Reality Is RelativeA key difference

Reality Is Relative
A key difference between the two approaches to science
concerns the assumed nature of reality and how
scientists relate to reality through their theories and
observational evidence (see Hooker 1975). Researchers
with a P/E orientation usually take a realist point
of view. Although there are various types of realism,
most P/E researchers appear to believe that an external
world exists (usually one world in one way), and
that it is possible to come closer to knowing the true
nature of that world through empirical observations
obtained through rigorous methods and analyses. Theories,
then, are treated as general statements about the
real world. The goal is to develop theories that come
increasingly closer to being true statements about reality.
Alternatively, researchers with an R/C orientation
conceive of many possible realities, each of which
is relative to a specific context or frame of reference.
According to this view, scientists construct "realities"
by developing a degree of social agreement about the
meanings of their theories and empirical observations
(e.g., Collins 1975, Collins and Cox 1976, Elkana
1978, Feyerabend 1975, Gilbert 1976, Munevar 1981).
Science Is a Social Process
Science is an activity performed by interacting human
beings, and thus obviously is a social process. We
believe these social interaction processes are very important
for understanding science. In fact, the exchanges
that take place during these social processes
constitute a major reason for our contention that science
is marketing.
Until recently, few philosophers of science have
considered the social interaction and social influence
processes involved in scientific progress. P/E philosophers
tend to ignore such social factors or even claim
that such processes are unimportant (or "irrational")
and, thus, not worthy of study. Instead they continue
to be concerned with rather formal logical models for
the justification or testing of theories. That is, P/E
philosophers have focused on how theories are presumed
to be verified, corroborated, or falsified, and
presumed to be converted to scientific knowledge.
In contrast, philosophers with an R/C orientation
have been willing to consider the (less formal) social
processes in science. For example, Kuhn (1970) noted
the importance of social influence in evaluating alternative
theories: "The superiority of one theory to another
is something that cannot be proved in debate.
Instead, I have insisted, each party must try, by persuasion,
to convert the other" (p. 198, emphasis added).
Mitroff (1974), in his analysis of the Apollo moon
scientists, found that certain scientists are so highly
committed to their theories that they resist all persuasive
attempts to change their beliefs and continually

