Changes in the granule surface stru

Changes in the granule surface structure of CF was induced by thedifferent complexation processes as revealed by scanning electronmicroscopic images in Fig. 1. All complexes revealed highly clusteredgranules and surfaces that had cracks, void sections and pre-gelatinisedzones. These features were less prominent CF, DCF and SCF. This indicates that the heat-moisture treatment facilitated binding interactionsof CF with the additives at the amorphous region (outer surface) whichled to the partial gelatinisation and subsequent agglomeration of thegranule structures of all heat-moisture treated CF-GG and SSL complexes(Chandanasree, Gul, & Riar, 2016; Eliasson, 1985). Furthermore,SCF-GG complex and SCF-SSL complex both had more deformed granules than those of DCF-GG complex and DCF-SSL complex, suggestingthat the steam-heat-moisture treatment condition was more effective inenhancing surface binding interactions CF between the additives.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างพื้นผิวแกรนูลของ CF เกิดจากกระบวนการทำให้เกิดซ้อนที่แตกต่างกันดังที่เปิดเผยโดยการสแกนภาพด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนในรูปที่ 1 คอมเพล็กซ์ทั้งหมดเผยให้เห็นแกรนูลและพื้นผิวที่กระจุกตัวกันสูงซึ่งมีรอยแตก ส่วนที่เป็นโมฆะ และโซน พรีเจลาติไนซ์ คุณลักษณะเหล่านี้เป็น CF, DCF และ SCF ที่โดดเด่นน้อยกว่า สิ่งนี้บ่งชี้ว่าการบำบัดด้วยความร้อนและความชื้นเอื้อต่อปฏิกิริยาการจับกันของ CF กับสารเติมแต่งที่บริเวณอสัณฐาน (พื้นผิวด้านนอก) ซึ่งนำไปสู่การเจลาติไนเซชันบางส่วนและการรวมตัวกันที่ตามมาของโครงสร้างแกรนูลของคอมเพล็กซ์ CF-GG และ SSL ที่ได้รับความร้อนด้วยความชื้นทั้งหมด( จันทนาศรี, กุล และเรียร์, 2016; เอเลียสสัน, 1985) นอกจากนี้สารเชิงซ้อน SCF-GG และสารเชิงซ้อน SCF-SSL ทั้งคู่มีเม็ดที่เปลี่ยนรูปมากกว่าเม็ดสารเชิงซ้อน DCF-GG และสารเชิงซ้อน DCF-SSL ซึ่งเสนอแนะว่าสภาวะการบำบัดด้วยไอน้ำ-ความร้อน-ความชื้นมีประสิทธิผลมากกว่าในการเพิ่มอันตรกิริยาการจับกับพื้นผิว CF ระหว่าง สารเติมแต่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นผิวของเม็ด CF เกิดจาก
การสแกนกระบวนการที่ซับซ้อนที่แตกต่างกันเปิดเผยโดยอิเล็กทรอนิกส์
ภาพกล้องจุลทรรศน์แสดงในรูปที่ 1 คอมเพล็กซ์ทั้งหมดแสดงการรวมตัวกันสูง
อนุภาคและพื้นผิวมีรอยแตกช่องว่างและก่อน
บริเวณ CF, DCF และ SCF ที่มีลักษณะโดดเด่นน้อยกว่า นี้แสดงให้เห็นว่าการรักษาความร้อนชื้นส่งเสริมการทำงานร่วมกัน
เพิ่ม CF ในพื้นที่อสัณฐาน (พื้นผิวด้านนอก)
ส่งผลให้เกิดการเจลาตินบางส่วนและต่อมา
โครงสร้างอนุภาคของคอมเพล็กซ์ CF-GG และ SSL ทั้งหมดที่ผ่านการอบชุบด้วยความร้อนชื้น
(Chandanasree, Gul and Riar, 2016; Eliasson, 1985) นอกจากนี้
ทั้ง SCF-GG Complex และ SCF-SSL Complex มีอนุภาคที่ผิดรูปมากกว่า DCF-GG และ DCF-SSL Complex ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
เงื่อนไขการรักษาความร้อนด้วยไอน้ำและความชื้นใน
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันของพื้นผิวระหว่างสารเติมแต่ง CF

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นผิวของอนุภาคCF
การสแกนอิเล็กตรอนเพื่อเปิดเผยกระบวนการรวมกันที่แตกต่างกัน
ภาพจุลภาคในรูปที่1 คอมเพล็กซ์ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความสูงของการรวมตัว
มีรอยแตกส่วนช่องว่างและอนุภาคและพื้นผิวก่อนเจล
พื้นที่. คุณลักษณะเหล่านี้ไม่โดดเด่นในCF,DCFและSCF ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการบําบัดความร้อนเปียกช่วยส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์
CFที่มีสารเติมแต่งในพื้นที่ที่ไม่มีรูปร่าง(พื้นผิวด้านนอก)
นําไปสู่การเจลและควบแน่นบางส่วน
โครงสร้างอนุภาคของCF-GGและSSLที่ผ่านการบําบัดด้วยความร้อนเปียกทั้งหมด
(แชนนาสรี, กูล, & ริอาร์, 2016; อิไลซอน, 1985). และนอกจากนี้,
คอมเพล็กซ์SCF-GGและSCF-SSLคอมเพล็กซ์มีอนุภาคที่เปลี่ยนรูปมากกว่าDCF-GGและDCF-SSLคอมเพล็กซ์
เงื่อนไขการบําบัดด้วยไอน้ํา-ความร้อน-เปียกมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปฏิสัมพันธ์การยึดเกาะผิวระหว่างสารเติมแต่งเพิ่มขึ้น