History[edit]The Al-Askari Mosque i

History[edit]

The Al-Askari Mosque in 1916.
The Imāms ‘Alī al-Hādī ("an-Naqī") and Hassan al-‘Askarī lived under house arrest in the part of Samarra that had been Caliph al-Mu'tasim's military camp (‘Askaru l-Mu‘tasim). As a result, they are known as the ‘Askariyyain "Dwellers in the Camp". They died and were buried in their house on Abī Ahmad Street near the mosque built by Mu‘tasim.[5] A later tradition attributes their deaths to poison.

Nasir ad-Din Shah Qajar undertook the latest remodelling of the shrine in 1868, with the golden dome added in 1905. Covered in 72,000 gold pieces and surrounded by walls of light blue tiles, the dome was a dominant feature of the Samarra skyline. It was approximately 20 m (66 ft) in diameter by 68 m (223 ft) high.

Bombings[edit]
2006 attack[edit]
Main article: 2006 al-Askari Mosque bombing

The Mosque in 2006 after the first bombing

Repairs to the al-Askari Mosque, October 2013
On 22 February 2006, at 6:55 am local time (0355 UTC) explosions occurred at the mosque, effectively destroying its golden dome and severely damaging the mosque. Several men belonging to Iraqi Sunni insurgent groups affiliated with Al-Qaida, one wearing a military uniform, had earlier entered the mosque, tied up the guards there and set explosives, resulting in the blast. Two bombs were set off[7][8] by five[9] to seven[10] men dressed as personnel of the Iraqi Special forces[11] who entered the shrine during the morning.[12]

2007 attack[edit]
Main article: 2007 al-Askari Mosque bombing
At around 8 am on 13 June 2007, operatives belonging to al-Qaeda in Iraq destroyed the two remaining 36 m (118 ft)-high golden minarets flanking the dome's ruins. No fatalities were reported. Iraqi police have reported hearing "two nearly simultaneous explosions coming from inside the mosque compound at around 8 am"[13] A report from state run Iraqiya Television stated that "local officials said that two mortar rounds were fired at the two minarets."[13]

Reopening[edit]
In late 2007, the Iraqi government conducted a contract with a Turkish company to rebuild the mosque. The Iraqi government later cancelled the contract due to delays by the Turkish company.[3] As of April 2009, the golden dome and the minarets have been restored and the shrine reopened to visitors.[3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[แก้ไข] ประวัติ

มัสยิดอัล-Askari ใน 1916.
Imāms 'Alī อัล-Hādī ("อัน-Naqī") และอัล Hassan-' Askarī อยู่ภายใต้การกักของ Samarra ที่เคยเคาะลีฟะฮ์อัล-Mu'tasim ของค่ายทหาร ('Askaru l Mu'tasim) ดังนั้น พวกเขาจะเรียกว่าการ ' Askariyyain "ชาวในค่าย" พวกเขาเสียชีวิต และถูกฝังในบ้านของพวกเขาบนถนน Abī Ahmad ใกล้มัสยิดสร้างขึ้น โดย Mu'tasim[5] เป็นประเพณีภายหลังคุณลักษณะผ่านไปพิษ

โฆษณา Nasir ดินชาห์ Qajar undertook ที่ล่าสุด remodelling ศาลเจ้าใน 1868 กับโดมทองเพิ่มปีพ.ศ. 2448 สมัย ครอบคลุมใน 72000 ชิ้นทอง และล้อมรอบ ด้วยผนังกระเบื้องสีฟ้าอ่อน โดมมีคุณลักษณะโดดเด่นของสกายไลน์ Samarra ก็ประมาณ 20 เมตร (66 ฟุต) เส้นผ่านศูนย์กลางโดยสูง 68 เมตร (223 ฟุต)

วางระเบิด [แก้ไข]
2006 โจมตี [แก้ไข]
บทความหลัก: ทิ้งระเบิดมัสยิดอัล-Askari 2006

มัสยิดในปี 2549 หลังจากการระเบิดครั้งแรก

ซ่อมแซมมัสยิดอัล Askari, 2013 ตุลาคม
กุมภาพันธ์ 2006 22 ที่ 6:55 am เวลาท้องถิ่น (0355 UTC) ระเบิดเกิดขึ้นที่มัสยิด ทำลายของโดมทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอย่างรุนแรงทำลายมัสยิด หลายคนที่เป็นสมาชิกของอิรัก Sunni กลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับอัลกออิดะห์ หนึ่งสวมชุดฟอร์มทหาร ก่อนหน้านี้ใส่มัสยิด ติดยามมี และตั้งวัตถุระเบิด การเกิดการระเบิด ระเบิดสองกำหนดปิด [7] [8] โดยห้า [9] การเจ็ดคน [10] แต่งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของกองกำลังอิรักพิเศษ [11] ที่ใส่ศาลเจ้าในตอนเช้า[12]

