Career[edit]Warashina’s work is oft

Career[edit]
Warashina’s work is often humorous, and includes "clay figures placed in imagined environments that show her subversive thinking."[3] She uses sculpture to explore such themes as the human condition, feminism, car-culture, and political and social topics.[4]

As an art student at the University of Washington in the 1960s, Warashina noticed that the environment in the ceramics studio included a somewhat macho culture; women were not included in technical discussions relating to managing the kiln. She began creating a series of figurative works that used humor to skewer this gender imbalance in the field.[5]

In 1962, Warashina had her first solo exhibition at the Phoenix Art Gallery in Seattle. Warashina's first husband was fellow student Fred Bauer, and from 1964 to 1970 exhibited as Patti Bauer.[2] In 1976, she married Robert Sperry.[6]

She began teaching in 1964 and has taught at Wisconsin State University, Eastern Michigan University, the Cornish School of Allied Arts, and the University of Washington.[7] In the 1970-1980s, Warashina, Sperry, and Howard Kottler ran the ceramics program at the University of Washington's School of Art, growing it into one of the best-known in the United States.[8]

In 2013, the Bellevue Arts Museum organized a career retrospective exhibition, "Patti Warashina: Wit and Wisdom."[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาชีพ [แก้ไข]ทำงานของ Warashina มักจะเป็นอารมณ์ขัน และรวมถึง "ดินตัวเลขอยู่ในสภาพแวดล้อมเรื่องสมมติที่แสดงความคิด subversive ของเธอ" [3] เธอใช้ประติมากรรมเพื่อสำรวจรูปแบบดังกล่าวเป็นเงื่อนไขมนุษย์ สตรีนิยม วัฒนธรรมรถ และหัวข้อทางการเมือง และสังคม [4]เป็นการศึกษาศิลปะที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันในปี 1960, Warashina พบว่า สภาพแวดล้อมในสตูดิโอเซรามิครวมวัฒนธรรมผู้ชายค่อนข้าง ผู้หญิงไม่ได้ถูกรวมในการสนทนาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเตาเผา เธอเริ่มสร้างลำดับงานอุปมาที่ใช้อารมณ์ขัน skewer สมดุลเพศนี้ในฟิลด์ [5]ในปี 1962, Warashina มีนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเธอที่หอศิลป์ฟีนิกซ์ในซีแอตเติ สามีแรกของ Warashina เพื่อนนักศึกษา Fred Bauer และจากปี 1964 ถึง 1970 ที่จัดแสดงเป็นแพตตี Bauer [2] ในปี 1976 เธอแต่งงานกับโรเบิร์ต Sperry [6]เธอเริ่มสอนในปี 1964 และได้สอนที่ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นมิชิแกน คอร์นิชโรงเรียนของฝ่ายสัมพันธมิตรระหว่างศิลปะ และมหาวิทยาลัยวอชิงตัน [7] ในปี 1970-ไฟต์ Warashina, Sperry และ Howard Kottler วิ่งโปรแกรมเครื่องเคลือบที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันโรงเรียนศิลปะ เติบโตเป็นหนึ่งในรู้จักในสหรัฐอเมริกา [8]ในปี 2013 พิพิธภัณฑ์ศิลปะเบล์จัดนิทรรศการที่คาดอาชีพ, "แพตตี Warashina: ปัญญาและภูมิปัญญา" [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาชีพ [แก้ไข]
การทำงาน Warashina ของมักจะเป็นอารมณ์ขันและรวมถึง "ตัวเลขดินอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คิดที่แสดงให้เห็นความคิดที่จะล้มล้างของเธอ." [3] เธอใช้ประติมากรรมการสำรวจรูปแบบเช่นสภาพของมนุษย์สตรีรถวัฒนธรรมและการเมืองและ . หัวข้อสังคม [4] ในฐานะที่เป็นนักศึกษาศิลปะที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันในปี 1960, Warashina สังเกตเห็นว่าสภาพแวดล้อมในสตูดิโอเซรามิกรวมถึงวัฒนธรรมผู้ชายค่อนข้าง; ผู้หญิงไม่ได้รวมอยู่ในการอภิปรายทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเตาเผา เธอเริ่มสร้างชุดของงานเป็นรูปเป็นร่างที่ใช้อารมณ์ขันเพื่อเสียบความไม่สมดุลทางเพศในด้านนี้. [5] ในปี 1962 Warashina มีการแสดงนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเธอที่ฟีนิกซ์หอศิลป์ในซีแอต สามี Warashina แรกของเพื่อนนักศึกษาเฟร็ดบาวเออร์และ 1964-1970 แสดงเป็นแพตตี้บาวเออร์. [2] ในปี 1976 เธอแต่งงานกับโรเบิร์ตสเปอร์รี. [6] เธอเริ่มการเรียนการสอนในปี 1964 และได้สอนที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซินรัฐมิชิแกนตะวันออกมหาวิทยาลัย โรงเรียนคอร์นิชของพันธมิตร Arts และมหาวิทยาลัยวอชิงตัน. [7] ใน 1970-1980s, Warashina, สเปอร์รีและโฮเวิร์ด Kottler วิ่งโปรแกรมเซรามิกส์ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันของโรงเรียนศิลปะการเจริญเติบโตของมันเป็นหนึ่งใน best- . เป็นที่รู้จักในประเทศสหรัฐอเมริกา [8] ในปี 2013 พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Bellevue จัดนิทรรศการอาชีพย้อนหลัง "แพตตี้ Warashina. วิทย์และปัญญา" [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาชีพ [ แก้ไข ]
warashina งานมักจะอารมณ์ขันและรวมถึง " ตัวเลข ดิน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่แสดงจินตนาการคิดล้มล้างของเธอ " [ 3 ] เธอใช้ประติมากรรมเพื่อสำรวจรูปแบบเช่นสภาพมนุษย์ , สตรีนิยม , วัฒนธรรมรถยนต์ และประเด็นการเมืองและสังคม [ 4 ]

เป็นศิลปะนักเรียน มหาวิทยาลัยวอชิงตันในปี 1960warashina สังเกตเห็นว่าสภาพแวดล้อมในเซรามิกส์สตูดิโอรวมวัฒนธรรมค่อนข้างผู้ชาย ผู้หญิงที่ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในการสนทนาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ เตาเผา เธอเริ่มการสร้างชุดของงานที่ใช้ใช้อารมณ์ขันที่จะเสียบนี้เพศไม่สมดุล ในฟิลด์ . [ 5 ]

1962 warashina มีนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของเธอที่ฟินิกซ์ หอศิลป์ในซีแอตเติลสามีคนแรก warashina ถูกเพื่อนนักเรียนเฟรด บาวเออร์ และจาก 1964 1970 ) เป็น แพท บาวเออร์ [ 2 ] ในปี 1976 เธอแต่งงานกับโรเบิร์ต Sperry [ 6 ]

เธอเริ่มสอนใน 1964 และได้สอนในรัฐวิสคอนซินมหาวิทยาลัยมิชิแกนทางทิศตะวันออกมหาวิทยาลัย โรงเรียน คอร์นิช ซึ่งเป็นศิลปะ และ มหาวิทยาลัย วอชิงตัน [ 7 ] ใน 1970-1980s warashina Sperry , , ,และ Howard kottler รันเซรามิกโปรแกรมที่มหาวิทยาลัยวอชิงตันโรงเรียนศิลปะ เติบโตเป็นหนึ่งในที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา . [ 8 ]

ใน 2013 , พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Bellevue จัดนิทรรศการอาชีพย้อนหลัง " แพตตี้ warashina : ปัญญาและภูมิปัญญา " [ 1 ]