The Hemodialysis DietWhat's a hemod

The Hemodialysis Diet
What's a hemodialysis diet?

The hemodialysis diet is an eating plan tailored to patients who are on hemodialysis. It’s designed to reduce the amount of fluid and waste that builds up between hemodialysis treatments so that you can feel your best.
What can I eat?

In addition to enjoying a variety of nutritious foods, the hemodialysis diet will introduce a higher amount of high-quality protein into your eating plan. Your dietitian will determine the amount. High-protein foods such as lean meat, poultry, fish and egg whites provide all the essential amino acids your body needs.
What can’t I eat?

Foods containing high amounts of sodium, phosphorus and potassium are restricted. Your dietitian will provide you with food lists that indicate which foods are allowed and which ones you should avoid or limit. You will also limit your fluid intake.
Why do I have to eat this way?

Your dietitian and doctor will strongly recommend you follow the hemodialysis diet, so your dialysis treatments will be effective, you can feel your best, and help reduce the risk of health complications associated with kidney disease and dialysis.
How does the hemodialysis diet help?

Your hemodialysis diet will include a balance of nutrients to help keep your body healthy and strong, while allowing the amount of potassium, phosphorus and sodium your body can safely handle.

Potassium is easily removed by dialysis, but when it builds up in the blood between treatments, it can cause muscle weakness and make your heart stop beating. Certain fruits, vegetables, dairy products and other foods that are high in potassium will need to be restricted from your diet.

Phosphorus is difficult for hemodialysis to filter from the blood so it’s important to limit foods that contain the mineral. Phosphorus can build to high levels in the bloodstream and cause weak bones, heart problems, joint pain or skin ulcers. Your doctor may also prescribe a medicine called a phosphorus binder to help keep phosphorus levels normal.

Sodium causes your body to hold onto more fluid and raises your blood pressure. Eating less sodium and drinking less fluid can help you feel comfortable before and after your dialysis sessions.
What about fluid intake?

Too much fluid gain between hemodialysis sessions can cause discomfort, including swelling, shortness of breath or high blood pressure. Fluid intake is not limited to what you can drink; it’s also hidden in some foods you eat, including gelatin, ice, sherbet, watermelon, sauces and gravies. Your dietitian will give you guidelines to help you monitor your fluid intake.
How long do I have to follow the hemodialysis diet?

You will follow the hemodialysis diet as long as you need hemodialysis. Your dietitian may make some changes to it in order to adjust to your current condition and activity levels.
How do I know if the hemodialysis diet is working?

There are various ways of knowing if the hemodialysis diet is working. One way is by how you feel before and after dialysis.

By following the hemodialysis diet, sticking to your fluid allowance and taking your prescribed medicines, the buildup of waste and fluid will be minimal and you won’t feel ill. Your dialysis treatments won’t have to pull too much fluid from your body and you can avoid feeling weak or dizzy afterwards. Also, you may experience fewer health complications caused by too much phosphorus, sodium and potassium.

Another way to tell that the hemodialysis diet is working is by your target, or “dry”, weight. Your target weight is the weight your doctor thinks you would be when all the extra fluid is removed from your body. You will be weighed before and after your treatment to see how close you are to your target weight. Following your recommended fluid intake will keep you from going too high above your target weight. It’s normal for hemodialysis patients to gain fluid around 3 percent of their body weight between treatments.

Test results are the best way to see how well you’re doing on your diet and hemodialysis. Monthly laboratory tests are done to help your healthcare team evaluate you for anemia, mineral balance, protein nutrition and adequacy of dialysis. DaVita dialysis patients can access their labs on the DaVita Health Portal™, too. Following your diet will help will help keep your test results within an acceptable range.

Your dietitian will also perform a nutrition assessment when you begin hemodialysis and at least yearly. Signs of nutrition problems, changes in weight and energy levels and any other problems will be checked. It will include an individualized nutrition plan of action.
If I follow the hemodialysis diet will my kidneys get better?

