท้องถิ่น
หน่วยความจำหลัก บรรทัดมาทั้งรถประจำทางท้องถิ่น ถ้าบรรทัดที่ระบุอยู่ในตัว
ระยะไกลส่วนหน่วยความจำหลัก คำอัตโนมัติจะ ส่งออกไปนำ
สายนั้นผ่านเครือข่ายเชื่อมต่อ ส่งให้รถ แล้ว
ส่งไปแคบนบัสที่ร้องขอ กิจกรรมนี้ทั้งหมดเป็นไปโดยอัตโนมัติ และ
เห็นตัวประมวลผลแล้วของแคช
เครื่องนี้ แคโปรเจคจะต้องคำนึงถึงกลาง แม้ใช้งานที่แตกต่างเป็นรายละเอียด ในทั่วไป เราสามารถบอกได้ว่า แต่ละโหนต้อง
รักษาบางจัดเรียงของไดเรกทอรีที่ทำให้การบ่งชี้สถานต่างๆ
บางส่วนของหน่วยความจำ และข้อมูลสถานะของแคช เมื่อต้องการดูวิธีนี้
งาน เราให้ตัวอย่างที่นำมาจาก [PFIS98] สมมติว่า ตัวประมวลผล 3 บนโหน
2 (p 2-3) ร้องขอหน่วยความจำตำแหน่งที่ 798 ซึ่งอยู่ในหน่วยความจำของโหน 1 ลำดับต่อไปนี้เกิดขึ้น:
1. P 2-3 เรื่องคำอ่านบนรถสนูปปี้ของโหนด 2 สำหรับตั้ง 798.
2 ไดเรกทอรีบนโหน 2 เห็นคำ และรู้จักสถานที่ว่า
โหน 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 17.13 ถึงองค์กร CC - numa แบบดั้งเดิม มีโหนดอิสระหลายคนซึ่งแต่ละแห่งมีผลบังคับใช้หน่วยงาน SMP )ที่ ดังนั้นโหนดแต่ละชุดประกอบด้วยโปรเซสเซอร์หลายตัวแต่ละห้องพร้อมด้วยแคช L 1 และ L 2 ส่วนตัวของโรงแรมรวมถึงหน่วยความจำหลัก.
โหนดที่เป็นอาคารก่ออิฐเป็นอาคารแบบเรียบง่ายขององค์กร CC numa โดยรวม ตัวอย่างเช่น
สำหรับซิลิกอนกราฟิกโหนดที่มาแต่ละห้องรวมถึงสอง mips R 10000
โปรเซสเซอร์โหนด sequent numa - Q แต่ละตัวจะประกอบด้วย 4 โปรเซสเซอร์ pentium ii โหนดที่มี
ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่อเข้าถึงกันโดยการใช้ส่วนอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารบางอย่างที่ไม่สามารถมีกลไกการสลับที่เรียกเข้าหรือระบบส่วนอำนวยความสะดวกด้านการเชื่อมต่อเครือข่าย.
โหนดแต่ละในฟิลด์สำเนาถึง - numa ที่อื่นบางส่วนรวมถึงหน่วยความจำหลักบางส่วน จาก
จุดที่มีการรับชมวิวทิวทัศน์ของโปรเซสเซอร์แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีห้องอาหารเท่านั้นหน่วยความจำแบบกำหนดที่อยู่ได้เพียงตัวเดียว
พร้อมด้วยที่ตั้งที่แต่ละห้องที่มีระบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่แอดเดรสกว้าง. เมื่อโปรเซสเซอร์จะเริ่มต้นที่
ซึ่งจะช่วยให้การเข้าถึงหน่วยความจำหากที่ตั้งที่หน่วยความจำที่ร้องขอไม่ได้อยู่ในแคชของโปรเซสเซอร์ที่
จากนั้นจะเริ่มต้น L 2 cache ที่ดึงข้อมูลการใช้งาน. หากสายที่ต้องการที่จะอยู่ในส่วนของท้องถิ่นที่
ของหน่วยความจำหลักสายนี้จะนำข้ามรถโดยสารท้องถิ่นที่ หากสายที่ต้องการที่จะอยู่ในส่วนของรีโมทคอนโทรล
ซึ่งจะช่วยให้ของหน่วยความจำหลักจากนั้นคำขอโดยอัตโนมัติที่จะถูกส่งออกไปออกมาเพื่อดึงข้อมูลที่สาย
ซึ่งจะช่วยในเครือข่ายอินเตอร์คอนเน็กชั่นที่มอบให้กับรถโดยสารท้องถิ่นแล้ว
ซึ่งจะช่วยให้ส่งไปยังแคชขอที่อยู่บนรถนั้น กิจกรรมทั้งหมดนี้จะเป็นแบบอัตโนมัติและ
ซึ่งจะช่วยให้โปรเซสเซอร์และแคช.
ในการตั้งค่านี้สอดคล้องกันแคชนั้นเป็นปัญหาสำคัญ แม้ว่าการปรับใช้งานแตกต่างในรายละเอียดในเงื่อนไขโดยทั่วไปเราสามารถพูดได้ว่าที่โหนดแต่ละตัวจะต้อง
ซึ่งจะช่วยรักษาไว้ซึ่งบางอย่างของไดเรกทอรีที่ให้การแสดงของที่ตั้งของสถานะแคช
ส่วนของหน่วยความจำและนอกจากนั้นยังต่างๆข้อมูล เพื่อดูว่าโครงการนี้
ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำงานได้เราตัวอย่างเช่นที่มาจาก[ pfis 98 ] คิดว่าโปรเซสเซอร์ 3 กับโหนด
2 ( P 2-3 )คำขอหน่วยความจำที่ตั้งที่ 798 ซึ่งอยู่ในหน่วยความจำของโหนด 1 ลำดับต่อไปนี้จะเกิดขึ้น:
1 . P 2-3 ปัญหาการขออ่านบนรถโดยสารของโหนด Snoopy เพื่อที่ 2 สำหรับที่ตั้งที่ 798 . N 2 ไดเร็คทอรีย์บนโหนด 2 จะเห็นการร้องขอและพบว่ามีที่ตั้งอยู่ใน 1
โหนด