Conversation offers a situation `wh

Conversation offers a situation `where each individual has an effective equality of chances to take part in dialogue; where dialogue is unconstrained and not distorted` (Smith, 2000). We see then that mutual trust, respect, a willingness to listen and to risk one’s opinions are fundamental in dialogical conversation and are thus key to the work of informal education. Moreover we can see that informal education is `a powerful regulative ideal that can orient our practical and political lives` (Bernstein 1983: 163). Informal education has thus been described as education for social change and liberation (Freire, 1970, 1985). The Woodcraft Folk, for example have described this process as `educating children to think for themselves. To examine and research the world in which they find themselves and when they grow up to find ways of changing it` (Salt and Wilson, 1985: 42).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนามีสถานการณ์ ' แต่ละคนมีความเท่าเทียมกันความมีประสิทธิภาพของโอกาสการมีส่วนร่วมในข้อตกลง ที่เจรจา unconstrained และไม่ผิดเพี้ยน ' (Smith, 2000) เราเห็น แล้วว่าความไว้ใจ ความเคารพ ความตั้งใจฟัง และความเสี่ยงของความคิดเห็นพื้นฐานใน dialogical และคีย์ไปศึกษาเป็น นอกจากนี้ เราจะเห็นว่าการศึกษาไม่เป็นทางการ 'มีประสิทธิภาพ regulative เหมาะที่สามารถโอเรียนท์ชีวิตการปฏิบัติ และทางการเมือง' (นาร์ดเบิร์นสไตน์ 1983:163) ได้ ศึกษาไม่ได้จึงถูกอธิบายไว้เป็นการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการปลดปล่อย (Freire, 1970, 1985) พื้น Woodcraft เช่นได้อธิบายกระบวนการนี้เป็น ' ให้เด็กคิดด้วยตนเอง การตรวจสอบ และวิจัยโลกซึ่งพวกเขาพบตัวเอง และ เมื่อพวกเขาเติบโตในการค้นหาวิธีเปลี่ยน ' (เกลือและวิลสัน 1985:42)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสนทนามีสถานการณ์ `ที่แต่ละคนมีความเท่าเทียมกันที่มีประสิทธิภาพของโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในการเจรจา; การเจรจาที่เป็นข้อ จำกัด และไม่ distorted` (สมิ ธ , 2000) เราเห็นแล้วว่าความไว้วางใจซึ่งกันและกันเคารพความเต็มใจที่จะรับฟังและการเสี่ยงกับความคิดเห็นของคนที่เป็นพื้นฐานในการสนทนา dialogical และจึงกุญแจสำคัญในการทำงานของการศึกษานอกระบบ นอกจากนี้เราจะเห็นว่าการศึกษาเป็นทางการ `เหมาะที่บังคับมีประสิทธิภาพที่สามารถปรับทิศทาง lives` ในทางปฏิบัติและทางการเมืองของเรา (Bernstein 1983: 163) การศึกษานอกระบบจึงได้รับการอธิบายว่าการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการปลดปล่อย (Freire, 1970, 1985) วิชาช่างไม้พื้นบ้านเช่นได้อธิบายขั้นตอนนี้เป็น `ความรู้แก่เด็กที่จะคิดว่าสำหรับตัวเอง ในการตรวจสอบและการวิจัยระดับโลกในการที่พวกเขาพบว่าตัวเองและเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นที่จะหาวิธีการเปลี่ยน it` (เกลือและวิลสัน, 1985: 42)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสนทนามีสถานการณ์ ` ที่แต่ละคนมีที่มีความเสมอภาคของโอกาสในการมีส่วนร่วมในการสนทนา ที่ต่างกันไปและไม่บิดเบือน ` ( Smith , 2000 ) เราเห็นแล้วว่า ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เคารพ ความเต็มใจที่จะรับฟังและความเสี่ยงของความคิดเห็นเป็นพื้นฐานในการสนทนา สนทนา และดังนั้นจึง คีย์งาน การศึกษานอกระบบนอกจากนี้เราสามารถเห็นได้ว่าการศึกษาตามอัธยาศัย คือ ' ที่มีประสิทธิภาพที่สามารถปรับทิศทางชีวิตที่กําเหมาะในทางปฏิบัติและการเมืองของเรา ` ( เบิร์นสไตน์ 1983 : 163 ) การศึกษานอกโรงเรียนจึงได้รับการอธิบายเป็น การศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ( Freire , 1970 , 1985 ) ด้านวิชาช่างไม้พื้นบ้าน เช่น กระบวนการนี้มีการอธิบายเป็น ` ให้เด็กคิดเองเพื่อศึกษาและวิจัยโลกที่พวกเขาพบตัวเอง และเมื่อเขาเติบโตขึ้น เพื่อหาวิธีเปลี่ยน ` ( เกลือและวิลสัน , 1985 : 42 )