He accepted the position of Directo

He accepted the position of Director of the Max Planck Institute for the Study of the Scientific-Technical World in Starnberg (near Munich) in 1971, and worked there until 1983, two years after the publication of his magnum opus, The Theory of Communicative Action. He was elected a Foreign Honorary Member of the American Academy of Arts and Sciences in 1984.[7]

Habermas then returned to his chair at Frankfurt and the directorship of the Institute for Social Research. Since retiring from Frankfurt in 1993, Habermas has continued to publish extensively. In 1986, he received the Gottfried Wilhelm Leibniz Prize of the Deutsche Forschungsgemeinschaft, which is the highest honour awarded in German research. He also holds the uncharacteristically postmodern position of "Permanent Visiting" Professor at Northwestern University in Evanston, Illinois, and "Theodor Heuss Professor" at The New School, New York.

Habermas was awarded The Prince of Asturias Award in Social Sciences of 2003. Habermas was also the 2004 Kyoto Laureate[8] in the Arts and Philosophy section. He traveled to San Diego and on 5 March 2005, as part of the University of San Diego's Kyoto Symposium, gave a speech entitled The Public Role of Religion in Secular Context, regarding the evolution of separation of church and state from neutrality to intense secularism. He received the 2005 Holberg International Memorial Prize (about €520,000). In 2007, Habermas was listed as the seventh most-cited author in the humanities (including the social sciences) by The Times Higher Education Guide, ahead of Max Weber and behind Erving Goffman.[9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขายอมรับตำแหน่งของผู้อำนวยการ สถาบันของพลังค์ Max สำหรับการศึกษาของโลกวิทยาศาสตร์เทคนิคใน Starnberg (ใกล้มิวนิค) ในปี 1971 และทำงานมีจนถึงปี 1983 สองปีหลังจากการประกาศของเขาเมนแมกนัม opus ที่ทฤษฎีของหลักการกระทำ เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ต่างประเทศของวิทยาลัยอเมริกันของศิลปะและวิทยาศาสตร์ในปี 1984[7]Habermas นั้นกลับไปของเขาเก้าอี้ที่แฟรงค์เฟิร์ตและดำรงสถาบันวิจัยสังคม ตั้งแต่ออกจากแฟรงค์เฟิร์ตใน 1993, Habermas ได้อย่างต่อเนื่องเพื่อเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ใน 1986 เขาได้รับรางวัล Leibniz วิลเฮล์ม Gottfried ของ Deutsche Forschungsgemeinschaft ซึ่งเป็นเกียรติสูงสุดที่ได้รับรางวัลวิจัยเยอรมัน เขายังดำรงตำแหน่งหลังสมัยใหม่ uncharacteristically "ชมถาวร" ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยตะวันตกเฉียงเหนือ Evanston รัฐอิลลินอยส์ และ " Theodor Heuss ศาสตราจารย์" ที่ The ใหม่โรงเรียน นิวยอร์กHabermas ได้รับรางวัลเจ้าของอัสตูเรียสรางวัลในสังคมศาสตร์ 2003 นอกจากนี้ Habermas ได้ 2004 เกียวโต Laureate [8] ในศิลปะและปรัชญาส่วน เขาเดินทาง ไป San Diego และ วันที่ 5 2005 มีนาคม เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการมหาวิทยาลัยของ San Diego ของเกียวโต ให้เสียงที่ได้รับสาธารณะบทบาทของศาสนาในบริบททางโลก เกี่ยวกับวิวัฒนาการของการแยกของคริสตจักรและสถานะจากความเป็นกลางกับฆราวาสนิยมรุนแรง เขาได้รับรับรางวัลอนุสรณ์นานาชาติของฮอลเบิร์ก 2005 (ประมาณ €520,000) ในปี 2007, Habermas ได้แสดงรายการเป็นเจ็ดส่วนใหญ่อ้างถึงผู้เขียนในมนุษยศาสตร์ (รวมถึงสังคมศาสตร์) โดยคำแนะ นำในการศึกษาครั้ง ก่อนเว เบอร์ Max และ หลัง Erving Goffman[9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เขารับตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบัน Max Planck เพื่อการศึกษาของโลกวิทยาศาสตร์เทคนิคใน Starnberg (ใกล้มิวนิค) ในปี 1971 และทำงานอยู่ที่นั่นจนกระทั่งปี 1983 สองปีหลังจากที่ตีพิมพ์ผลงานชิ้นโบแดงของเขาทฤษฎีของการดำเนินการการสื่อสาร . เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ต่างประเทศของอเมริกันสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์ในปี 1984 [7] ฮาเบอร์แล้วก็กลับไปที่เก้าอี้ของเขาที่แฟรงค์เฟิร์ตและผู้อำนวยการของสถาบันเพื่อการวิจัยทางด้านสังคม ตั้งแต่ถอนตัวจากแฟรงค์เฟิร์ตในปี 1993 ฮาเบอร์ได้อย่างต่อเนื่องที่จะเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ในปี 1986 เขาได้รับ Gottfried Wilhelm Leibniz รางวัลของสหพันธ์สาธารณรัฐซึ่งเป็นเกียรติสูงสุดที่ได้รับรางวัลในการวิจัยเยอรมัน นอกจากนี้เขายังถือตำแหน่งหลังสมัยใหม่ไม่เคยของ "ปลัดเยี่ยม" ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย Northwestern University ใน Evanston อิลลินอยส์และ "เทโอดอร์ Heuss ศาสตราจารย์" ที่โรงเรียนนิวยอร์ก. ฮาเบอร์ได้รับรางวัลเจ้าชายแห่งอัสตูเรียได้รับรางวัลในสังคมศาสตร์ของปี 2003 ฮาเบอร์ ก็ยังได้รับรางวัล 2004 เกียวโต [8] ในศิลปะและมาตราปรัชญา เขาเดินทางไปซานดิเอโกและในวันที่ 5 มีนาคม 2005 ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยซานดิเอโกของเกียวโตสัมมนาให้กล่าวสุนทรพจน์เรื่องบทบาทของประชาชนที่มีศาสนาในบริบทโลกเกี่ยวกับวิวัฒนาการของการแยกรัฐและศาสนจักรเป็นกลางจากการเดินที่รุนแรง เขาได้รับ 2,005 Holberg รางวัลที่ระลึก (ประมาณ 520,000 €) ในปี 2007 ฮาเบอร์ถูกระบุว่าเป็นผู้เขียนอ้างถึงมากที่สุดในวันที่เจ็ดมนุษยศาสตร์ (รวมสังคมศาสตร์) โดย Times Higher Education คู่มือหน้าของมักซ์เวเบอร์และด้านหลัง Erving Goffman. [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขาได้รับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของสถาบันมักซ์พลังค์เพื่อการศึกษาของโลกเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ในซตาร์นแบร์ก ( ใกล้มิวนิก ) ในปี 1971 และทำงานที่นั่นจนถึง 1983 , สองปีหลังจากการประกาศของศิลปะชิ้นเอกของเขา ทฤษฎีแห่งการสื่อสารการกระทำ . เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ต่างประเทศชาวอเมริกันของสถาบันศิลปะ และวิทยาศาสตร์ ในปี 1984 [ 7 ]

