แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่ได้รับการกล่าวถึงในตำนานของชาวคริสต์ โดยเฉพาะการก การแปล - แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่ได้รับการกล่าวถึงในตำนานของชาวคริสต์ โดยเฉพาะการก ไทย วิธีการพูด

แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่ได้รับการกล่าว

แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่ได้รับการกล่าวถึงในตำนานของชาวคริสต์ โดยเฉพาะการกล่าวถึงแอปเปิ้ลในคัมภีร์ไบเบิลว่าผลไม้ต้องห้ามที่พระเจ้าห้ามไม่ไห้อดัมส์กับอีวากิน แต่ทั้งคู่หลงในกิเลสทำให้ถูกซาตานหลอกให้กินแอปเปิ้ล จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้มนุษย์ทำบาป ทำให้แอปเปิ้ลในภาษาละตินตรงกับคำว่า malus ซึ่งแปลว่า ชั่วร้าย นั่นเอง
ตำนานที่โด่งดังมากที่สุดของแอปเปิ้ลคือ เรื่องที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลที่ว่าแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ต้องห้ามที่พระเจ้าห้ามไม่ให้ ‘อาดัมส์' กับ ‘อีวา' กิน แต่ทั้งคู่หลงในกิเลสทำให้ ถูกซาตานหลอกให้กินแอปเปิ้ล จึงต้องตกสวรรค์มาอยู่ในโลกมนุษย์ การที่แอปเปิ้ลเป็นชนวนให้มนุษย์คู่แรกของโลกรู้จักทำบาป ทำให้แอปเปิ้ลในภาษาละตินตรงกับคำ ว่า "malus" ซึ่งแปลว่าชั่วร้าย
ในตะวันตกสาวโสดจะมีเกมชนิดหนึ่งเรียกว่า Hallowtide โดยหญิงสาวจะนั่งล้อมวงกัน แต่ละคนจะผูกแอปเปิ้ล 1 ชิ้นไว้กับเชือกแล้วหมุนหน้ากองไฟ ชิ้นไหนตกลงมา ก่อน คนนั้นจะได้แต่งงานเป็นคนแรก
อีกพิธีกรรมหนึ่ง เพื่อหาคู่ของสาวตะวันตก สาวๆ จะปอกเปลือกแอปเปิ้ลจนหมดผลโดยไม่ให้ขาดเลย(ถ้าขาดจะเป็นลางร้าย) แล้วโยนข้ามไหล่ซ้ายไปข้างหลัง เปลือก แอปเปิ้ลที่ตกพื้นจะเป็นรูปร่างอักษรย่อ หรืออักษรตัวแรกของสามีในอนาคต
คนกรีกในสมัยโบราณมีประเพณีว่า เวลาผู้ชายจะขอสาวแต่งงานจะต้องโยนผลแอปเปิ้ลให้ และถ้าเธอรับได้ นั่นหมายความว่าตกลง(ถ้ารับพลาดคงร้องไห้ตายเลย)
การตัดแอปเปิ้ลโดยไร้เหตุผล ถือว่าจะทำให้โชคร้าย เพราะแอปเปิ้ลเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ ความเป็นนิรันดร์ และความสุขหลังความตาย
ว่ากันว่าเทพเจ้าของชาวสแกนดิเนเวีย คงความเป็นหนุ่มสาวได้ตลอดกาลโดยการกินแอปเปิ้ลทองคำของ ‘ไอดัน' ซึ่งเป็นเทพีแห่งความหนุ่มสาวและฤดูใบไม้ผลิ
คนอังกฤษถือว่า วันที่ 21 ต.ค. ของทุกปีเป็นวันแอปเปิ้ล เพราะในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ครูอังกฤษส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ พ่อแม่ของนักเรียนจึงชอบจัดแอปเปิ้ลใส่ตะกร้าไป เป็นของขวัญให้ครู แต่ต่อมาเมื่อเงินเดือนครูสูงขึ้นก็กลายเป็นประเพณีว่าพอถึงวันครุ นักเรียนจะนำแอปเปิ้ลผลเดียวไปให้ครูเพื่อแสดงความขอบคุณ
