Gothic art was a style of Medieval

Gothic art was a style of Medieval art that developed in Northern France out of Romanesque art in the 12th century AD, led by the concurrent development of Gothic architecture. It spread to all of Western Europe, never quite effacing more classical styles in Italy. In the late 14th century, the sophisticated court style of International Gothic developed, which continued to evolve until the late 15th century. In many areas, especially Germany, Late Gothic art continued well into the 16th century, before being subsumed into Renaissance art. Primary media in the Gothic period included sculpture, panel painting, stained glass, fresco and illuminated manuscripts. The easily recognizable shifts in architecture from Romanesque to Gothic, and Gothic to Renaissance styles, are typically used to define the periods in art in all media, although in many ways figurative art developed at a different pace.

The earliest Gothic art was monumental sculpture, on the walls of Cathedrals and abbeys. Christian art was often typological in nature (see Medieval allegory), showing the stories of the New Testament and the Old Testament side by side. Saints' lives were often depicted. Images of the Virgin Mary changed from the Byzantine iconic form to a more human and affectionate mother, cuddling her infant, swaying from her hip, and showing the refined manners of a well-born aristocratic courtly lady.

Secular art came into its own during this period with the rise of cities, foundation of universities, increase in trade, the establishment of a money-based economy and the creation of a bourgeois class who could afford to patronize the arts and commission works resulting in a proliferation of paintings and illuminated manuscripts. Increased literacy and a growing body of secular vernacular literature encouraged the representation of secular themes in art. With the growth of cities, trade guilds were formed and artists were often required to be members of a painters' guild—as a result, because of better record keeping, more artists are known to us by name in this period than any previous; some artists were even so bold as to sign their names.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศิลปะโกธิคมีลักษณะของศิลปะยุคกลางที่พัฒนาขึ้นในฝรั่งเศสตอนเหนือจากศิลปะโรมันในศตวรรษ 12 โฆษณา นำ โดยการพัฒนาพร้อมกันของสถาปัตยกรรมโกธิค มันแพร่กระจายไปยังยุโรปตะวันตก ไม่เคยค่อนข้าง effacing สไตล์คลาสสิกมากในอิตาลี ในศตวรรษที่ 14 สาย พัฒนาศาลทันสมัยสไตล์โกธิคนานาชาติ ซึ่งยังคงพัฒนาจนปลายศตวรรษที่ 15 ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนี ศิลปะโกธิคปลายยังคงดีในศตวรรษที่ 16 ก่อนถูก subsumed เป็นศิลปะเรอเนสซองซ์ สื่อหลักในโกธิครวมประติมากรรม จิตรกรรมแผง งานกระจก กลางแจ้ง และต้นฉบับไฟ นอกจากนี้กะรู้จักได้อย่างง่ายดายในจากสถาปัตยกรรมโรมันโกธิค และโกธิคสไตล์เรเนซองส์ มักจะใช้เพื่อกำหนดรอบระยะเวลาในศิลปะในสื่อทั้งหมด