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความจริงก็คือญาติความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสองวิธีการวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับธรรมชาติของความจริงปลอม และวิธีนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงทางทฤษฎีของพวกเขา และหลักฐานที่สังเกตการณ์ (ดู Hooker 1975) นักวิจัยมีแนว P/E มักจะใช้จุด realistของมุมมอง แม้ว่าจะมีความสมจริง ชนิดต่าง ๆนักวิจัย P/E ส่วนใหญ่จะ เชื่อว่าภายนอกโลกอยู่ (โดยปกติหนึ่งโลกในที่สุด), และที่เป็นไปได้ที่จะต้องรู้ความจริงธรรมชาติของโลกที่ผ่านการสังเกตผลรับผ่านวิธีการอย่างเข้มงวดและวิเคราะห์ ทฤษฎีจากนั้น จะถือว่าเป็นคำสั่งทั่วไปเกี่ยวกับการโลกจริง เป้าหมายคือการ พัฒนาทฤษฎีที่มาใกล้ชิดมากขึ้นเป็นการ รายงานความจริงเกี่ยวกับความเป็นจริงหรือ วิจัยกับการวางแนว R/Cตั้งครรภ์ของความเป็นจริงไปมาก แต่ละได้สัมพันธ์กับบริบทหรือกรอบของการอ้างอิงตามมุมมองนี้ นักวิทยาศาสตร์สร้าง "ความเป็นจริง"โดยการพัฒนาตัวของข้อตกลงทางสังคมเกี่ยวกับการความหมายของทฤษฎีและสังเกตผลของพวกเขา(เช่น คอลลินส์ 1975 คอลลินส์ และค็อกซ์ 1976, Elkana1978, Feyerabend 1975, 1976, Munevar 1981 Gilbert)วิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการทางสังคมวิทยาศาสตร์เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการ โดยบุคคลที่โต้ตอบสิ่งมีชีวิต และจึง เป็นกระบวนการทางสังคมอย่างชัดเจน เราเชื่อว่า กระบวนการสังคมเหล่านี้มีความสำคัญมากสำหรับความเข้าใจวิทยาศาสตร์ ในความเป็นจริง การแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางสังคมเหล่านี้เป็นเหตุผลสำคัญในการช่วงชิงงานบนของเราที่วิทยาศาสตร์เป็นการตลาดจนเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีสองสามปรัชญาวิทยาศาสตร์พิจารณาสังคมและอิทธิพลทางสังคมกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ปรัชญา P/Eมักจะ ละเว้นเช่นปัจจัยทางสังคม หรือแม้แต่เรียกร้องกระบวนการดังกล่าวสำคัญ (หรือ "ไม่มีเหตุผล")และ ดังนั้น จึงไม่สมควรที่จะศึกษา แต่ พวกเขายังคงจะเกี่ยวข้องกับรูปแบบตรรกะอย่างเป็นทางการแต่สำหรับเหตุผลหรือทดสอบทฤษฎี นั่นคือ P/Eนักปรัชญาได้เน้นวิธี presumed ทฤษฎีตรวจสอบ corroborated หรือ ปลอม และpresumed ถูกแปลงเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในทางตรงข้าม นักปรัชญากับการวางแนว R/Cมียินดีพิจารณาสังคม (อย่างน้อย)กระบวนการวิทยาศาสตร์ ตัวอย่าง Kuhn (1970) กล่าวความสำคัญของอิทธิพลทางสังคมในการประเมินทางเลือกทฤษฎี: "superiority ของทฤษฎีหนึ่งไปยังอีกเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ในอภิปรายแทน ฉันยืนยันได้ แต่ละฝ่ายต้องพยายาม โดยจูงใจการแปลงอื่นๆ" (p. 198 เน้นเพิ่ม)Mitroff (1974), ในเขาวิเคราะห์ดวงจันทร์อพอลโลพบนักวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์บางสูงดังนั้นมุ่งมั่นในทฤษฎีของพวกเขาที่พวกเขาต่อต้านทั้งหมด persuasiveพยายามเปลี่ยนความเชื่อของพวกเขา และอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเป็นจริงเป็นญาติความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสองวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติสันนิษฐานของความเป็นจริงและวิธีการที่นักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริงผ่านทฤษฎีของพวกเขาและหลักฐานเชิง(ดูเชื่องช้า 1975) นักวิจัยที่มี P / E ปฐมนิเทศมักจะใช้เป็นจุดความจริงในมุมมองของ แม้ว่าจะมีหลายประเภทของความสมจริงมากที่สุดนักวิจัย P / E ปรากฏที่จะเชื่อว่าภายนอกโลกที่มีอยู่(โดยปกติจะเป็นหนึ่งในโลกในทางเดียว) และว่ามันเป็นไปได้ที่จะมาใกล้ชิดกับการรู้จริงธรรมชาติของโลกที่ผ่านการสังเกตเชิงประจักษ์ที่ได้รับด้วยวิธีการอย่างเข้มงวดและการวิเคราะห์ ทฤษฎีแล้วจะถือว่าเป็นงบทั่วไปเกี่ยวกับโลกแห่งความจริง มีเป้าหมายที่จะพัฒนาทฤษฎีที่มามากขึ้นอย่างใกล้ชิดที่จะเป็นงบจริงเกี่ยวกับความเป็นจริง. อีกทางเลือกหนึ่งที่นักวิจัยที่มี R / ปฐมนิเทศ C ตั้งครรภ์ของความเป็นจริงที่เป็นไปได้จำนวนมากในแต่ละที่จะสัมพันธ์กับบริบทที่เฉพาะเจาะจงหรือกรอบของการอ้างอิง. ตามมุมมองนี้ นักวิทยาศาสตร์สร้าง "ความเป็นจริง" โดยการพัฒนาระดับของข้อตกลงทางสังคมเกี่ยวกับความหมายของทฤษฎีของพวกเขาและการสังเกตเชิงประจักษ์(เช่นคอลลินปี 1975 คอลลินและคอค 1976 Elkana 1978 Feyerabend 1975, กิลเบิร์ 1976 Munevar 1981). วิทยาศาสตร์เป็นสังคม กระบวนการวิทยาศาสตร์เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยการมีปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์สิ่งมีชีวิตและทำให้เห็นได้ชัดว่าเป็นกระบวนการทางสังคม เราเชื่อว่ากระบวนการเหล่านี้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมีความสำคัญมากสำหรับวิทยาศาสตร์เข้าใจ ในความเป็นจริงการแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางสังคมเหล่านี้เป็นเหตุผลหลักในการต่อสู้ของเราว่าวิทยาศาสตร์คือการตลาด. จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ ไม่กี่ปรัชญาของวิทยาศาสตร์ได้ถือว่าเป็นปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและมีอิทธิพลต่อสังคมกระบวนการมีส่วนร่วมในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ P / E นักปรัชญามักจะไม่สนใจปัจจัยทางสังคมหรือแม้กระทั่งเรียกร้องว่ากระบวนการดังกล่าวมีความสำคัญ(หรือ "ไม่มีเหตุผล") และจึงไม่คุ้มค่าของการศึกษา แต่พวกเขายังคงที่จะกังวลกับตรรกะที่ค่อนข้างรุ่นอย่างเป็นทางการสำหรับเหตุผลหรือการทดสอบทฤษฎี นั่นคือ P / E ปรัชญาได้มุ่งเน้นเกี่ยวกับวิธีการทฤษฎีสันนิษฐานว่าจะได้รับการตรวจสอบยืนยันหรือปลอมและเชื่อว่าจะถูกแปลงเป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์. ในทางตรงกันข้ามนักปรัชญาที่มี R ปฐมนิเทศ / C ได้รับการยินดีที่จะพิจารณา (น้อย อย่างเป็นทางการ) สังคมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่น Kuhn (1970) ตั้งข้อสังเกตถึงความสำคัญของอิทธิพลทางสังคมในการประเมินทางเลือกทฤษฎี"ที่เหนือกว่าของทฤษฎีหนึ่งไปยังอีกเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ในการอภิปราย. แต่ฉันได้ยืนยันแต่ละฝ่ายต้องพยายามโดยการชักชวนไปแปลงอื่น ๆ "(พี. 198 เน้นเพิ่ม). Mitroff (1974) ในการวิเคราะห์ของเขาของอพอลโลดวงจันทร์นักวิทยาศาสตร์พบว่านักวิทยาศาสตร์บางอย่างมากมุ่งมั่นที่จะทฤษฎีของพวกเขาว่าพวกเขาต่อต้านทุกโน้มน้าวใจความพยายามที่จะเปลี่ยนความเชื่อของพวกเขาอย่างต่อเนื่องและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความจริงสัมพัทธ์
คีย์ความแตกต่างระหว่างสองวิธีการวิทยาศาสตร์
ความกังวลว่าธรรมชาติของความเป็นจริงและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริง
นักวิทยาศาสตร์ทางทฤษฎีและ
หลักฐานจากการสังเกต ( เห็นโสเภณี 1975 ) นักวิจัย
ด้วย P / E ปฐมนิเทศมักจะใช้เวลาน้อย
จุดของมุมมอง แม้ว่าจะมีหลายประเภทของสัจนิยม
P / E ปรากฏมากที่สุดนักวิจัยเชื่อว่าภายนอก
โลกมีอยู่ ( โดยปกติหนึ่งโลก หนึ่งในวิธีการ ) ,
มันเป็นไปได้ที่จะมาใกล้ชิดกับการรู้จักธรรมชาติที่แท้จริงของโลกผ่านการสังเกตเชิงประจักษ์ว่า