ชาวเดวอนไชร์ของอังกฤษ ใช้แอปเปิ้ลรักษาไฝหรือหูด โดยผ่าเป็นซีกแล้วนำไปถูบนไฝหรือหูด แปะเอาไว้ จะทำให้ไฝหรือหูดนั้นหายไปได้ ซึ่งวิธีการนี้ยังคงปฏิบัติกัน อยู่ในปัจจุบัน
ชาวตะวันตกสมัยก่อน จะเอาแอปเปิ้ลใส่ในถุงมันฝรั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มันฝรั่งงอกเป็นต้นอ่อน และถ้าใส่ในถุงเก็บน้ำตาลหรือกล่องคุกกี้ จะช่วยป้องกันความชื้นได้
ในตำนานกรีก ‘เอริส' เทพธิดาแห่งความขัดแย้งได้รับเชิญไปงานแต่งงาน นางอยากจะป่วนงานก็เลยเอาแอปเปิ้ลทองคำที่มีคำจารึกว่า "สำหรับคนที่สวยที่สุด" โยนขึ้น ไปบนโต๊ะทำให้เทพธิดาที่สวยเท่ากันสามองค์คือ ‘เฮร่า' ‘อะเทน่า' และ ‘อะโพรไดท์' แย่งแอปเปิ้ลกันจนทำให้เกิดสงครามถล่มกรรุงทรอยต์ตามมา
นอกจากนี้แล้ว แอปเปิ้ลยังมีบทบาททางวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะเมื่อ ‘ไอแซค นิวตัน' เห็นแอปเปิ้ลตกจากต้น เขาจึงค้นพบกฎเรื่องแรงโน้มถ่วง
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ได้รับการกล่าวถึงในตำนานของชาวคริสต์โดยเฉพาะการกล่าวถึงแอปเปิ้ลในคัมภีร์ไบเบิลว่าผลไม้ต้องห้ามที่พระเจ้าห้ามไม่ไห้อดัมส์กับอีวากิน จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้มนุษย์ทำบาปทำให้แอปเปิ้ลในภาษาละตินตรงกับคำว่า malus ซึ่งแปลว่าชั่วร้ายนั่นเอง
ตำนานที่โด่งดังมากที่สุดของแอปเปิ้ลคือเรื่องที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลที่ว่าแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ต้องห้ามที่พระเจ้าห้ามไม่ให้ 'อาดัมส์' ดื่มด่ำ 'อีวา' กินแต่ทั้งคู่หลงในกิเลสทำให้ถูกซาตานหลอกให้กินแอปเปิ้ล การที่แอปเปิ้ลเป็นชนวนให้มนุษย์คู่แรกของโลกรู้จักทำบาปทำให้แอปเปิ้ลในภาษาละตินตรงกับคำว่า "malus" ซึ่งแปลว่าชั่วร้าย
ในตะวันตกสาวโสดจะมีเกมชนิดหนึ่งเรียกว่า Hallowtide โดยหญิงสาวจะนั่งล้อมวงกันแต่ละคนจะผูกแอปเปิ้ล 1 ชิ้นไว้กับเชือกแล้วหมุนหน้ากองไฟชิ้นไหนตกลงมาก่อนคนนั้นจะได้แต่งงานเป็นคนแรก
อีกพิธีกรรมหนึ่งเพื่อหาคู่ของสาวตะวันตกสาว ๆ จะปอกเปลือกแอปเปิ้ลจนหมดผลโดยไม่ให้ขาดเลย(ถ้าขาดจะเป็นลางร้าย)แล้วโยนข้ามไหล่ซ้ายไปข้างหลังเปลือกแอปเปิ้ลที่ตกพื้นจะเป็นรูปร่างอักษรย่อ
คนกรีกในสมัยโบราณมีประเพณีว่าเวลาผู้ชายจะขอสาวแต่งงานจะต้องโยนผลแอปเปิ้ลให้และถ้าเธอรับได้นั่นหมายความว่าตกลง(ถ้ารับพลาดคงร้องไห้ตายเลย)
การตัดแอปเปิ้ลโดยไร้เหตุผลถือว่าจะทำให้โชคร้ายเพราะแอปเปิ้ลเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะความเป็นนิรันดร์และความสุขหลังความตาย
ว่ากันว่าเทพเจ้าของชาวสแกนดิเนเวียคงความเป็นหนุ่มสาวได้ตลอดกาลโดยการกินแอปเปิ้ลทองคำของ 'ไอดัน' ซึ่งเป็นเทพีแห่งความหนุ่มสาวและฤดูใบไม้ผลิ
ต.คคนอังกฤษถือว่าวันที่ 21 ของทุกปีเป็นวันแอปเปิ้ลเพราะในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ครูอังกฤษส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำพ่อแม่ของนักเรียนจึงชอบจัดแอปเปิ้ลใส่ตะกร้าไปเป็นของขวัญให้ครู นักเรียนจะนำแอปเปิ้ลผลเดียวไปให้ครูเพื่อแสดงความขอบคุณ
ชาวเดวอนไชร์ของอังกฤษใช้แอปเปิ้ลรักษาไฝหรือหูดโดยผ่าเป็นซีกแล้วนำไปถูบนไฝหรือหูดแปะเอาไว้จะทำให้ไฝหรือหูดนั้นหายไปได้ซึ่งวิธีการนี้ยังคงปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบัน
ชาวตะวันตกสมัยก่อนจะเอาแอปเปิ้ลใส่ในถุงมันฝรั่งเพื่อป้องกันไม่ให้มันฝรั่งงอกเป็นต้นอ่อนและถ้าใส่ในถุงเก็บน้ำตาลหรือกล่องคุกกี้จะช่วยป้องกันความชื้นได้
ในตำนานกรีก 'เอริส' เทพธิดาแห่งความขัดแย้งได้รับเชิญไปงานแต่งงานนางอยากจะป่วนงานก็เลยเอาแอปเปิ้ลทองคำที่มีคำจารึกว่า "สำหรับคนที่สวยที่สุด" โยนขึ้นไปบนโต๊ะทำให้เทพธิดาที่สวยเท่ากันสามองค์คือ 'เฮร่า' และ 'อะโพรไดท์' แย่งแอปเปิ้ลกันจนทำให้เกิดสงครามถล่มกรรุงทรอยต์ตามมา
นอกจากนี้แล้วแอปเปิ้ลยังมีบทบาททางวิทยาศาสตร์ด้วยเพราะเมื่อ 'ไอแซคนิวตัน' เห็นแอปเปิ้ลตกจากต้นเขาจึงค้นพบกฎเรื่องแรงโน้มถ่วง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่ได้รับการกล่าวถึงในตำนานของชาวคริสต์ โดยเฉพาะการกล่าวถึงแอปเปิ้ลในคัมภีร์ไบเบิลว่าผลไม้ต้องห้ามที่พระเจ้าห้ามไม่ไห้อดัมส์กับอีวากิน แต่ทั้งคู่หลงในกิเลสทำให้ถูกซาตานหลอกให้กินแอปเปิ้ล จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้มนุษย์ทำบาป ทำให้แอปเปิ้ลในภาษาละตินตรงกับคำว่า malus ซึ่งแปลว่า ชั่วร้าย นั่นเอง
ตำนานที่โด่งดังมากที่สุดของแอปเปิ้ลคือ เรื่องที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลที่ว่าแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ต้องห้ามที่พระเจ้าห้ามไม่ให้ ‘อาดัมส์' กับ ‘อีวา' กิน แต่ทั้งคู่หลงในกิเลสทำให้ ถูกซาตานหลอกให้กินแอปเปิ้ล จึงต้องตกสวรรค์มาอยู่ในโลกมนุษย์ การที่แอปเปิ้ลเป็นชนวนให้มนุษย์คู่แรกของโลกรู้จักทำบาป ทำให้แอปเปิ้ลในภาษาละตินตรงกับคำ ว่า "malus" ซึ่งแปลว่าชั่วร้าย
ในตะวันตกสาวโสดจะมีเกมชนิดหนึ่งเรียกว่า Hallowtide โดยหญิงสาวจะนั่งล้อมวงกัน แต่ละคนจะผูกแอปเปิ้ล 1 ชิ้นไว้กับเชือกแล้วหมุนหน้ากองไฟ ชิ้นไหนตกลงมา ก่อน คนนั้นจะได้แต่งงานเป็นคนแรก