2007 โจมตี [แก้ไข]
บทความหลัก: ทิ้งระเบิดมัสยิดอัล-Askari 2007
ที่รอบ 08.00 น.วันที่ 13 2550 มิถุนายน นั่นเองของอัลกออิดะห์ในอิรักถูกทำลายทั้งสองเหลือ 36 เมตร (118 ฟุต) -สูงทอง minarets flanking ซากปรักหักพังของโดม ผู้ไม่มีรายงาน ตำรวจอิรักมีรายงานการได้ยิน "สองเกือบพร้อมระเบิดมาจากภายในมัสยิดผสมที่รอบ 8 น." [13] A รายงานจากสถานะรัน Iraqiya โทรทัศน์ระบุว่า "เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า ครก 2 ถูกยิงที่ minarets สอง"[13]

Reopening [แก้ไข]
ในปลาย 2007 รัฐบาลอิรักทำสัญญากับบริษัทตุรกีเพื่อสร้างมัสยิด รัฐบาลอิรักภายหลังยกเลิกสัญญาเนื่องจากความล่าช้าบริษัทในตุรกี[3] ณ 2552 เมษายน โดมทองและ minarets ได้ถูกคืนค่า และศาลเจ้าที่เปิดอยู[3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติ [ แก้ไข ]

" อัล อัสคารีมัสยิดใน 1916 .
IM MS ' al ī al-h อุบาสกอุบาสก D ī ( " แน็กī " ) และฮัสซัน อัล - 'askar īอยู่ภายใต้การจับกุมบ้านในส่วนของซามาร่า ที่ได้รับ al-mu'tasim กาหลิบทหารค่าย ( 'askaru l-mu'tasim ) เป็นผลให้ , พวกเขาเป็นที่รู้จักกันเป็น ' askariyyain ชาว " ในค่าย "พวกเขาตายและถูกฝังอยู่ในบ้านของพวกเขาบนถนนใกล้มัสยิดอาหมัด AB īสร้างโดย mu'tasim [ 5 ] ประเพณีในภายหลังคุณลักษณะที่พวกเขาเสียชีวิตเป็นพิษ

นาซิร โฆษณา ดิน ชาห์ การ์จาทำล่าสุดของเราของศาลเจ้าใน 1868 ที่มีโดมสีทองเพิ่มใน 1905 ครอบคลุมใน 72000 ชิ้นทองและล้อมรอบด้วยกำแพงกระเบื้องสีฟ้าอ่อนโดมเป็นคุณลักษณะเด่นของซามาร่า สกายไลน์ มันคือประมาณ 20 เมตร ( 66 ฟุต ) เส้นผ่าศูนย์กลางโดย 68 เมตร ( 223 ฟุต ) สูง .

ระเบิด [ แก้ไข ]
2006 โจมตี [ แก้ไข ]
บทความหลัก : 2006 ระเบิดมัสยิดอัล อัสคารี

มัสยิดในปี 2006 หลังแรกระเบิด

แซม อัลอัสคารีตุลาคม 2013
ในมัสยิด 22 กุมภาพันธ์ 2549 ณ 6:55 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 0355 UTC ) การระเบิดที่เกิดขึ้นที่มัสยิดมีประสิทธิภาพการทำลายโดมสีทองของมันและรุนแรงทำลายมัสยิด หลายชายของอิรักสุหนี่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรกับอัล qaida หนึ่งที่สวมเครื่องแบบทหาร ก่อนหน้านี้ได้เข้ามัสยิด มัดทหารและวางระเบิดให้ระเบิดสองระเบิดถูกตั้งปิด [ 7 ] [ 8 ] 5 [ 9 ] 7 [ 10 ] ผู้ชายที่แต่งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของอิรักกองกำลังพิเศษ [ 11 ] ใครเข้าศาลเจ้าในช่วงเช้า [ 12 ]

2550 โจมตี [ แก้ไข ]
บทความหลัก : 2007 ระเบิดมัสยิดอัล อัสคารี
ประมาณ 8 คือในวันที่ 13 มิถุนายน 2007 , ปฏิบัติการของอัลกออิดะห์ในอิรักถูกทำลายอีกสอง 36 M ( 118 ฟุต ) สูง - ทอง Minarets flanking ซากปรักหักพังของโดมไม่มีคนตายถูกรายงาน ตำรวจอิรักรายงานการได้ยิน " สองเกือบพร้อมกันระเบิดที่มาจากภายในมัสยิดผสมประมาณ 8 โมงเช้า " [ 13 ] รายงานสถานะจากโทรทัศน์ iraqiya วิ่งกล่าวว่า " เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกว่าปูนรอบสองถูกไล่ออกเมื่อสองหออะซาน " [ 13 ] [ แก้ไข ]


เปิดในปลายปี 2007รัฐบาลอิรักได้ทำการเซ็นสัญญากับ บริษัท ตุรกีสร้างมัสยิด รัฐบาลอิรักภายหลังยกเลิกสัญญาเนื่องจากความล่าช้า โดย บริษัท ตุรกี [ 3 ] เมื่อวันที่เมษายน 2009 , โดมทอง และตองกาได้รับการบูรณะ และเปิดให้เข้าชม ศาลเจ้า [ 3 ]