ที่ได้ผ่านวิธีการที่เคร่งครัด และวิเคราะห์ข้อมูล ทฤษฎี
แล้วจะถือว่าเป็นงบทั่วไปเกี่ยวกับ
โลกที่แท้จริง เป้าหมายคือเพื่อพัฒนาทฤษฎีที่จะมา
มากขึ้นใกล้ชิดกับงบเป็นจริงเกี่ยวกับความเป็นจริง .
อีกวิธีหนึ่งคือนักวิจัยกับ R / C ปฐมนิเทศ
บังเกิดความเป็นจริงมากที่สุดซึ่งแต่ละ
จะสัมพันธ์กับบริบทที่เฉพาะเจาะจงหรือกรอบอ้างอิง .
ตามทัศนะนี้ นักวิทยาศาสตร์สร้าง " ความเป็นจริง "
โดยการพัฒนาระดับของสังคมเห็นด้วยเรื่องความหมายของทฤษฎีและเชิงประจักษ์

สังเกต ( เช่น คอลลินส์ 1975 คอลลินและ Cox , 1976 , elkana
1978 Feyerabend 1975 กิลเบิร์ต 1976munevar 1981 )

วิทยาศาสตร์คือกระบวนการทางสังคม วิทยาศาสตร์เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยการโต้ตอบของมนุษย์
มนุษย์ จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นกระบวนการทางสังคม เรา
เชื่อว่ากระบวนการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเหล่านี้สำคัญมาก
เข้าใจวิทยาศาสตร์ ในความเป็นจริง การแลกเปลี่ยน
ที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางสังคมเหล่านี้เป็นเหตุผลหลักสำหรับการต่อสู้

คือการตลาดของเราที่วิทยาศาสตร์ .
จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้สามนักปรัชญาวิทยาศาสตร์ได้

ถือว่าเป็นปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและอิทธิพลทางสังคม กระบวนการที่เกี่ยวข้องในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ P / E นักปรัชญา
มีแนวโน้มที่จะละเลยปัจจัยทางสังคมต่างๆ หรือแม้แต่การเรียกร้อง
ว่ากระบวนการดังกล่าวเป็นหางแถว ( หรือ " ไม่ลงตัว " )
และ จึง ไม่น่าเรียน แต่พวกเขายังคงเป็นกังวลกับค่อนข้างเป็นทางการ

แบบตรรกะเหตุผลหรือทดสอบทฤษฎี นั่นคือ P / E
นักปรัชญาได้มุ่งเน้นในเรื่องทฤษฎีจะสันนิษฐาน
จะตรวจสอบ ยืนยัน หรือ ปลอม และสันนิษฐานว่าเป็นแปลง

ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ในทางตรงกันข้าม นักปรัชญากับ R / C ปฐมนิเทศ
ได้รับการเต็มใจที่จะพิจารณา ( สุภาพน้อยกว่า ) กระบวนการทางสังคม
ในวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างเช่น คูน ( 1970 ) สังเกต
ความสำคัญของอิทธิพลทางสังคมในการประเมินทฤษฎีทางเลือก
" เหนือกว่าของทฤษฎีหนึ่งไปยังอีก
คือสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ในการอภิปราย .
แทน ผมก็ยืนยันว่า แต่ละฝ่ายต้องพยายาม โดยการชักชวน ,
แปลงอื่น " ( หน้า 198 , เน้นที่เพิ่มขึ้น ) .
mitroff ( 1974 ) ในการวิเคราะห์ของเขาของดวงจันทร์อพอลโล
นักวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์พบว่าบางมาก
ยอมรับทฤษฎีของพวกเขาที่พวกเขาต่อต้านทั้งหมดประทับ
พยายามเปลี่ยนความเชื่อของพวกเขา และอย่างต่อเนื่อง