ฮาเบอร์ แล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้ที่แฟรงค์เฟิร์ต และผู้อำนวยการของสถาบันเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ ตั้งแต่เกษียณจากแฟรงค์เฟิร์ตในปี 1993 ฮาเบอร์มาสยังเผยแพร่อย่างกว้างขวาง 2529 เขาได้รับรางวัลของกอทท์ฟรีด วิลเฮล์มไลบ์นิซ forschungsgemeinschaft ดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นเกียรติสูงสุดที่ได้รับรางวัลวิจัยเยอรมันเขายังถือยิ่งขึ้นหลังสมัยใหม่ตำแหน่งถาวร " เยี่ยม " อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยชิคาโกในอีวานสตัน มลรัฐอิลลินอยส์ และ " อาจารย์ " ธีโอดอร์ ฮอยที่โรงเรียนใหม่นิวยอร์ก

ฮาเบอร์ ได้รับรางวัลเจ้าชายแห่งอัสตูเรียสรางวัลในสาขาสังคมศาสตร์ 2003 ฮาเบอร์มาสยัง 2547 เกียวโตผู้สมควรได้รับเกียรติยศ [ 8 ] ในส่วนของศิลปะและปรัชญาเขาเดินทางไปซานดิเอโกและวันที่ 5 มีนาคม 2548 , เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย ซาน ดิเอโก้ เกียวโต การประชุมสัมมนา บรรยาย เรื่อง บทบาทของศาสนาในบริบทของรัฐฆราวาสเกี่ยวกับวิวัฒนาการของการแยกของคริสตจักรและรัฐจากความเป็นกลางรุนแรงฆราวาส . เขาได้รับรางวัลนานาชาติ 2005 Holberg อนุสรณ์ ( ประมาณ 520 , 000 ลูกค้า ) ใน 2007ฮาเบอร์มาสได้จดทะเบียนเป็นเจ็ดส่วนใหญ่อ้าง ( รวมทั้งผู้เขียนในมนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์ ) โดย Times Higher Education Guide , ข้างหน้าของแม็กซ์เวเบอร์ และหลังวิ่ง กัฟแมน [ 9 ]