Your kidneys are already damaged and cannot be cured or reversed. However, the hemodialysis diet can help you feel your best between dialysis treatments and afterward.
Related articles on DaVita.com

Sticking with a Kidney-Friendly Diet
Top 15 Healthy Foods for People with Kidne

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาหารฟอกเลือดอาหารการฟอกไตคืออะไรแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีไตอาหารฟอกเลือดได้ มันได้ออกแบบให้ลดปริมาณของของเหลวและขยะที่สร้างขึ้นระหว่างการรักษาไตเพื่อให้คุณสามารถรู้สึกดีสุดสิ่งที่ฉันสามารถรับประทานนอกจากทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ อาหารไตจะแนะนำยอดเงินสูงโปรตีนคุณภาพสูงลงในแผนการรับประทานอาหาร โภชนาการของคุณจะกำหนดจำนวน อาหารโปรตีนสูงเช่นเนื้อ ไก่ ปลา และไข่ขาวให้กรดอะมิโนทั้งหมดจำเป็นต่อร่างกายของคุณต้องฉันไม่กินอะไรอาหารที่ประกอบด้วยปริมาณโซเดียมสูง ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมจะถูกจำกัด โภชนาการของคุณจะให้คุณกับรายการอาหารที่ระบุว่า อาหารที่ได้รับอนุญาตและที่คุณควรหลีกเลี่ยง หรือจำกัด นอกจากนี้คุณยังจะจำกัดการบริโภคของเหลวทำไมต้องกินทางนี้โภชนาการและแพทย์จะขอแนะนำให้คุณปฏิบัติตามอาหารฟอกเลือด เพื่อรักษาไตของคุณจะมีประสิทธิภาพ คุณสามารถรู้สึกดีสุด และช่วยลดความเสี่ยงของภาวะที่เกี่ยวข้องกับโรคไตและไตวิธีการช่วยให้อาหารฟอกเลือดอาหารไตของคุณจะมีความสมดุลของสารอาหารเพื่อช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดี และแข็ง แรง ในขณะที่ปริมาณโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และโซเดียมช่วยให้ร่างกายของคุณสามารถจัดการได้อย่างปลอดภัยโพแทสเซียมจะถูกเอาออก โดยไตได้ แต่เมื่อมันสร้างขึ้นในเลือดระหว่างการรักษา มันอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ และทำให้หัวใจคุณหยุดเต้น ผลไม้บางอย่าง ผัก ผลิตภัณฑ์นม และอาหารอื่น ๆ ที่มีโพแทสเซียมสูงจะต้องถูกจำกัดจากอาหารของคุณฟอสฟอรัสเป็นเรื่องยากสำหรับการฟอกเลือดการกรองจากเลือดดังนั้นจึงควรจำกัดอาหารที่ประกอบด้วยแร่ ฟอสฟอรัสสามารถสร้างระดับสูงในกระแสเลือด และทำให้กระดูกอ่อน ปัญหาหัวใจ อาการปวดข้อ หรือผิวแผล นอกจากนี้แพทย์ยังอาจกำหนดยาเรียกว่า binder เป็นฟอสฟอรัสเพื่อช่วยรักษาระดับฟอสฟอรัสปกติโซเดียมทำให้ร่างกายของคุณเก็บลงเพิ่ม และเพิ่มความดันโลหิต กินโซเดียมน้อย และดื่มน้ำน้อยจะช่วยให้คุณรู้สึกสะดวกสบายก่อน และหลัง จากช่วงการฟอกไตคือของเหลวอะไรกำไรมากเกินไปของเหลวระหว่างรอบไตอาจทำให้สบาย