การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงสนับสนุนทางสังคมกับพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์ โดยศึกษาจากนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ชั้นปีที่ 1-4 จำนวน 216 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยการใช้สูตรของ Taro Yamane โดยใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับแรงสนับสนุนทางสังคมในการออกกำลังกายของคุณอนงค์ลักษณ์ วงศ์ตรี จำนวน 30 ข้อ โดยแบ่งเป็น 3 ด้านคือ ด้านอารมณ์ ด้านข้อมูลข่าวสารและด้านวัสดุอุปกรณ์ และแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการออกกำลังกายนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ จำนวน 20 ข้อ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ มีแรงสนับสนุนทางสังคมโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (X ̅ = 3.28, S.D. = 0.55) พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าด้านอารมณ์อยู่ในระดับมาก (X ̅ = 3.61, S.D. = 0.60) ด้านข้อมูลข่าวสารอยู่ในระดับปานกลาง (X ̅ = 3.33, S.D. = 0.62) และด้านวัสดุอุปกรณ์อยู่ในระดับปานกลาง (X ̅ = 2.90, S.D. = 0.66) พฤติกรรมการออกกำลังกายโดยรวมอยู่ในระดับปฏิบัติบางครั้ง (X ̅ = 2.28, S.D. = 0.45) และผลการวิเคราะห์ข้อมูลความสัมพันธ์พบว่า นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ มีแรงสนับสนุนทางสังคมโดยรวมไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์  

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงสนับสนุนทางสังคมกับพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์โดยศึกษาจากนักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ชั้นเผือกกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยการใช้สูตรของปีที่ 1-4 จำนวน 216 คนโดยโดยใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับแรงสนับสนุนทางสังคมในการออกกำลังกายของคุณอนงค์ลักษณ์วงศ์ตรีจำนวน 30 ข้อโดยแบ่งเป็น 3 ด้านคือด้านอารมณ์ด้านข้อมูลข่าวสารและด้านวัสดุอุปกรณ์และแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการออกกำลังกายนักศึกษาพยาบาลศาสตร์จำนวน 20 ข้อผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่านักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์มีแรงสนับสนุนทางสังคมโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (X ̅ = 3.28, S.D. = 0.55) พิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านอารมณ์อยู่ในระดับมาก (X ̅ = 3.61 แม่นยำ. = 0.60) ด้านข้อมูลข่าวสารอยู่ในระดับปานกลาง (X ̅ = 3.33, S.D. = 0.62) และด้านวัสดุอุปกรณ์อยู่ในระดับปานกลาง (X ̅ = 2.90, S.D. = 0.66) พฤติกรรมการออกกำลังกายโดยรวมอยู่ในระดับปฏิบัติบางครั้ง (X ̅ = 2.28, S.D. = 0.45) และผลการวิเคราะห์ข้อมูลความสัมพันธ์พบว่านักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์มีแรงสนับสนุนทางสังคมโดยรวมไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงสนับสนุนทางสังคมกับพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์โดยศึกษาจากนักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 185 แล้ว ั้นปีที่ 1-4 จำนวน 216 คนกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยการใช้สูตรของทาโร่ยามาเน่โดยใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับแรงสนับสนุนทางสังคมในการออกกำลังกายของคุณอนงค์ลักษณ์วงศ์ตรีจำนวน 30 ข้อโดยแบ่งเป็น 3 ด้านคือด้านอารมณ์ด้านข้อมูลข่าวสารและด้านวัสดุอุปกรณ์และแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรม การออกกำลังกายนักศึกษาพยาบาลศาสตร์จำนวน 20 ข้อผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่านักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์มีแรงสนับสนุนทางสังคมโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( X ̅ = 3.28 , S.D . = 0.55 ) พิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านอารมณ์อยู่ในระดับมาก ( X ̅ = 3.61 , S.D . = 0.60 ) ด้านข้อมูลข่าวส ารอยู่ในระดับปานกลาง ( X ̅ = 3.33 , S.D . = 0.62 ) และด้านวัสดุอุปกรณ์อยู่ในระดับปานกลาง ( X ̅ = 2.90 , S.D . = 0.66 ) พฤติกรรมการออกกำลังกายโดยรวมอยู่ในระดับปฏิบัติบางครั้ง ( X ̅ = 2.28 , S.D . = 0.45 ) และผลการวิเคราะห์ข้อมูลความสัมพันธ์พบว่านักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์มีแรงสนับสนุนทาง สังคมโดยรวมไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการออกกำลังกายของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุตรดิตถ์