Edinburgh Castle is one of the most

Edinburgh Castle is one of the most haunted locations in Scotland, and Edinburgh itself has been called the most haunted city in all of Europe. The Castle's dungeons have frequent paranormal sightings and are haunted by ghosts of former prisoners.

Edinburgh Castle sits on top of Castle Rock, an extinct volcano and has been a fortification for over 2,000 years. The castle is protected to the north, south and west by sheer cliffs rising 400 feet above sea level. Access to the castle is by a steep road on the eastern side. The castle from its high position dominates views of the city of Edinburgh.

Edinburgh Castle
Edinburgh Castle


A rich mix of architectural styles reflects the castle's complex history and role as both stronghold and the seat of Kings. St Margaret's Chapel, the oldest building in Edinburgh Castle dates from the early 12th Century. Crown square, the main courtyard, was developed in the 15th century; the Great Hall with its impressive hammer beam roof was built by James IV in 1511. The Half Moon Battery was created in the late 16th century. The Vaults were where foreign prisoners-of-war were held, particularly those captured in the wars with France in the 18th and 19th centuries. The Scottish National War memorial was added after the First World War.

Edinburgh has a hidden underworld to which the castle is strongly connected, a series of secret tunnels leading from Edinburgh castle down the Royal Mile. One of these is rumoured to lead to Holyrood House. Holyrood house itself is closely associated with Scotland's turbulent past, including Mary, Queen of Scots, who lived here between 1561 and 1567. Successive kings and queens have made the Palace of Holyrood house the premier royal residence in Scotland; even today it's still a royal residence.

When the tunnels were first discovered several hundred years ago, a piper was sent to explore. As he navigated the tunnels he played his bagpipes so that his progress could be tracked by those above. About half way down the Royal Mile the piping suddenly stopped. When a rescue party was sent, there was no trace of the piper. He had simply vanished. Several search parties went into the tunnel system but no trace of the piper was ever found.

The piper's ghost still haunts Edinburgh today, walking endlessly along the underground tunnel beneath the Royal Mile. His music can sometimes be heard from within the castle and on the streets above the tunnels.

Many people have heard the sound of ghostly drums within Edinburgh castle; however few have seen the drummer. The reason for this is the drummer ghost only appears when the castle is about to be attacked something that hasn't happened for some time.

The ghost drummer was first witnessed before Cromwell's attack on the castle in 1650 and is reported to take the form of a headless boy. Who the boy was and why he now haunts Edinburgh castle is not known.

Edinburgh like most castles has dungeons where prisoners were often tortured and often perished. These dungeons are haunted by the ghosts of their victims; coloured orbs are constantly photographed by visitors. One desperate prisoner hid in a dung barrow, hoping to be carried out of the castle down the Royal Mile and escape to freedom. The unfortunate man died when the barrow was emptied down the rocky slopes of the castle, sending him to his death. Visitors say his ghost tries to shove them from the battlements and is accompanied by a strong and unpleasant smell of dung.

The Vaults beneath Edinburgh Castle
The Vaults beneath Edinburgh Castle


What makes the Edinburgh castle dungeons unique is that the presence of ghosts or at least the presence of something has been scientifically proven. In 2001 Dr Richard Wiseman ran a research project studying the reactions of people to various parts of the dungeons and surrounding areas. These visitors who had no previous knowledge of the castle felt something far more often in the areas with a reputation for being haunted than anywhere else in the castle.