รวมถึงอาการบวม หายใจถี่หรือความดันโลหิตสูง ของเหลวไม่จำกัดอะไรที่คุณสามารถดื่ม นอกจากนี้มันยังถูกซ่อนอยู่ในอาหารบางอย่างที่คุณกิน วุ้น น้ำแข็ง เชอร์เบท แตงโม ซอส และ gravies โภชนาการของคุณจะให้คำแนะนำเพื่อช่วยให้คุณตรวจสอบการบริโภคของเหลวระยะต้องปฏิบัติตามอาหารฟอกเลือดหรือไม่คุณจะปฏิบัติตามอาหารฟอกเลือดตราบใดที่คุณจำเป็นต้องฟอกเลือด โภชนาการของคุณอาจเปลี่ยนแปลงบางอย่างไปปรับสภาพปัจจุบันและระดับกิจกรรมทราบหรือไม่ว่า อาหารไตทำงานมีหลากหลายวิธีว่าถ้ามีการทำอาหารฟอกเลือด วิธีหนึ่งคือการว่าคุณรู้สึกอย่างไรก่อน และ หลังการฟอกเลือดตามอาหารฟอกเลือด ผสานกับน้ำหนักของของเหลว และการใช้ยาของแพทย์หรือเภสัชกร สะสมของเสียและของเหลวจะน้อยที่สุด และคุณจะไม่รู้สึกป่วย รักษาไตของคุณจะไม่ต้องดึงมากเกินไปของเหลวจากร่างกายของคุณ และคุณสามารถหลีกเลี่ยงความรู้สึกอ่อนแอ หรือเวียนหัวหลังจากนั้น นอกจากนี้ คุณอาจพบภาวะแทรกซ้อนสุขภาพน้อยที่เกิดจากฟอสฟอรัส โซเดียม และโพแทสเซียมมากเกินไปอีกวิธีหนึ่งเพื่อบอกว่า อาหารไตเทียมทำงานคือเป้าหมาย หรือ "แห้ง" น้ำหนัก น้ำหนักเป้าหมายของคุณมีน้ำหนักที่แพทย์คิดว่า คุณจะเป็นเมื่อของเหลวพิเศษทั้งหมดจะถูกเอาออกจากร่างกาย คุณจะชั่งน้ำหนักก่อน และหลังของคุณเพื่อดูว่าคุณมีน้ำหนักเป้าหมายของคุณ ปริมาณของเหลวของคุณแนะนำต่อไปนี้จะให้คุณจะสูงเกินกว่าเป้าหมาย เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ป่วยไตเทียมเพื่อให้น้ำมันประมาณร้อยละ 3 ของน้ำหนักร่างกายของพวกเขาระหว่างการรักษาผลการทดสอบเพื่อดูว่าคุณกำลังทำอาหารและไตได้ รายเดือนห้องปฏิบัติการทดสอบจะทำการช่วยเหลือทีมสุขภาพประเมินคุณโรคโลหิตจาง สมดุลแร่ธาตุ สารอาหารโปรตีน และความเพียงพอของการฟอกเลือด DaVita ฟอกเลือดผู้ป่วยสามารถเข้าถึงห้องแล็บของพวกเขาในเว็บไซต์สุขภาพ DaVita ™ เกินไป ต่อไปนี้อาหารของคุณ จะช่วยจะช่วยให้ผลการทดสอบในช่วงยอมรับโภชนาการของคุณจะทำการประเมินโภชนาการ เมื่อคุณเริ่มการฟอกเลือด และ ที่น้อยที่สุดประจำปี จะสามารถตรวจสอบสัญญาณของปัญหาทางโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงในน้ำหนักและระดับพลังงาน และปัญหาอื่น ๆ จะมีแผนการโภชนาการเป็นรายบุคคลการดำเนินการถ้าฉันทำตามอาหารฟอกเลือด จะไตของฉันได้ดีไตแล้วเสียหาย และไม่หาย หรือกลับรายการ อย่างไรก็ตาม อาหารฟอกเลือดสามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีที่สุดของ การรักษาไต และหลังจากนั้นบทความที่เกี่ยวข้อง DaVita.com ติดกับอาหารที่เลี้ยงไต อาหารเพื่อสุขภาพยอดนิยม 15 สำหรับคนที่มี Kidne

