Bread, in all its various forms, is

Bread, in all its various forms, is the most widely consumed food in the world. Not only is it an important source of carbohydrates, it’s also portable and compact, which helps to explain why it has been an integral part of our diet for thousands of years. In fact, recent scholarship suggests humans started baking bread at least 30,000 years ago.

Prehistoric man had already been making gruel from water and grains, so it was a small jump to starting cooking this mixture into a solid by frying it on stones. A 2010 study by the National Academy of Sciences discovered traces of starch (likely from the roots of cattails and ferns) in prehistoric mortar and pestle-like rocks. The roots would have been peeled and dried before they were ground into flour and mixed with water. Finally, the paste would be cooked on heated rocks.

But how did humanity get from this prehistoric flatbread to a fluffy, grocery store loaf? There were three primary innovations that created “modern” bread.

1. Leavening
Leavening is what makes bread rise into a light and fluffy loaf. Bread without leavening is a known as flatbread, and is the most closely related to mankind’s first breads. Examples include Middle Eastern pita, Indian naan and Central American tortillas.

The most common leavening for bread is yeast. Yeast floats around in the air, looking for a nice place to make a home—like a starchy bowl of flour and water. The first leavened bread was likely the result of some passing yeast making a home in a bowl of gruel. The yeast began eating the sugars present in grain, and excreting CO2, producing bubbles that resulted in lighter, airier bread. Commercial yeast production dates back to the skilled bread makers of Ancient Egypt around 300 B.C.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขนมปัง ในทั้งหมดของแบบฟอร์มต่าง ๆ เป็นอาหารที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก ไม่เพียงแต่ เป็นแหล่งสำคัญของคาร์โบไฮเดรต มี ขนาดกะทัดรัด และพกพาซึ่งช่วยอธิบายว่าทำไมมันได้รับเป็นส่วนหนึ่งของอาหารของเราหลายพันปี ในความเป็นจริง ทุนการศึกษาล่าสุดแนะนำมนุษย์เริ่มการอบขนมปังน้อย 30000 ปีที่ผ่านมามนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้แล้วทำให้โจ๊กจากน้ำและธัญพืช ดังนั้นก็กระโดดขนาดเล็กการเริ่มต้นทำอาหารส่วนผสมนี้ลงในของแข็ง โดยทอดบนหิน การศึกษา 2010 โดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติพบร่องรอยของแป้ง (น่าจะจากรากของเฟิร์นและ cattails) ในปูนสมัยก่อนประวัติศาสตร์และ pestle เหมือนหิน รากจะถูกปอกเปลือก และแห้งก่อนที่จะมีพื้นดินเป็นแป้ง และผสมกับน้ำ ในที่สุด จะสุกวางบนหินอุ่นแต่วิธีได้มนุษย์ได้รับจาก flatbread สมัยก่อนประวัติศาสตร์นี้ไปชำก้อนนุ่ม มีสามหลักนวัตกรรมที่สร้างขนมปัง "ทันสมัย"1. leaveningLeavening เป็นสิ่งทำให้ขนมปังขึ้นเป็นก้อนนุ่ม และเบา ขนมปังไม่ leavening รู้จักกันเป็น flatbread และที่สุดเกี่ยวข้องกับขนมปังแรกของมนุษย์ ตัวอย่างเช่นปิตาที่ตะวันออกกลาง อินเดียน่าน และให้ tortillas มาลาวีLeavening ทั่วสำหรับขนมปังยีสต์ได้ ยีสต์ลอยรอบในอากาศ ค้นหาดีจะทำให้บ้าน — เช่นฟูมน้ำแป้งและน้ำ ขนมปัง leavened แรกอาจถูกผลของยีสต์บางช่วยทำให้บ้านในชามโจ๊ก ยีสต์เริ่มกินน้ำตาลที่อยู่ในเมล็ดข้าว และ excreting CO2 ผลิตฟองอากาศที่ทำให้เกิดขนมปังเบา airier เชิงพาณิชย์ยีสต์ผลิตวันกลับผู้ผลิตขนมปังฝีมือของอียิปต์โบราณประมาณ 300 บี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขนมปังในรูปแบบต่างๆทั้งหมดของตนเป็นส่วนใหญ่ที่บริโภคกันอย่างแพร่หลายอาหารในโลก มันไม่ได้เป็นเพียงเป็นแหล่งสำคัญของคาร์โบไฮเดรตก็ยังพกพาและมีขนาดกะทัดรัดซึ่งจะช่วยอธิบายว่าทำไมจึงได้รับเป็นส่วนหนึ่งของอาหารของเราเป็นพัน ๆ ปี ในความเป็นจริงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นทุนมนุษย์เริ่มขนมปังอบอย่างน้อย 30,000 ปีที่ผ่านมา. คนยุคก่อนประวัติศาสตร์มีอยู่แล้วรับการทำข้าวต้มจากน้ำและธัญพืชดังนั้นมันจึงเป็นกระโดดขนาดเล็กที่จะเริ่มต้นการปรุงอาหารผสมนี้เป็นของแข็งโดยการทอดไว้บนก้อนหิน ศึกษา 2010 โดยสถาบันการศึกษาวิทยาศาสตร์แห่งชาติพบร่องรอยของแป้ง (น่าจะมาจากรากของพงหญ้าและเฟิร์น) ในครกหินยุคก่อนประวัติศาสตร์และสากเหมือน รากจะได้รับการปอกเปลือกและแห้งก่อนที่จะถูกบดเป็นแป้งผสมกับน้ำ ในที่สุดก็จะถูกวางอยู่บนโขดหินที่ปรุงสุกอุ่น. แต่วิธีการที่มนุษย์ได้รับจากขนมปังก่อนประวัติศาสตร์นี้ให้หนานุ่มก้อนร้านขายของชำ? มีสามนวัตกรรมหลักที่สร้างขนมปัง "ทันสมัย" เป็น. 1 หัวเชื้อหัวเชื้อเป็นสิ่งที่ทำให้การเพิ่มขึ้นของขนมปังเป็นแสงและก้อนปุย โดยไม่ต้องขนมปังหัวเชื้อเป็นที่รู้จักกันเป็นขนมปังและเป็นที่สุดที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับขนมปังแรกของมนุษยชาติ ตัวอย่าง ได้แก่ ไฟลนก้นตะวันออกกลาง, Naan อินเดียและอเมริกากลาง tortillas. หัวเชื้อที่พบมากที่สุดสำหรับขนมปังยีสต์ ยีสต์ลอยอยู่ในอากาศรอบ ๆ ที่กำลังมองหาสถานที่ที่ดีที่จะทำให้เหมือนบ้านชามแป้งแป้งและน้ำ ขนมปังขึ้แรกก็น่าจะเป็นผลมาจากยีสต์บางส่วนที่ผ่านการทำบ้านในชามข้าวต้ม ยีสต์เริ่มกินน้ำตาลที่มีอยู่ในเมล็ดพืชและ CO2 ขับถ่ายผลิตฟองอากาศที่ส่งผลให้มีน้ำหนักเบาขนมปัง airier ยีสต์ผลิตเชิงพาณิชย์วันที่กลับไปผลิตขนมปังที่มีทักษะของอียิปต์โบราณประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขนมปังในรูปแบบต่าง ๆทั้งหมดของมันเป็นอาหารบริโภคอย่างกว้างขวางมากที่สุดในโลก ไม่เพียง แต่มันเป็นแหล่งสำคัญของคาร์โบไฮเดรต มันเป็นแบบพกพาและมีขนาดกะทัดรัด ซึ่งช่วยอธิบายได้ว่าทำไมมันได้รับเป็นส่วนหนึ่งของอาหารของเราเป็นพัน ๆ ปี ในความเป็นจริง การศึกษาล่าสุดพบว่ามนุษย์เริ่มขนมปังอบอย่างน้อย 30 , 000 ปีมาแล้ว

มนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้ทำข้าวต้มจากน้ำและธัญพืชเพื่อให้มันกระโดดขนาดเล็ก เริ่มทำอาหารส่วนผสมนี้กลายเป็นของแข็ง โดยการทอดในหิน 2010 การศึกษาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติค้นพบร่องรอยของแป้ง ( น่าจะจากรากของพืช และพืช ) ในครกสากเหมือนปลาหินรากจะได้รับการปอกเปลือกและแห้งก่อนที่จะคายลงในแป้งและผสมกับน้ำ ในที่สุด วาง จะต้มบนหินร้อน

แต่ทำไมมนุษย์ได้รับจาก : ยุคก่อนประวัติศาสตร์นี้ปุยก้อน , ร้านขายของชำ ? มีสามหลักนวัตกรรมที่สร้าง " ขนมปังสมัยใหม่ " .

1 .
หัวเชื้อหัวเชื้อจะทำให้ขนมปังขึ้นเป็นแสงและปุยก้อน .ขนมปัง โดยหัวเชื้อเป็นที่รู้จักกันเป็น flatbread และเป็นส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับมนุษย์ขนมปังก่อน ตัวอย่าง ได้แก่ ตะวันออกกลาง อินเดียและ Pita , naan tortillas อเมริกากลาง

ส่วนใหญ่หัวเชื้อสำหรับขนมปังยีสต์ ยีสต์ลอยตัวอยู่ในอากาศ มองหาสถานที่ที่ดีที่จะทำให้บ้านเหมือนชามแป้งของแป้งและน้ำแรกขนมปังมีเชื้อมีแนวโน้มผลบางผ่านยีสต์การสร้างบ้านในชามข้าวต้ม ยีสต์เริ่มรับประทานน้ำตาลที่มีอยู่ในเมล็ดข้าว และการขับถ่ายคาร์บอนไดออกไซด์ผลิตฟองที่ส่งผลให้เบา airier ขนมปัง ยีสต์การผลิตเชิงพาณิชย์วันที่กลับไปฝีมือผู้ผลิตขนมปังของอียิปต์โบราณประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล