Other parents are not so supportive

Other parents are not so supportive of their  
child prodigy. On the contrary, some parents  
even see their offspring's gifts as a way to draw  
attention to themselves and their own interests.  
Boris Sidis, for example, was a well-known  
scientist with strong opinions about making the  
most of one's intelligence and about raising  
children. When his son Billy was born, Boris saw the child as an opportunity to test his theories.  From Billy's birth, it was clear that he was
an exceptional child. His parents utilized every
opportunity to teach him language, math,  
science, and logic. Boris was very poor, but he  
used his limited resources to buy or acquire  
toys and books for the young genius. Billy Sidis  
spoke five languages at age five. He passed  
entry exams for MIT and Harvard Meclical  
School at age nine and was admitted to Harvard  
at age 11. He was considered a genius in  
mathematics, physics, and languages.  
Boris claimed that his methods of childrearing vere responsible for his son,s abilies
and took his story to the press. The press, in  
turn, focused more on the young Harvard student's
odd personal life than on his accomplishments.  
It was soon clear that Billy was unprepared to relate  
to other people, function successfully in the real world,or manage the challenges of being different.
After college, he lived an isolated life. Despite his 
intelligence, he died unemployed and in poverty. 
When people are unusual, they attract  
attention. In the case of child prodigies, the  attention they receive is both positive and negative.  
It is positive because most people admire  
intelligence. It is negative because prodigies are  
very different from other people. They are a  
challenge for teachers, who expect seven-year olds to prefer Batman to Beethoven. They are a  challenge to parents, who want to help them  
but often lack the resources or find their needs  
and desires difFicult to understand and meet.  
They present a challenge to scientists, who want  
to study them without further isolating them From  
normal society. And they challenge the workl  
because they reveal the tendency that people have reject those who are different from the norm.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่มีผู้ปกครองอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการ เด็กโพรดิจี การ์ตูน บางคนผู้ปกครอง ได้เห็นของขวัญของลูกหลานของพวกเขาเป็นวิธีการวาด ความสนใจในตัวเองและความสนใจของตนเอง บอริส Sidis เช่น เป็นรู้จัก นักวิทยาศาสตร์กับแรงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำการ ที่สุดของปัญญา และเพิ่ม เด็ก เมื่อเกิดบุตรบิลลี่ บอริสเห็นลูกเป็นโอกาสที่จะทดสอบทฤษฎีของเขา จากการกำเนิดของบิลลี่ เป็นชัดเจนว่า เป็นเด็กพิเศษ พ่อแม่ใช้ทุก โอกาสที่จะสอนเขาภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และลอจิก บอริสคนยาก แต่เขา ใช้ทรัพยากรที่จำกัดของเขาจะซื้อ หรือซื้อ ของเล่นและหนังสือสำหรับเด็กอัจฉริยะ บิลลี่ Sidis พูด 5 ภาษาที่อายุ 5 เขาผ่าน รายการสอบ MIT และฮาร์วาร์ด Meclical โรงเรียนที่อายุเก้า และได้รับเข้าสู่ฮาร์วาร์ด ที่อายุ 11 เขาถูกพิจารณาว่าเป็นอัจฉริยะใน คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และภาษา บอริสว่า ที่ของเขาวิธีการ childrearing เวียร์ชอบบุตร s abilies และเอาเรื่องของเขาไปกด กด ใน เปิด เพิ่มเติมเน้นของนักศึกษาฮาร์วาร์ดหนุ่มแปลกชีวิตส่วนตัวกว่าในของเขาสำเร็จ ก็เร็ว ๆ นี้ชัดเจนว่า บิลลี่คือเกิดการเชื่อมโยง คนอื่น ได้ประสบความสำเร็จในโลกจริง การจัดการความท้าทายที่แตกต่างกันหลังวิทยาลัย เขาอาศัยอยู่มีชีวิตแยก แม้ ปัญญา เขาตายคนตกงาน และ ความยากจน เมื่อคนที่ผิดปกติ พวกเขาดึงดูด ความสนใจ ในกรณีของเด็ก prodigies พวกเขาได้รับความสนใจมีทั้งบวก และลบ เป็นบวกเนื่องจากคนส่วนใหญ่ชื่นชม ปัญญา เป็นค่าลบเนื่องจาก prodigies มากแตกต่างจากคนอื่น จะเป็น ความท้าทายสำหรับครู คาด 7 - ปีเธอจะชอบแบทแมนบีโธเฟน พวกเขาเป็นความท้าทายกับผู้ปกครอง ผู้ที่ต้องการช่วยให้พวกเขา แต่มักจะขาดทรัพยากร หรือค้นหาความต้องการของพวกเขา และยากที่จะเข้าใจ และตอบสนองความต้องการ พวกเขามีความท้าทายนักวิทยาศาสตร์ ผู้ที่ต้องการ การศึกษานั้นโดยไม่ต้องเพิ่มเติม แยกออกจาก สังคมปกติ และพวกเขาท้าทาย workl เนื่องจากพวกเขาเปิดเผยแนวโน้ม คนนั้นได้ปฏิเสธคนแตกต่างจากปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้ปกครองอื่น ๆ  
จะไม่ให้การสนับสนุนของเด็กอัจฉริยะ  
 
