Intramuros was Manila, for the thou

Intramuros was Manila, for the thousands of Spanish colonists, their families, and their servants - for over 400 years, this walled city guarded the mouth of the Pasig River and served as the seat of the Spanish presence in the Philippines.

The walled city was flattened by American bombers in World War II; only San Agustin Cathedral was left standing by the end of the war. (San Agustin Church was later declared an UNESCO World Heritage Site, together with a number of other churches in the Philippines.) A major (and ongoing) restoration effort has brought back much of what was lost.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อินทรามูรอส มะนิลาถูกพัน ๆ colonists สเปน ครอบครัว และข้าราชการของพวกเขา- 400 ปี รักษาปากแม่น้ำ Pasig เมืองนี้ และเป็นนั่งอยู่สเปนในฟิลิปปินส์การเมืองไม่ flattened โดยระเบิดพลีชีพอเมริกันในสงครามโลก วิหาร Agustin ซานเท่านั้นที่เหลือยืน โดยจุดสิ้นสุดของสงคราม (San Agustin โบสถ์ได้ในภายหลังประกาศการยูเนสโกมรดกโลก พร้อมกับหมายเลขของคริสตจักรอื่น ๆ ในฟิลิปปินส์) ความพยายามฟื้นฟูหลัก (และต่อเนื่อง) ได้นำกลับมากอะไรก็

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อินทราเป็นกรุงมะนิลาเป็นพัน ๆ อาณานิคมสเปน, ครอบครัวของพวกเขาและคนรับใช้ของพวกเขา -. มานานกว่า 400 ปีนี้กำแพงเมืองรักษาปากแม่น้ำชิกและทำหน้าที่เป็นที่นั่งของการแสดงตนของสเปนในฟิลิปปินส์กำแพงเมืองเป็น แบนโดยเครื่องบินทิ้งระเบิดอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่สอง; เพียงวิหาร San Agustin ถูกทิ้งให้ยืนโดยการสิ้นสุดของสงคราม (โบสถ์ซานอะกุสตินต่อมาก็มีการประกาศมรดกโลกร่วมกับจำนวนของโบสถ์อื่น ๆ ในฟิลิปปินส์.) ที่สำคัญ (และต่อเนื่อง) ความพยายามฟื้นฟูได้นำกลับมากในสิ่งที่หายไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อินทรามูรคือมะนิลา ในพันของอาณานิคมสเปน ครอบครัวของพวกเขาและเป็นทาสมานานกว่า 400 ปี ซึ่งกำแพงเมืองปกป้องปากของ Pasig River และทำหน้าที่เป็นที่นั่งของตนสเปนในฟิลิปปินส์ .

กำแพงเมืองที่ถูกแบนโดยอเมริกันทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 เท่านั้น San Agustin โบสถ์ที่ถูกทิ้งยืนโดยการสิ้นสุดของสงคราม( San Agustin คริสตจักรภายหลังถูกประกาศเป็นมรดกโลก พร้อมกับจำนวนของโบสถ์ในฟิลิปปินส์ ) เมเจอร์ ( ต่อเนื่อง ) มีความพยายามฟื้นฟูนำกลับมากของสิ่งที่สูญเสียไป