อีกพิธีกรรมหนึ่ง เพื่อหาคู่ของสาวตะวันตก สาวๆ จะปอกเปลือกแอปเปิ้ลจนหมดผลโดยไม่ให้ขาดเลย(ถ้าขาดจะเป็นลางร้าย) แล้วโยนข้ามไหล่ซ้ายไปข้างหลัง เปลือก แอปเปิ้ลที่ตกพื้นจะเป็นรูปร่างอักษรย่อ หรืออักษรตัวแรกของสามีในอนาคต
คนกรีกในสมัยโบราณมีประเพณีว่า เวลาผู้ชายจะขอสาวแต่งงานจะต้องโยนผลแอปเปิ้ลให้ และถ้าเธอรับได้ นั่นหมายความว่าตกลง(ถ้ารับพลาดคงร้องไห้ตายเลย)
การตัดแอปเปิ้ลโดยไร้เหตุผล ถือว่าจะทำให้โชคร้าย เพราะแอปเปิ้ลเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ ความเป็นนิรันดร์ และความสุขหลังความตาย
ว่ากันว่าเทพเจ้าของชาวสแกนดิเนเวีย คงความเป็นหนุ่มสาวได้ตลอดกาลโดยการกินแอปเปิ้ลทองคำของ ‘ไอดัน' ซึ่งเป็นเทพีแห่งความหนุ่มสาวและฤดูใบไม้ผลิ
คนอังกฤษถือว่า วันที่ 21 ต.ค. ของทุกปีเป็นวันแอปเปิ้ล เพราะในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ครูอังกฤษส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ พ่อแม่ของนักเรียนจึงชอบจัดแอปเปิ้ลใส่ตะกร้าไป เป็นของขวัญให้ครู แต่ต่อมาเมื่อเงินเดือนครูสูงขึ้นก็กลายเป็นประเพณีว่าพอถึงวันครุ นักเรียนจะนำแอปเปิ้ลผลเดียวไปให้ครูเพื่อแสดงความขอบคุณ
ชาวเดวอนไชร์ของอังกฤษ ใช้แอปเปิ้ลรักษาไฝหรือหูด โดยผ่าเป็นซีกแล้วนำไปถูบนไฝหรือหูด แปะเอาไว้ จะทำให้ไฝหรือหูดนั้นหายไปได้ ซึ่งวิธีการนี้ยังคงปฏิบัติกัน อยู่ในปัจจุบัน
ชาวตะวันตกสมัยก่อน จะเอาแอปเปิ้ลใส่ในถุงมันฝรั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มันฝรั่งงอกเป็นต้นอ่อน และถ้าใส่ในถุงเก็บน้ำตาลหรือกล่องคุกกี้ จะช่วยป้องกันความชื้นได้
ในตำนานกรีก ‘เอริส' เทพธิดาแห่งความขัดแย้งได้รับเชิญไปงานแต่งงาน นางอยากจะป่วนงานก็เลยเอาแอปเปิ้ลทองคำที่มีคำจารึกว่า "สำหรับคนที่สวยที่สุด" โยนขึ้น ไปบนโต๊ะทำให้เทพธิดาที่สวยเท่ากันสามองค์คือ ‘เฮร่า' ‘อะเทน่า' และ ‘อะโพรไดท์' แย่งแอปเปิ้ลกันจนทำให้เกิดสงครามถล่มกรรุงทรอยต์ตามมา
นอกจากนี้แล้ว แอปเปิ้ลยังมีบทบาททางวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะเมื่อ ‘ไอแซค นิวตัน' เห็นแอปเปิ้ลตกจากต้น เขาจึงค้นพบกฎเรื่องแรงโน้มถ่วง
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ได้รับการกล่าวถึงในตำนานของชาวคริสต์โดยเฉพาะการกล่าวถึงแอปเปิ้ลในคัมภีร์ไบเบิลว่าผลไม้ต้องห้ามที่พระเจ้าห้ามไม่ไห้อดัมส์กับอีวากินจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้มนุษย์ทำบาปทำให้แอปเปิ้ลในภาษาละตินตรงกับคำว่า malus ซึ่งแปลว่าชั่วร้ายนั่นเอง
