What can this galaxy tell us about

What can this galaxy tell us about the expansion rate of the universe? Perhaps a lot because UGC 9391, featured, not only contains Cepheid variable stars (red circles) but also a recent Type Ia supernova (blue X). Both types of objects have standard brightnesses, with Cepheids typically being seen relatively nearby, while supernovas are seen much further away. Therefore, this spiral is important because it allows a calibration between the near and distant parts of our universe. Unexpectedly, a recent analysis of new Hubble data from UGC 9391 and several similar galaxies has bolstered previous indications that Cepheids and supernovas are expanding with the universe slightly faster than expected from expansion measurements of the early universe. Given the multiple successes of early universe concordance cosmology, astrophysicists are now vigorously speculating about possible reasons for this discrepancy. Candidate explanations range from the sensational, such as the inclusion of unusual cosmological components types such as phantom energy and dark radiation, to the mundane, including statistical flukes and underestimated sources of systematic errors. Numerous future observations are being planned to help resolve the conundrum.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สามารถกาแล็กซี่นี้บอกอะไรเราเกี่ยวกับอัตราการขยายตัวของจักรวาล บางทีมาก เพราะ UGC 9391 ที่โดดเด่น ไม่เพียงแต่มี Cepheid แปรดาว (วงกลมสีแดง) แต่ยังมีล่ามหานวดาราประเภท Ia (X สีฟ้า) วัตถุทั้งสองชนิดมีมาตรฐาน brightnesses, Cepheids ที่เห็นทั่วไปจะค่อนข้างใกล้เคียง ขณะ supernovas เห็นมากต่อไป ดังนั้น เกลียวนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้การสอบเทียบระหว่างส่วนใกล้ และไกลของจักรวาลของเรา โดยไม่คาดคิด การวิเคราะห์ล่าใหม่ฮับเบิลข้อมูลจาก UGC 9391 และกาแล็กซีต่าง ๆ คล้ายได้รับการสนับสนุนตัวชี้วัดที่ Cepheids และ supernovas กำลังขยายกับจักรวาลเล็กน้อยเร็วกว่าที่คาดจากการวัดการขยายตัวของจักรวาลก่อน ก่อนหน้า ได้รับความสำเร็จหลายจักรวาลวิทยาสอดคล้องจักรวาลต้น astrophysicists อยู่ตอนนี้แรง ๆ หนังสือฯ เกี่ยวกับสาเหตุความขัดแย้งนี้ สมัครคำอธิบายช่วงที่โลดโผน เช่นรวมของชนิดองค์ประกอบจักรวาลผิดปกติแฝงพลังงานหรือรังสีมืด โลกีย์ flukes สถิติและตลอดมาของข้อผิดพลาดระบบ ข้อสังเกตในอนาคตมากมายกำลังวางแผนเพื่อแก้ไขปริศนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่สามารถกาแล็คซี่นี้บอกเราเกี่ยวกับอัตราการขยายตัวของเอกภพหรือไม่ บางทีอาจจะเป็นจำนวนมากเพราะ UGC 9391 ให้ความสำคัญไม่เพียง แต่มี Cepheid ตัวแปรดาว (วงกลมสีแดง) แต่ยังเป็นประเภท Ia ล่าสุดซูเปอร์โนวา (สีฟ้า X) ทั้งสองประเภทของวัตถุที่มีความสว่างมาตรฐานกับเซเฟอิดส์มักจะถูกมองเห็นได้ค่อนข้างใกล้เคียงในขณะที่ซูเปอร์โนวาจะเห็นห่างไกล ดังนั้นเกลียวนี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะจะช่วยให้การสอบเทียบระหว่างส่วนที่อยู่ใกล้และไกลของจักรวาลของเรา โดยไม่คาดคิดวิเคราะห์ล่าสุดของข้อมูลใหม่จากฮับเบิล UGC 9391 และกาแลกซี่ที่คล้ายกันหลายได้หนุนบ่งชี้ก่อนหน้านี้ที่เซเฟอิดส์และซูเปอร์โนวาจะขยายกับจักรวาลได้เร็วขึ้นกว่าคาดเล็กน้อยจากการวัดการขยายตัวของเอกภพในยุคต้น ป.ร. ให้ไว้หลายความสำเร็จของเอกภพในยุคต้นสอดคล้องจักรวาลนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ตอนนี้แรงเก็งกำไรเกี่ยวกับสาเหตุที่เป็นไปได้สำหรับความแตกต่างนี้ คำอธิบายของผู้สมัครตั้งแต่โลดโผนเช่นการรวมของส่วนประกอบดาราศาสตร์ที่ผิดปกติชนิดเช่นพลังงานผีและการฉายรังสีที่มืดเพื่อโลกรวมทั้งพยาธิใบไม้สถิติและแหล่งที่มาของข้อผิดพลาดประเมินระบบ ข้อสังเกตในอนาคตจำนวนมากมีการวางแผนเพื่อช่วยแก้ปริศนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งที่สามารถดาราจักรนี้บอกเราเกี่ยวกับการขยายตัวของจักรวาล บางที มาก เพราะ 9391 UGC , ที่โดดเด่น , ไม่เพียง แต่ประกอบด้วยดาวตัวแปร Cepheid ( วงกลมสีแดง ) แต่ยังล่าสุดซูเปอร์โนวาแบบ 1 เอ ( สีฟ้า x ) ทั้งสองประเภทของวัตถุมี brightnesses มาตรฐาน เหมือนกับการเห็นค่อนข้างใกล้เคียงกับปกติ ในขณะที่ซุปเปอร์โนวาจะเห็นไกลออกไป ดังนั้น วงจรนี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะจะช่วยให้การสอบเทียบระหว่างส่วนที่ใกล้และไกลของจักรวาลของเรา แต่การวิเคราะห์ล่าสุดของฮับเบิลข้อมูลใหม่จาก UGC 9391 และหลายคล้ายกาแล็กซีได้หนุนชี้ก่อนหน้าที่เหมือนกับซุปเปอร์โนวาจะขยายกับจักรวาลเล็กน้อยเร็วกว่าคาดจากการขยายขนาดของจักรวาลก่อน ได้รับหลายความสำเร็จของความสอดคล้องต้นจักรวาลวิทยาเอกภพ astrophysicists ขณะนี้อย่างแข็งขันคาดเดาเกี่ยวกับเหตุผลที่เป็นไปได้สำหรับความแตกต่างนี้ คำอธิบายผู้สมัครช่วงจากโลดโผน เช่น การรวมของส่วนประกอบชนิดอ่อนผิดปกติเช่นพลังงานผีและรังสีมืดไปทางโลก รวมทั้งแหล่งที่มาของข้อผิดพลาดและฟลุคสถิติประเมินอย่างเป็นระบบ การสังเกตการณ์ในอนาคตมากมายถูกวางแผนเพื่อช่วยแก้ปริศนา