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไตเทียมอาหาร
อะไรเป็นอาหารไตเทียม? อาหารการฟอกเลือดเป็นวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยที่อยู่ในการฟอกเลือด มันออกแบบมาเพื่อลดปริมาณของของเหลวและของเสียที่สร้างขึ้นระหว่างการรักษาไตเทียมเพื่อให้คุณสามารถรู้สึกดีที่สุดของคุณ. สิ่งที่ฉันสามารถกินหรือ? นอกจากเพลิดเพลินกับความหลากหลายของอาหารมีคุณค่าทางโภชนาการอาหารฟอกเลือดจะแนะนำเป็นจำนวนเงินที่สูงขึ้นของสูง โปรตีนที่มีคุณภาพในการวางแผนการกินของคุณ นักโภชนาการของคุณจะกำหนดจำนวนเงินที่ อาหารที่มีโปรตีนสูงเช่นเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, สัตว์ปีก, ปลาและไข่ขาวให้ทุกกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายต้องการ. สิ่งที่ฉันไม่สามารถกินอาหารที่มีปริมาณสูงของโซเดียมฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมถูก จำกัด นักโภชนาการของคุณจะช่วยให้คุณมีรายการอาหารที่บ่งชี้ว่าอาหารที่จะได้รับอนุญาตและคนที่คุณควรหลีกเลี่ยงหรือขีด จำกัด นอกจากนี้คุณยังจะ จำกัด การบริโภคน้ำของคุณ. ทำไมฉันต้องกินทางนี้นักโภชนาการและแพทย์ของคุณจะขอแนะนำให้คุณทำตามอาหารการฟอกเลือดเพื่อรักษาฟอกไตคุณจะมีประสิทธิภาพที่คุณสามารถรู้สึกที่ดีที่สุดของคุณและช่วยลดความเสี่ยงของ โรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคไตและฟอกเลือด. อย่างไรฟอกเลือดอาหารช่วยเหลือ? อาหารการฟอกเลือดของคุณจะมีความสมดุลของสารอาหารที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณมีสุขภาพดีและแข็งแรงขณะที่ช่วยให้ปริมาณของโพแทสเซียมฟอสฟอรัสและโซเดียมในร่างกายของคุณสามารถจัดการได้อย่างปลอดภัยโพแทสเซียมจะถูกลบออกได้อย่างง่ายดายโดยการฟอกเลือด แต่เมื่อมันสร้างขึ้นในเลือดระหว่างการรักษาก็อาจทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและทำให้หัวใจหยุดเต้นของคุณ ผลไม้บาง, ผัก, ผลิตภัณฑ์นมและอาหารอื่น ๆ ที่มีโพแทสเซียมสูงจะต้องถูก จำกัด จากอาหารของคุณ. ฟอสฟอรัสเป็นเรื่องยากสำหรับการฟอกเลือดเพื่อกรองจากเลือดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะ จำกัด อาหารที่มีแร่ ฟอสฟอรัสสามารถสร้างระดับสูงในกระแสเลือดและทำให้กระดูกอ่อนแอปัญหาหัวใจอาการปวดข้อหรือแผลที่ผิวหนัง แพทย์ของคุณอาจกำหนดยาที่เรียกว่าสารยึดเกาะฟอสฟอรัสที่จะช่วยให้ระดับฟอสฟอรัสปกติ. โซเดียมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายของคุณจะถือเข้าของเหลวมากขึ้นและเพิ่มความดันโลหิตของคุณ การรับประทานโซเดียมน้อยลงและการดื่มของเหลวน้อยสามารถช่วยให้คุณรู้สึกสบายก่อนและหลังการประชุมการฟอกไตของคุณ. สิ่งที่เกี่ยวกับการดื่มน้ำ? กำไรของเหลวมากเกินไประหว่างภาคการฟอกเลือดอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายรวมถึงอาการบวมหายใจถี่หรือความดันโลหิตสูง ดื่มน้ำไม่ได้ จำกัด อยู่กับสิ่งที่คุณสามารถดื่ม; ก็ยังซ่อนอยู่ในอาหารบางอย่างที่คุณกินรวมทั้งเจลาตินน้ำแข็งไอศกรีมเชอร์เบทแตงโม, ซอสปรุงรสและเกรวี่ นักโภชนาการของคุณจะให้แนวทางที่จะช่วยให้คุณตรวจสอบปริมาณน้ำของคุณ. นานแค่ไหนที่ฉันต้องทำตามอาหารการฟอกเลือดหรือไม่คุณจะทำตามอาหารการฟอกเลือดได้นานเท่าที่คุณจะต้องฟอกไต นักโภชนาการของคุณอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อให้มันเพื่อที่จะปรับตัวเข้ากับสภาพและกิจกรรมปัจจุบันระดับของคุณ. ฉันจะรู้ว่าอาหารการฟอกเลือดกำลังทำงานอยู่มีหลายวิธีที่จะรู้ถ้าอาหารฟอกไตจะทำงาน วิธีหนึ่งคือว่าคุณรู้สึกอย่างไรก่อนและหลังการฟอกไต. โดยต่อไปนี้การรับประทานอาหารการฟอกเลือดที่ติดกับค่าเผื่อน้ำของคุณและการใช้ยาที่กำหนดของคุณสะสมของเสียและของเหลวจะมีเพียงเล็กน้อยและคุณจะไม่รู้สึกไม่ดี การรักษาฟอกไตของคุณจะไม่ต้องดึงของเหลวมากเกินไปจากร่างกายของคุณและคุณสามารถหลีกเลี่ยงความรู้สึกอ่อนแอหรือวิงเวียนหลังจากนั้น นอกจากนี้คุณอาจพบภาวะแทรกซ้อนสุขภาพน้อยลงเกิดจากฟอสฟอรัสมากเกินไปโซเดียมและโพแทสเซียม. วิธีที่จะบอกว่าอาหารการฟอกเลือดจะทำงานโดยเป้าหมายของคุณ "แห้ง" หรือน้ำหนักอีก น้ำหนักเป้าหมายของคุณคือน้ำหนักแพทย์ของคุณคิดว่าคุณจะเป็นเมื่อทุกของเหลวพิเศษจะถูกลบออกจากร่างกายของคุณ คุณจะได้รับการชั่งน้ำหนักก่อนและหลังการรักษาของคุณเพื่อดูว่าคุณอยู่ใกล้กับน้ำหนักเป้าหมายของคุณ ต่อไปนี้การดื่มน้ำที่แนะนำของคุณจะทำให้คุณจากไปสูงเกินไปน้ำหนักเป้าหมายของคุณ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ป่วยที่จะได้รับการฟอกเลือดของเหลวประมาณร้อยละ 3 ของน้ำหนักร่างกายของพวกเขาระหว่างการรักษา. ผลการทดสอบเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อดูวิธีการที่ดีที่คุณกำลังทำอยู่ในอาหารและการฟอกเลือดของคุณ ทดสอบในห้องปฏิบัติการรายเดือนจะดำเนินการเพื่อช่วยให้ทีมงานดูแลสุขภาพของคุณประเมินสำหรับโรคโลหิตจาง, ความสมดุลของแร่ธาตุสารอาหารโปรตีนและความเพียงพอของการฟอกเลือด DAVITA ฟอกเลือดผู้ป่วยสามารถเข้าถึงห้องปฏิบัติการของพวกเขาใน DAVITA สุขภาพพอร์ทัล™เกินไป ต่อไปนี้อาหารของคุณจะช่วยจะช่วยให้ผลการทดสอบของคุณในช่วงที่ยอมรับ. นักโภชนาการของคุณยังจะดำเนินการประเมินโภชนาการเมื่อคุณเริ่มการฟอกเลือดและอย่างน้อยเป็นประจำทุกปี สัญญาณของปัญหาโภชนาการการเปลี่ยนแปลงในน้ำหนักและระดับพลังงานและปัญหาอื่น ๆ จะได้รับการตรวจสอบ มันจะมีแผนโภชนาการออมสินของการกระทำ. ถ้าผมทำตามอาหารการฟอกเลือดจะได้รับไตของฉันดีกว่า? ไตของคุณได้รับความเสียหายแล้วและไม่สามารถรักษาให้หายขาดหรือย้อนกลับ อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารการฟอกเลือดสามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีที่สุดของคุณระหว่างการรักษาฟอกไตและหลังจากนั้น. บทความที่เกี่ยวข้องกับ DaVita.com ผสานกับไต-Friendly อาหารTop 15 อาหารเพื่อสุขภาพสำหรับคนที่มี Kidne