Conventional construction materials

Conventional construction materials used in foundations can encounter serious durability problems
in contaminated subsurface or marine environments. Fiber-reinforced polymer (FRP) composites are potentially
suitable for these harsh environments due to their chemical and corrosion resistant properties. Quantification of
the interface behavior between FRP composites and soils is a necessary precursor to the adoption of these new
materials in geotechnical engineering practice. This paper describes the results of an experimental study that
was conducted to investigate the behavior of sand-FRP interfaces. Tests showed that the interface shear behavior
between FRP composites and granular materials depended on the relative roughness (surface roughness/particle
mean size), the normal stress level, the initial density of the soil mass, and the angularity of the particles. The
soil specimen preparation method, the rate of shearing, and the thickness of the soil specimen had little influence
on the measured interface friction coefficients. The characteristics of FRP-sand and steel-sand interfaces were
compared.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัสดุก่อสร้างทั่วไปที่ใช้ในฐานรากสามารถพบปัญหาร้ายแรงความทนทานในปนเปื้อนสภาพแวดล้อมใต้ผิวดิน หรือทางทะเล คอมโพสิตโพลีเมอร์เสริมไฟเบอร์ (FRP) อาจเป็นเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมเหล่านี้เนื่องจากคุณสมบัติของสารเคมี และ ทนต่อการกัดกร่อน นับจำนวนลักษณะการทำงานของอินเทอร์เฟซระหว่างคอมโพสิต FRP และดินเป็นปูชนียบุคคลจำเป็นที่ยอมรับของเหล่านี้ใหม่วัสดุในธรณีวิศวกรรมปฏิบัติ เอกสารนี้อธิบายผลลัพธ์ของการทดลองศึกษาได้ดำเนินการตรวจสอบการทำงานของอินเทอร์เฟซทรายไฟเบอร์กลาส การทดสอบแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมเฉือนอินเตอร์เฟซระหว่าง FRP คอมโพสิตและวัสดุเม็ดขึ้นอยู่กับความขรุขระสัมพัทธ์ (พื้นผิวขรุขระ/อนุภาคหมายถึง ขนาด), ระดับความเครียดปกติ ความหนาแน่นเริ่มต้นของมวลดิน และศูนย์ของอนุภาค การวิธีเตรียมตัวอย่างดิน อัตราการตัด และความหนาของตัวอย่างดินมีอิทธิพลน้อยบนติดต่อวัดสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน ลักษณะของอินเทอร์เฟซ FRP-ทราย และ ทรายเหล็กได้เปรียบเทียบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัสดุการก่อสร้างแบบเดิมที่ใช้ในฐานรากสามารถพบปัญหาความทนทานร้ายแรง
ในดินที่ปนเปื้อนหรือสภาพแวดล้อมทางทะเล ลิเมอร์เสริมเส้นใย (ไฟเบอร์กลาส) คอมโพสิตอาจ
เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่รุนแรงเหล่านี้เนื่องจากสารเคมีและการกัดกร่อนทนคุณสมบัติของพวกเขา ปริมาณของ
พฤติกรรมที่เชื่อมต่อระหว่างคอมโพสิตไฟเบอร์กลาสและดินเป็นสารตั้งต้นที่จำเป็นในการยอมรับของใหม่เหล่านี้
วัสดุในการปฏิบัติงานวิศวกรรมปฐพี กระดาษนี้จะอธิบายผลของการศึกษาทดลองที่
ได้ดำเนินการในการตรวจสอบพฤติกรรมของอินเตอร์เฟซทรายอุปกรณ์ FRP การทดสอบแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมของอินเตอร์เฟซเฉือน
ระหว่างคอมโพสิตไฟเบอร์กลาสและวัสดุเม็ดขึ้นอยู่กับความหยาบกร้านของญาติ (พื้นผิวหยาบกร้าน / อนุภาค
หมายถึงขนาด) ระดับปกติความเครียดความหนาแน่นเริ่มต้นของมวลดินและมุมของอนุภาค
วิธีตัวอย่างดินเตรียมอัตราการตัดและความหนาของชิ้นงานดินมีอิทธิพลน้อย
ในวัดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอินเตอร์เฟซ ลักษณะของการเชื่อมต่อ FRP-ทรายและเหล็กทรายถูก
เมื่อเทียบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปกติการก่อสร้างวัสดุที่ใช้ในพื้นฐานสามารถพบปัญหาร้ายแรง ความทนทานในดินหรือสภาพแวดล้อมทางทะเลที่ปนเปื้อน เสริมเส้นใยพอลิเมอร์คอมโพสิต ( FRP ) เร้นเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย เหล่านี้ เนื่องจาก ทางเคมีและคุณสมบัติทนการกัดกร่อน ปริมาณของส่วน พฤติกรรมระหว่างคอมโพสิท FRP และดินเป็นสารตั้งต้นที่จำเป็นเพื่อการยอมรับเหล่านี้ใหม่วัสดุในการปฏิบัติงานวิศวกรรมปฐพี กระดาษนี้จะอธิบายผลการทดลองว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมของทราย FRP interfaces . การทดสอบพบว่าพฤติกรรมของอินเตอร์เฟซ แรงเฉือนระหว่างคอมโพสิท FRP และวัสดุเม็ดขึ้นอยู่กับความขรุขระสัมพัทธ์ ( พื้นผิวขรุขระ / อนุภาคหมายถึงขนาด ) , ระดับความเครียดปกติความหนาแน่นเริ่มต้นของมวลดินและเชิงมุมของอนุภาค ที่ตัวอย่างวิธีการการเตรียมดิน อัตราของการตัดและความหนาของตัวอย่างดินมีอำนาจน้อยในการวัดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน . ลักษณะของทรายและทรายเหล็ก FRP อินเทอร์เฟซเปรียบเทียบ