ตำนานที่โด่งดังมากที่สุดของแอปเปิ้ลคือเรื่องที่อยู่ในคัมภีร์ไบเบิลที่ว่าแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ต้องห้ามที่พระเจ้าห้ามไม่ให้ ' ' ' ' อาดัมส์กับอีวากินแต่ทั้งคู่หลงในกิเลสทำให้ถูกซาตานหลอกให้กินแอปเปิ้ลการที่แอปเปิ้ลเป็นชนวนให้มนุษย์คู่แรกของโลกรู้จักทำบาปทำให้แอปเปิ้ลในภาษาละตินตรงกับคำว่า " มารุ " ซึ่งแปลว่าชั่วร้าย
ในตะวันตกสาวโสดจะมีเกมชนิดหนึ่งเรียกว่า hallowtide โดยหญิงสาวจะนั่งล้อมวงกันแต่ละคนจะผูกแอปเปิ้ล 1 ชิ้นไว้กับเชือกแล้วหมุนหน้ากองไฟชิ้นไหนตกลงมาก่อนคนนั้นจะได้แต่งงานเป็นคนแรก
อีกพิธีกรรมหนึ่งเพื่อหาคู่ของสาวตะวันตกสาวๆจะปอกเปลือกแอปเปิ้ลจนหมดผลโดยไม่ให้ขาดเลย ( ถ้าขาดจะเป็นลางร้าย ) แล้วโยนข้ามไหล่ซ้ายไปข้างหลังเปลือกแอปเปิ้ลที่ตกพื้นจะเป็นรูปร่างอักษรย่อ
คนกรีกในสมัยโบราณมีประเพณีว่าเวลาผู้ชายจะขอสาวแต่งงานจะต้องโยนผลแอปเปิ้ลให้และถ้าเธอรับได้นั่นหมายความว่าตกลง ( ถ้ารับพลาดคงร้องไห้ตายเลย )
การตัดแอปเปิ้ลโดยไร้เหตุผลถือว่าจะทำให้โชคร้ายเพราะแอปเปิ้ลเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะความเป็นนิรันดร์และความสุขหลังความตาย
ว่ากันว่าเทพเจ้าของชาวสแกนดิเนเวียคงความเป็นหนุ่มสาวได้ตลอดกาลโดยการกินแอปเปิ้ลทองคำของ ' ไอดัน ' ซึ่งเป็นเทพีแห่งความหนุ่มสาวและฤดูใบไม้ผลิ
คนอังกฤษถือว่าวันที่ 21 ต . ค .ของทุกปีเป็นวันแอปเปิ้ลเพราะในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ครูอังกฤษส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำพ่อแม่ของนักเรียนจึงชอบจัดแอปเปิ้ลใส่ตะกร้าไปเป็นของขวัญให้ครูนักเรียนจะนำแอปเปิ้ลผลเดียวไปให้ครูเพื่อแสดงความขอบคุณ
ชาวเดวอนไชร์ของอังกฤษใช้แอปเปิ้ลรักษาไฝหรือหูดโดยผ่าเป็นซีกแล้วนำไปถูบนไฝหรือหูดแปะเอาไว้จะทำให้ไฝหรือหูดนั้นหายไปได้ซึ่งวิธีการนี้ยังคงปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบัน
ชาวตะวันตกสมัยก่อนจะเอาแอปเปิ้ลใส่ในถุงมันฝรั่งเพื่อป้องกันไม่ให้มันฝรั่งงอกเป็นต้นอ่อนและถ้าใส่ในถุงเก็บน้ำตาลหรือกล่องคุกกี้จะช่วยป้องกันความชื้นได้
ในตำนานกรีก ' เอริส ' เทพธิดาแห่งความขัดแย้งได้รับเชิญไปงานแต่งงานนางอยากจะป่วนงานก็เลยเอาแอปเปิ้ลทองคำที่มีคำจารึกว่า " สำหรับคนที่สวยที่สุด " โยนขึ้นไปบนโต๊ะทำให้เทพธิดาที่สวยเท่ากันสามองค์คือเฮร่า ' 'และ ' ' แย่งแอปเปิ้ลกันจนทำให้เกิดสงครามถล่มกรรุงทรอยต์ตามมา
อะโพรไดท์นอกจากนี้แล้วแอปเปิ้ลยังมีบทบาททางวิทยาศาสตร์ด้วยเพราะเมื่อ ' ไอแซคนิวตัน ' เห็นแอปเปิ้ลตกจากต้นเขาจึงค้นพบกฎเรื่องแรงโน้มถ่วง
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: