Following a widespread epidemic of

Following a widespread epidemic of rubella infection in
1940, Norman Gregg, an Australian ophthalmologist,
reported in 1941 the occurrence of congenital cataracts
among 78 infants born following maternal rubella infection
in early pregnancy. This was the first published recognition
of congenital rubella syndrome (CRS). Rubella virus was first
isolated in 1962 by Parkman and Weller. The first rubella
vaccines were licensed in 1969.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ต่อโรคระบาดแพร่หลายของโรคหัดเยอรมันการติดเชื้อใน1940 เกร็กนอร์แมน ช่วยการออสเตรเลียรายงานการเกิดต้อกระจกแต่กำเนิดใน 1941ระหว่างทารก 78 เกิดหลังติดเชื้อโรคหัดเยอรมันที่แม่ในช่วงตั้งครรภ์ นี้เป็นการเผยแพร่ครั้งแรกของกลุ่มอาการโรคหัดเยอรมันแต่กำเนิด (CRS) ไวรัสโรคหัดเยอรมันเป็นครั้งแรกแยกต่างหากในปี 1962 โดย Parkman เวลเลอร์ โรคหัดเยอรมันครั้งแรกรู้ได้รับอนุญาตใน 1969

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ต่อไปนี้การแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางของการติดเชื้อหัดเยอรมันใน
ปี 1940 นอร์แมนเกร็กจักษุแพทย์ออสเตรเลีย
รายงานในปี 1941 การเกิดต้อกระจก แต่กำเนิด
ในหมู่ 78 ทารกเกิดต่อไปนี้การติดเชื้อหัดเยอรมันมารดา
ในการตั้งครรภ์ในช่วงต้น นี่คือการรับรู้ที่ตีพิมพ์ครั้งแรก
ของโรคหัดเยอรมัน แต่กำเนิด (CRS) ไวรัสหัดเยอรมันเป็นครั้งแรก
ที่แยกได้ในปี 1962 โดยพาร์คและเวลเลอร์ หัดเยอรมันครั้งแรกที่
ได้รับการฉีดวัคซีนได้รับใบอนุญาตในปี 1969

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ต่อไปนี้การระบาดอย่างกว้างขวางของการติดเชื้อหัดเยอรมันใน
1940 , นอร์แมนเกร็ก จักษุแพทย์ออสเตรเลีย
รายงานในปี 1941 เกิดต้อกระจก แต่กำเนิดในทารกที่คลอดตาม

78 ของการติดเชื้อหัดเยอรมันในการตั้งครรภ์ก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ตีพิมพ์จำ
ซินโดรมแต่กำเนิดโรคหัดเยอรมัน ( CRS ) โรคหัดเยอรมันไวรัสเป็นครั้งแรก
แยกในปี ค.ศ. 1962 โดยพาร์คแมนกับเวลเลอร์วัคซีนโรคหัดเยอรมัน
ก่อนได้รับอนุญาตใน 1969