ในทางตรงกันข้ามผู้ปกครองบางคนได้เห็นของขวัญที่ลูกหลานของพวกเขาเป็นวิธีการวาดความสนใจไปที่ตัวเองและผลประโยชน์ของตนเอง.  
บอริส Sidis  
 
 
เช่นเป็นที่รู้จักกันดีของนักวิทยาศาสตร์ที่มีความคิดเห็นที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับการทำมากที่สุดของหน่วยสืบราชการลับของคนและเกี่ยวกับการเพิ่มเด็ก. เมื่อลูกชายของเขาบิลลี่เกิดบอริเด็กเห็นเป็นโอกาสที่จะทดสอบทฤษฎีของเขา
ตั้งแต่แรกเกิดของบิลลี่มันเป็นที่ชัดเจนว่าเขาเป็นเด็กพิเศษ
 
พ่อแม่ของเขาใช้ทุกโอกาสที่จะสอนเขาภาษาคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์และตรรกะ บอริสเป็นอย่างดี  
แต่เขาใช้ทรัพยากรที่จำกัด  
ของเขาที่จะซื้อหรือได้รับของเล่นและหนังสือสำหรับเด็กหนุ่มอัจฉริยะ บิลลี่ Sidis  
พูดห้าภาษาที่อายุห้าขวบ
 เขาผ่านการสอบเข้า   MIT และ Harvard Meclical  
โรงเรียนเมื่ออายุเก้าและได้รับการยอมรับว่าฮาร์วาร์เมื่ออายุ   11 เขาได้รับการพิจารณาเป็นอัจฉริยะในคณิตศาสตร์ฟิสิกส์และภาษา.   บอริสอ้างว่าวิธีการของเขา childrearing Vere ความรับผิดชอบสำหรับลูกชายของเขา s abilies และเอาเรื่องราวของเขากับสื่อมวลชน  ข่าวในทางกลับกันการที่มุ่งเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักศึกษาฮาร์วาร์หนุ่มชีวิตส่วนตัวที่แปลกกว่าบนความสำเร็จของเขา.   มันเป็นเร็ว ๆ  นี้เห็นได้ชัดว่าบิลลี่ก็เตรียมตัวที่จะสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ฟังก์ชั่นที่ประสบความสำเร็จในโลกจริงหรือจัดการกับความท้าทายของการเป็นที่แตกต่างกันหลังจากนั้นวิทยาลัยเขาอาศัยอยู่ชีวิตโดดเดี่ยว  แม้เขาฉลาดเขาเสียชีวิตตกงานและอยู่ในความยากจน.   เมื่อคนมีความผิดปกติที่พวกเขาดึงดูดความสนใจ ในกรณีที่เด็กอัจฉริยะให้ความสนใจพวกเขาได้รับมีทั้งบวกและลบ.    มันเป็นบวกเพราะคนส่วนใหญ่ชื่นชมความฉลาด  มันเป็นลบเพราะอัจฉริยะที่มีความแตกต่างจากคนอื่น  พวกเขาเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับครูที่คาดว่าเด็กอายุเจ็ดปีจะชอบแบทแมนเบโธเฟน พวกเขามีความท้าทายให้กับผู้ปกครองที่ต้องการช่วยให้พวกเขา    แต่มักจะขาดทรัพยากรหรือหาต้องการของพวกเขาและความปรารถนายากที่จะเข้าใจและตอบสนอง.      พวกเขานำเสนอความท้าทายให้กับนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการจะศึกษาต่อไปได้โดยไม่ต้องแยกพวกเขาจากสังคมปกติ และพวกเขาท้าทาย workl   เพราะพวกเขาแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ผู้คนมีปฏิเสธผู้ที่มีความแตกต่างจากปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้ปกครองอื่น ๆ ไม่ค่อยสนับสนุนของพวกเขารึเปล่า
เด็กอัจฉริยะ ในทางตรงกันข้าม บางคนพ่อแม่รึเปล่า
เห็นของขวัญของลูกหลานเป็นวิธีวาดรึเปล่า
สนใจตัวเองและผลประโยชน์ของตน รึเปล่า
บอริส sidis ยกตัวอย่างเช่นเป็นนักวิทยาศาสตร์รึเปล่า
รู้จักกันดีกับความคิดเห็นที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับการทํารึเปล่า
ที่สุดแห่งหนึ่งของสติปัญญาและเกี่ยวกับการเลี้ยงไหม
เด็ก เมื่อลูกชายของเขาบิลลี่เกิดบอริส เห็นเด็กเป็นโอกาสที่จะทดสอบทฤษฎีของเขา จากบิลลี่ อะไรเกิดมันก็ชัดเจนว่าเขา
เป็นเด็กพิเศษ พ่อแม่ใช้ทุกโอกาสที่จะสอนเขา

ทำไมภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และตรรกะ บอริสจนมาก , แต่เขารึเปล่า
ใช้ทรัพยากรที่จำกัดของเขาที่จะซื้อหรือได้รับของเล่นรึเปล่า
และหนังสือสำหรับอัจฉริยะหนุ่ม บิลลี่ sidis รึเปล่า
พูดได้ห้าภาษาที่อายุห้า เขาผ่านรึเปล่า
สำหรับสอบเข้า MIT และ Harvard meclical รึเปล่า
โรงเรียนเมื่ออายุเก้า และก็เข้าฮาร์วาร์ดรึเปล่า
อายุ 11 เขาถือว่าเป็นอัจฉริยะรึเปล่า
คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และภาษา รึเปล่า
บอริสอ้างว่าวิธีการรึเปล่า r เวียร์รับผิดชอบลูกชายของเขา , S abilies
และนำเรื่องราวของเขาไปกด กด , ในรึเปล่า
เปิด เน้นหนุ่มนักศึกษา
ฮาร์วาร์ดแปลกส่วนบุคคลชีวิตกว่าในความสำเร็จของเขา รึเปล่า
ในไม่ช้ามันก็ชัดเจนว่าบิลลี่กำลังเตรียมตัวเกี่ยวข้องรึเปล่า
คนอื่นการทำงานประสบความสำเร็จในโลกจริง หรือจัดการกับความท้าทายที่แตกต่างกัน .
หลังจากนั้นวิทยาลัย เขาอาศัยอยู่โดดเดี่ยว ชีวิต แม้ว่าเขารึเปล่า
ข่าวกรอง เขาตาย ว่างงาน และความยากจน รึเปล่า
เมื่อคนผิดปกติรึเปล่า
พวกเขาดึงดูดความสนใจ ในกรณีของอัจฉริยะเด็กมีอะไรสนใจพวกเขาได้รับทั้งด้านบวกและลบ รึเปล่า
มันเป็นบวกเพราะคนส่วนใหญ่ชื่นชมรึเปล่า
ข่าวกรอง มันลบเนื่องจากเป็นอัจฉริยะรึเปล่า
แตกต่างกันมากจากคนอื่น ๆ พวกเขาเป็นรึเปล่า
ท้าทายสำหรับครู ซึ่งคาดว่าปี olds ชอบแบทแมนกับบีโธเฟ่น พวกเขาจะท้าทายอะไรกับพ่อแม่ที่อยากจะช่วยพวกเขาไหม
แต่มักขาดทรัพยากรหรือค้นหาตามความต้องการรึเปล่า
และความปรารถนาที่ยากที่จะเข้าใจและตอบสนอง รึเปล่า
พวกเขานำเสนอความท้าทายนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการรึเปล่า
ศึกษาพวกเขาต่อไปโดยไม่แยกพวกเขาจากสังคมปกติรึเปล่า

และพวกเขาท้าทาย workl รึเปล่า
เพราะพวกเขาเปิดเผยแนวโน้มที่ผู้คนได้ปฏิเสธบรรดาผู้ที่แตกต่างจากปกติ