In the 16th century Janet Douglas, Lady of Glamis, was imprisoned in Edinburgh Castle, accused of witchcraft and conspiracy to murder King James V. Evidence was obtained against her by the torturing of her servants. She was burned at the stake on July 17, 1537, and her young son Gillespie was brought out and forced to watch from the battlements. Lady Janet's restless spirit is said to still haunt parts of the castle. Hollow knocking sounds are sometimes heard at night these are attributed to the workmen building the platform on which she was burned.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปราสาทเอดินบะระเป็นหนึ่งในสถานบ้านผีมากที่สุดในสกอตแลนด์ และเอดินเบอระเองมีการเรียกเมืองบ้านผีมากที่สุดในยุโรป ดันเจี้ยนของปราสาทมีอาถรรพณ์ sightings บ่อย และบ้านผีสิง โดยผีนักโทษอดีตปราสาทเอดินเบอระตั้งอยู่บนปราสาทหิน ภูเขาไฟการสูญ และมีระบบป้อมปราการปี 2000 มีป้องกันปราสาททางทิศเหนือ ใต้ และทิศตะวันตกจากหน้าผาสูง 400 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล เข้าไปยังปราสาท โดยถนนที่สูงชันทางด้านตะวันออกได้ ปราสาทจากตำแหน่งสูงกุมอำนาจของเมืองเอดินบะระปราสาทเอดินเบอระปราสาทเอดินเบอระลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมอุดมไปด้วยสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนของปราสาทและบทบาทเป็นกำบังและนั่งของพระมหากษัตริย์ ชาเปลเซนต์มาร์กาเร็ต อาคารเก่าแก่ที่สุดในปราสาทเอดินบะระวันจากศตวรรษที่ 12 ต้น สแควร์ คราวน์คอร์ทยาร์ดหลัก ได้รับการพัฒนาในศตวรรษ 15 หอดี มีหลังคาคานของค้อนประทับใจถูกสร้างขึ้น โดย James IV ใน 1511 แบตเตอรี่ฮาล์ฟมูนถูกสร้างขึ้นในศตวรรษ 16 สาย Vaults จะถูกต่างประเทศนักโทษของสงครามถูกจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จับในสงครามกับฝรั่งเศสในศตวรรษ 18 และ 19 อนุสรณ์สถานสงครามแห่งชาติสกอตแลนด์ถูกเพิ่มเข้ามาหลังสงครามโลกครั้งหนึ่งเอดินเบอระมีการซ่อนมังกรที่ปราสาทขอเชื่อมต่อ ชุดอุโมงค์ลับผู้นำจากปราสาทเอดินบะระลง Royal Mile หนึ่งจะฉาวไปได้นำไป Holyrood House บ้าน Holyrood เองเป็นเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับของสกอตแลนด์เชี่ยวอดีต รวมแมรี่ ควีนของสก็อทส์ ที่อยู่ที่นี่ระหว่าง 1561 1567 ต่อเนื่องคิงส์และควีนส์ทำวังของ Holyrood บ้านพักรอยัลพรีเมียร์ในสกอตแลนด์ แม้วันนี้ก็ยังคงอาศัยรอยัลเมื่ออุโมงค์แรกพบหลายร้อยปี พริกไทยที่ถูกส่งไปสำรวจ ขณะที่เขานำทางอุโมงค์ เขาเล่น bagpipes ของเขาเพื่อให้สามารถติดตามความคืบหน้าของเขา ด้วยดังกล่าวข้างต้น ประมาณครึ่งทางลง Royal Mile ท่อหยุดทันที เมื่อมีส่งบุคคลช่วยเหลือ มีไม่มีร่องรอยของการพริกไทย เขามีเพียงศาสดา ค้นหาหลายฝ่ายเดินเข้าไปในระบบอุโมงค์ แต่ไม่มีร่องรอยของพริกไทยที่เคยพบผีของพริกไทยยังคง haunts เอดินบะระวันนี้ เดินไปตามอุโมงค์ใต้ดินใต้ Royal Mile ไม่รู้จบ เพลงของเขาสามารถบางครั้งได้ยินเสียงจากภาย ในปราสาท และ บนถนนเหนืออุโมงค์หลายคนได้ยินเสียงของกลองพัดภายในปราสาทเอดินบะระ อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ได้เห็นการตีกลอง เหตุผลนี้ก็ผีตีกลองปรากฏเฉพาะเมื่อปราสาทกำลังจะโจมตีสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นบางครั้งตีกลองผีที่เห็นครั้งแรกก่อนการโจมตีของครอมเวลล์ในปราสาทใน 1650 และรายงานการใช้แบบฟอร์มของเด็กถอดหัวปอก ที่เด็กมี และทำไมเขาตอนนี้ haunts ปราสาทเอดินบะระไม่ทราบเช่นปราสาทส่วนใหญ่มีดันเจี้ยนที่นักโทษถูกมักจะทรมาน และมักจะ perished ดันเจี้ยนนี้มีผีสิง โดยผีของเหยื่อ orbs สีอยู่ตลอดเวลาถ่าย โดยนักท่องเที่ยว นักโทษที่หมดหวังหนึ่งที่ซ่อนในบาร์โรเป็นมูล หวังให้ออกจากปราสาทรอยัลไมล์และหนีเพื่อเสรีภาพ ชายโชคร้ายตายเมื่อบาร์โรถูกทำให้ว่างเปล่าลงลาดหินของปราสาท ส่งเขาไปตาย ผู้เข้าชมว่า ผีเขาพยายามผลักพวกเขาจากการ battlements และตามมา ด้วยแข็งแรง และขจัดกลิ่นของมูลVaults ใต้ปราสาทเอดินบะระVaults ใต้ปราสาทเอดินบะระสิ่งที่ทำให้ดันเจี้ยนปราสาทเอดินบะระเฉพาะคือที่อยู่ ของผี หรือพิสูจน์การอยู่น้อยที่สุดของบางสิ่งบางอย่างทางวิทยาศาสตร์ ในปี 2001 ดร.ริชาร์ดไวส์แมนวิ่งโครงการวิจัยศึกษาปฏิกิริยาของบุคคลไปยังส่วนต่าง ๆ ของดันเจี้ยนและพื้นที่โดยรอบ ผู้เข้าชมเหล่านี้ที่มีความรู้ก่อนหน้าของปราสาทรู้สึกบางสิ่งบางอย่างบ่อยครั้งมากขึ้นในพื้นที่ที่มีชื่อเสียงถูกผีสิงอื่นในปราสาทในศตวรรษ 16 ดักลาสเจ เลดี้ Glamis ถูกจำคุกเป็นเวลาในปราสาทเอดินบะระ ของนักวิชาการ และสมคบฆ่ากษัตริย์ James V. หลักฐานกล่าวกับเธอ โดยการทรมานผู้รับใช้ของเธอ เธอถูกไฟไหม้ที่เดิมพันบน 17 กรกฎาคม 1537 และลูกชายหนุ่ม Gillespie ถูกนำออก และบังคับให้ดูจากที่ battlements จิตใจกระสับกระส่ายเลดี้เจกล่าวยัง หลอนส่วนของปราสาท เสียงเคาะกลวงบางครั้งได้ยินในเวลากลางคืนเหล่านี้มาจากสบู่สร้างแพลตฟอร์มที่เธอถูกไฟไหม้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปราสาทเอดินเบิร์กเป็นหนึ่งในสถานที่ผีสิงมากที่สุดในสกอตแลนด์และเอดินบะระตัวเองได้รับการเรียกว่าเมืองผีสิงมากที่สุดในทั้งหมดของยุโรป ดันเจี้ยนของปราสาทมีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่พบบ่อยและมีการครอบงำโดยผีของอดีตนักโทษ. ปราสาทเอดินเบิร์กตั้งอยู่ด้านบนของปราสาทหินภูเขาไฟที่ดับและได้รับการเสริมมานานกว่า 2,000 ปี ได้รับการคุ้มครองปราสาทไปทางทิศเหนือทิศใต้และทิศตะวันตกด้วยหน้าผาสูงชันที่เพิ่มขึ้น 400 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การเข้าถึงปราสาทเป็นตามถนนที่สูงชันบนฝั่งตะวันออก ปราสาทจากตำแหน่งสูงครอบงำมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเอดินเบอระ. ปราสาทเอดินเบิร์กปราสาทเอดินเบิร์กผสมที่อุดมไปด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนของปราสาทและบทบาทเป็นทั้งป้อมปราการและที่นั่งของพระมหากษัตริย์ โบสถ์เซนต์มาร์กาเร็อาคารเก่าแก่ที่สุดในปราสาทเอดินเบิร์กวันจากต้นศตวรรษที่ 12 คราวน์สแควร์คอร์ทยาร์ดหลักได้รับการพัฒนาในศตวรรษที่ 15; ห้องโถงใหญ่มีหลังคาคานค้อนที่น่าประทับใจถูกสร้างขึ้นโดยเจมส์สี่ใน 1511 ฮาล์ฟมูนแบตเตอรี่ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 ห้องใต้ดินเป็นที่ต่างประเทศนักโทษของสงครามที่ถูกจัดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถูกจับในสงครามกับฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 และ 19 อนุสรณ์สถานสงครามแห่งชาติสก็อตที่ถูกเพิ่มเข้ามาหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง. เอดินบะระมีนรกที่ซ่อนอยู่ในปราสาทที่มีการเชื่อมต่ออย่างยิ่งชุดของอุโมงค์ลับชั้นนำจากปราสาทเอดินเบิร์กลงรอยัลไมล์ หนึ่งในนั้นเป็นข่าวลือที่นำไปสู่การ Holyrood House Holyrood บ้านตัวเองมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับอดีตที่ผ่านมาป่วนของสกอตแลนด์รวมทั้งแมรี่ราชินีแห่งสก็อตที่อาศัยอยู่ที่นี่ระหว่าง 1561 และ 1567 พระมหากษัตริย์และพระราชินีเนื่องได้ทำให้พระราชวังบ้าน Holyrood พระที่นั่งชั้นนำในสกอตแลนด์; แม้วันนี้ก็ยังคงเป็นพระที่นั่ง. เมื่ออุโมงค์ที่ถูกค้นพบครั้งแรกหลายร้อยปีที่ผ่านมา, ไพเพอร์ถูกส่งไปสำรวจ ในขณะที่เขาสำรวจอุโมงค์เขาเล่นปี่ของเขาเพื่อที่ความคืบหน้าของเขาอาจจะติดตามโดยเหนือ ประมาณครึ่งทางลงท่อรอยัลไมล์ก็หยุด เมื่อพรรคกู้ภัยถูกส่งไม่มีร่องรอยของไพเพอร์ เขาได้หายไปเพียงแค่ ค้นหาบุคคลที่หลายคนเดินเข้ามาในระบบอุโมงค์ แต่ไม่มีร่องรอยของไพเพอร์เคยพบ. ผีของไพเพอร์ยังคงหลอกหลอนเอดินบะระวันนี้เดินอย่างไม่มีที่สิ้นสุดพร้อมอุโมงค์ใต้ดินรอยัลไมล์ เพลงของเขาบางครั้งจะสามารถได้ยินเสียงจากภายในปราสาทและบนถนนด้านบนอุโมงค์. หลายคนเคยได้ยินเสียงของกลองผีภายในปราสาทเอดินเบิร์ก; แต่น้อยมากที่ได้เห็นคนตีกลอง เหตุผลนี้เป็นผีมือกลองจะปรากฏเฉพาะในปราสาทเป็นเรื่องที่จะโจมตีสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบางครั้ง. กลองผีเป็นสักขีพยานครั้งแรกก่อนที่การโจมตีของรอมเวลล์ในปราสาทใน 1650 และเป็นรายงานที่ใช้รูปแบบของ เด็กหัวขาด ใครเด็กที่ถูกและทำไมตอนนี้เขาหลอกหลอนปราสาทเอดินเบอระไม่เป็นที่รู้จัก. เอดินบะระเช่นปราสาทส่วนใหญ่มีดันเจี้ยนที่นักโทษถูกทรมานและมักจะเสียชีวิตมักจะ ดันเจี้ยนเหล่านี้จะถูกหลอกหลอนโดยผีของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของพวกเขา ลูกกลมสีจะถ่ายภาพอย่างต่อเนื่องโดยผู้เข้าชม หนึ่งในนักโทษหมดหวังที่ซ่อนตัวอยู่ในรถเข็นมูลหวังที่จะได้รับการดำเนินการของปราสาทลงรอยัลไมล์และหลบหนีไปสู่อิสรภาพ คนที่โชคร้ายเสียชีวิตเมื่อรถเข็นได้รับการยอบลงเนินหินของปราสาทส่งเขาไปสู่ความตาย คนที่เข้ามาบอกว่าวิญญาณของเขาพยายามที่จะผลักพวกเขาจากเชิงเทินและจะมาพร้อมกับกลิ่นแรงและไม่เป็นที่พอใจของมูลสัตว์. ห้องใต้ดินใต้ปราสาทเอดินเบิร์กห้องใต้ดินใต้ปราสาทเอดินเบิร์กสิ่งที่ทำให้ปราสาทเอดินเบอระดันเจี้ยนที่ไม่ซ้ำกันคือการปรากฏตัวของผีหรืออย่างน้อย การปรากฏตัวของสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ในปี 2001 ดรริชาร์ดไวส์แมนวิ่งโครงการวิจัยการศึกษาปฏิกิริยาของผู้คนไปยังส่วนต่างๆของดันเจี้ยนและพื้นที่โดยรอบ ผู้เข้าชมเหล่านี้ที่ไม่มีความรู้ก่อนของปราสาทรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างที่ไกลมากขึ้นมักจะอยู่ในพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในการถูกผีสิงมากกว่าที่ใดในปราสาท. ในศตวรรษที่ 16 ดักลาสเจเน็ตเลดี้แห่ง Glamis ถูกขังอยู่ในปราสาทเอดินเบิร์กที่ถูกกล่าวหาว่า คาถาและสมรู้ร่วมคิดที่จะฆ่ากษัตริย์เจมส์โวลต์หลักฐานที่ได้รับกับเธอโดยการทรมานของคนรับใช้ของเธอ เธอถูกเผาทั้งเป็นใน 17 กรกฎาคม 1537 และลูกชายคนเล็กของเธอกิลเลสถูกนำตัวออกมาและบังคับให้ดูจากเชิงเทิน เลดี้กระสับกระส่ายจิตวิญญาณของเจเน็ตบอกว่าจะยังคงหลอกหลอนชิ้นส่วนของปราสาท ฮอลโลว์เสียงเคาะจะได้ยินบางครั้งในเวลากลางคืนเหล่านี้จะถูกนำมาประกอบกับคนงานสร้างแพลตฟอร์มที่เธอถูกเผา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปราสาทเอดินบะระเป็นหนึ่งในสถานที่ผีสิงมากที่สุดในสกอตแลนด์ และเอดินเบอระตัวเองถูกเรียกว่าเมืองที่เฮี้ยนที่สุดในทั้งหมดของยุโรป คุกใต้ดินของปราสาท มีอาถรรพณ์ และเห็นบ่อยตามหลอกหลอน ผีของอดีตนักโทษ

เอดินบะระปราสาทตั้งอยู่บนหินปราสาท เป็นภูเขาไฟสูญพันธุ์ และได้รับการเสริมสำหรับกว่า 2000 ปีปราสาทได้รับการคุ้มครองทางทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตก โดยหน้าผาสูงชันเพิ่มขึ้น 400 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล เข้าปราสาทโดยถนนที่ชันด้านตะวันออก ปราสาทจากตำแหน่งสูง dominates ทิวทัศน์ของเมืองเอดินบะระเอดินบะระปราสาท





ปราสาทเอดินบะระผสมที่อุดมไปด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของปราสาทที่ซับซ้อนและบทบาทเป็นทั้งป้อมปราการ และที่นั่งของกษัตริย์ เซนต์มาร์กาเร็ตโบสถ์ อาคารที่เก่าแก่ที่สุดในปราสาทเอดินเบิร์กวันที่จากศตวรรษที่ 12 ต้น มงกุฎสแควร์ , สนามหลัก ที่ถูกพัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 15 ; ห้องโถงใหญ่ด้วยความประทับใจค้อนคานหลังคาบ้านถูกสร้างขึ้นโดยเจมส์ 4 1 .พระจันทร์ครึ่งดวงแบตเตอรี่ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 มันอยู่ที่นักโทษต่างประเทศของสงครามได้ถูกจัดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถูกจับในสงครามกับฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 และ 19 . สกอตแลนด์อนุสรณ์สถานสงครามแห่งชาติที่ถูกเพิ่มเข้ามาหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

เอดินบะระมีที่ซ่อนใต้ดินที่ปราสาทขอเชื่อมต่อ