แม้ว่าในหลายวิธีคำอุปมาทุกศิลปะพัฒนาที่ก้าวแตกต่างศิลปะโกธิคแรกสุดเป็นประติมากรรมอนุสาวรีย์ บนผนังของวิหารและสำนักสงฆ์ ศิลปะคริสเตียนมีเฉพาะในธรรมชาติ (ดูชาวฟยุคกลาง), มักจะแสดงเรื่องราวของพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่เคียงข้างกัน มักจะมีภาพชีวิตของนักบุญ ภาพของเวอร์จินแมรีเปลี่ยนจากสัญลักษณ์แบบไบแซนไทน์สุภาพมาก และมนุษย์ แม่กอดเด็ก โยกจากสะโพกของเธอ และแสดงมารยาทดีเกิดชนเสนอผู้หญิงกลั่นศิลปะทางโลกเข้ามาในมูลนิธิของตนเองในช่วงเวลานี้มีขึ้นเมือง มหาวิทยาลัย เพิ่มขึ้นในการค้า การจัดตั้งใช้เงินเศรษฐกิจและการสร้างระดับชนชั้นกลางที่สามารถอุปถัมภ์ศิลปะและทำงานเสริมในการแพร่หลายของภาพวาดและต้นฉบับไฟ รู้เพิ่มขึ้นและร่างกายเติบโตโลกวรรณกรรมพื้นถิ่นส่งเสริมการแสดงของฆราวาสในงานศิลปะ การเจริญเติบโตของเมือง ที่มีการเกิดขึ้นการค้ากิลด์ และศิลปินมักจะจำเป็นต้องเป็นสมาชิกของกิลด์ของจิตรกร — เป็นผล เนื่องจากเก็บรักษาบันทึกดี ศิลปินเพิ่มเติมทราบว่าเราตามชื่อในช่วงนี้กว่าใด ๆ ก่อนหน้า ศิลปินบางหนาก็จะลงนามได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศิลปะโกธิคเป็นรูปแบบของศิลปะยุคกลางที่ได้รับการพัฒนาในภาคเหนือของฝรั่งเศสออกมาจากศิลปะแบบโรมันในศตวรรษที่ 12 นำโดยการพัฒนาพร้อมกันของสถาปัตยกรรมแบบกอธิค มันแพร่กระจายไปทั้งหมดของยุโรปตะวันตกไม่เคยค่อนข้าง effacing รูปแบบคลาสสิกมากขึ้นในอิตาลี ในช่วงปลายศตวรรษที่ 14 รูปแบบที่มีความซับซ้อนของศาลระหว่างประเทศโกธิคพัฒนาซึ่งจะพัฒนาต่อไปจนถึงปลายศตวรรษที่ 15 ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนีศิลปะโกธิคปลายยังคงดีในศตวรรษที่ 16 ก่อนที่จะถูกวิทยเป็นศิลปะยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา สื่อหลักในสมัยโกธิครวมประติมากรรมจิตรกรรมแผงกระจกสีปูนเปียกและต้นฉบับ กะจำได้ง่ายในงานสถาปัตยกรรมจากโรมันเพื่อกอธิคและกอธิคสไตล์เรเนสซองมักจะใช้ในการกำหนดระยะเวลาในศิลปะในทุกสื่อแม้ว่าในหลาย ๆ เปรียบเทียบศิลปะการพัฒนาที่ก้าวที่แตกต่างกัน. ศิลปะโกธิคเร็วที่สุดเท่าที่เป็นรูปปั้นอนุสาวรีย์ บนผนังของวิหารและสำนักสงฆ์ ศิลปะคริสเตียนก็มักจะ typological ในธรรมชาติ (ดูชาดกในยุคกลาง) แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวของพันธสัญญาใหม่และด้านพันธสัญญาเดิมโดยด้านข้าง ชีวิตของนักบุญ 'มักจะเป็นภาพ ภาพของพระแม่มารีเปลี่ยนจากรูปแบบที่โดดเด่นไบเซนไทน์กับแม่ของมนุษย์มากขึ้นและรักใคร่กอดทารกของเธอโยกจากสะโพกของเธอและแสดงมารยาทการกลั่นของผู้หญิงเอาใจดีเกิดชนชั้นสูง. ศิลปะฆราวาสเข้ามาของตัวเองในช่วงนี้ ระยะเวลาที่มีการเพิ่มขึ้นของเมืองรากฐานของมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นในการค้าสถานประกอบการของเศรษฐกิจที่เงินที่ใช้และการสร้างระดับชนชั้นกลางที่ที่สามารถจ่ายเพื่อสนับสนุนศิลปะและคณะกรรมการทำงานได้ผลในการแพร่กระจายของภาพวาดและต้นฉบับที่ เพิ่มขึ้นรู้และร่างกายเจริญเติบโตของวรรณกรรมพื้นถิ่นฆราวาสได้รับการสนับสนุนเป็นตัวแทนของรูปแบบฆราวาสในงานศิลปะ กับการเจริญเติบโตของเมืองกิลด์ค้ากำลังก่อตัวขึ้นและศิลปินมักจะถูกต้องเป็นสมาชิกของจิตรกร 'Guild-เป็นผลเนื่องจากการบันทึกการรักษาที่ดีกว่าศิลปินอื่น ๆ อีกเป็นที่รู้จักกันในชื่อเราในช่วงนี้กว่าก่อนหน้าใด ๆ ศิลปินบางคนแม้กระทั่งกล้าที่จะเซ็นชื่อของพวกเขา