Chiang sought to institute a modest

Chiang sought to institute a modest program of reforms, including financial and educational reforms, infrastructure improvements and a revival of Confucianism, supported by the “New Life Movement” campaign. The bulk of his government’s energies and resources, however, were focused on threats to its own stability from within and outside of China. The Communists were operating their own opposition government from rural strongholds, while war with Japan–which seized Manchuria in 1931–seemed imminent. Chiang initially focused on the communist threat rather than confront Japan directly, a choice that angered many of his supporters. In the Sian (Xian) Incident of December 1936, one of his generals seized Chiang and held him captive for two weeks until he agreed to ally with Mao Zedong’s Communist forces against Japan.

Japan invaded China the following year, sparking the Sino-Japanese War. China fought Japan on its own for more than four years, until the Allies (with the exception of the Soviet Union) declared war on Japan in 1941. For its efforts, China earned inclusion among the Big Four powers, and Chiang’s international reputation skyrocketed. In 1943, his Western-educated wife, Soong Mei-ling, became the first Chinese and only the second woman to address a joint session of the U.S. Congress, when she asked for increased U.S. aid for China in the Sino-Japanese War. At the same time, however, Chiang’s government was losing a good deal of support within the country itself, thanks to his relative passivity toward Japan and increasingly conservative policies that favored landowners and mercantile interests and alienated peasants (who made up nearly 90 percent of the Chinese population).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เชียงใหม่ขอให้สถาบันเจียมเนื้อเจียมตัวโปรแกรมของการปฏิรูป ปฏิรูปการศึกษา และการเงิน ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และฟื้นฟูของ Confucianism สนับสนุนส่งเสริมการขาย "เคลื่อนไหวชีวิตใหม่" จำนวนมากของพลังงานและทรัพยากร รัฐบาลของเขาอย่างไรก็ตาม ได้เน้นภัยคุกคามแก่ความมั่นคงจากภายใน และภาย นอกประเทศจีน คอมมิวนิสต์ได้ปฏิบัติตนรัฐบาลฝ่ายค้านจากชี้ที่ชนบท ในขณะที่สงครามกับญี่ปุ่น – ซึ่งยึดแมนจูเรียใน 1931 – ดูเหมือนพายุฝนฟ้าคะนอง เชียงใหม่เริ่มเน้นภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ มากกว่าเผชิญหน้าญี่ปุ่นโดยตรง เลือกที่ angered ของผู้สนับสนุนของเขา ในเหตุการณ์เซียน (ซีอาน) 1936 ธันวาคม หนึ่งในนายพลของเขายึดเชียงใหม่ และขึ้นเขาภายในกิจการและในสองสัปดาห์จนเขาตกลงฝักใฝ่กองกำลังคอมมิวนิสต์ของเหมาเจ๋อตงกับญี่ปุ่นญี่ปุ่นบุกจีนปีต่อไปนี้ ประกายไฟสงครามจีน-ญี่ปุ่น จีนสู้ญี่ปุ่นนั้นสี่ปี จนกระทั่งฝ่ายสัมพันธมิตร (ยกเว้นสหภาพโซเวียต) ประกาศสงครามกับญี่ปุ่นใน 1941 สำหรับความพยายาม จีนได้รวมระหว่างอำนาจใหญ่ 4 และชื่อเสียงนานาชาติของเชียงใหม่ skyrocketed ใน 1943 ภรรยาของเขาศึกษาตะวันตก เหมยหลิง Soong กลายเป็น จีนแรกและเฉพาะผู้หญิงสองเซสชันร่วมกันของรัฐสภาสหรัฐอเมริกา เมื่อเธอขอให้สหรัฐฯ ช่วยเหลือที่เพิ่มขึ้นสำหรับจีนในสงครามจีน-ญี่ปุ่น ในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของเชียงขาดการจัดการที่ดีของการสนับสนุนภายในประเทศตัวเอง ด้วยปล่อยเขาญาติต่อญี่ปุ่นและนโยบายมากขึ้นหัวเก่าที่ชื่นชอบแก่ความสนใจพาณิชย์นาวี และ alienated ชาวนา (ที่ทำขึ้นเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของประชากรจีน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จังหวัดพยายามที่จะจัดตั้งเป็นโปรแกรมที่เจียมเนื้อเจียมตัวของการปฏิรูปรวมทั้งการปฏิรูปทางการเงินและการศึกษาการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการฟื้นตัวของขงจื้อที่ได้รับการสนับสนุนจาก "ขบวนการชีวิตใหม่" แคมเปญ เป็นกลุ่มของพลังงานของรัฐบาลและทรัพยากร แต่กำลังจดจ่ออยู่กับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของตัวเองจากภายในและนอกประเทศจีน คอมมิวนิสต์มีการดำเนินงานของรัฐบาลฝ่ายค้านของตัวเองจากฐานที่มั่นในชนบทในขณะที่สงครามกับญี่ปุ่นซึ่งยึดแมนจูเรียในปี 1931-ดูเหมือนใกล้เข้ามา จังหวัดมุ่งเน้นการคุกคามคอมมิวนิสต์มากกว่าเผชิญหน้ากับญี่ปุ่นโดยตรงทางเลือกที่หลายโกรธของผู้สนับสนุนของเขา ในเซียน (ซีอาน) เหตุการณ์เดือนธันวาคมปี 1936 เป็นหนึ่งในนายพลยึดเชียงใหม่และกอดเขาถูกคุมขังเป็นเวลาสองสัปดาห์จนกว่าเขาตกลงที่จะเป็นพันธมิตรกับกองกำลังคอมมิวนิสต์กับเหมาเจ๋อตงของญี่ปุ่น. ญี่ปุ่นบุกจีนในปีต่อไปเกิดประกายไฟสงคราม Sino- ญี่ปุ่น . จีนญี่ปุ่นต่อสู้ของตัวเองมานานกว่าสี่ปีจนกระทั่งพันธมิตร (ยกเว้นของสหภาพโซเวียต) ประกาศสงครามกับประเทศญี่ปุ่นในปี 1941 สำหรับความพยายามของจีนที่ได้รับการรวมอยู่ในกลุ่มบิ๊กโฟอำนาจและชื่อเสียงระดับนานาชาติของจังหวัดพุ่งสูงขึ้น ในปี 1943 ภรรยาของเขาได้รับการศึกษาตะวันตก Soong เหม่ยหลิงกลายเป็นจีนและมีเพียงผู้หญิงคนที่สองคนแรกที่อยู่ที่เซสชั่นร่วมกันของรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อเธอขอความช่วยเหลือสหรัฐที่เพิ่มขึ้นของจีนในสงครามจีนญี่ปุ่น ในเวลาเดียวกัน แต่รัฐบาลจังหวัดได้รับการสูญเสียการจัดการที่ดีของการสนับสนุนภายในประเทศตัวเองขอบคุณดุษณีญาติของเขาที่มีต่อประเทศญี่ปุ่นและนโยบายอนุรักษ์นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนเจ้าของที่ดินและผลประโยชน์การค้าและชาวนาแปลก (ที่ทำเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 90 ของ ประชากรจีน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขอสถาบันโปรแกรมเจียมเนื้อเจียมตัวของการปฏิรูป รวมทั้งการปฏิรูปทางการเงินและการศึกษา ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและฟื้นฟูของลัทธิขงจื้อ ได้รับการสนับสนุน โดยแคมเปญ " ขบวนการ " ชีวิตใหม่ เป็นกลุ่มของพลังงานของรัฐบาลของเขา และทรัพยากร แต่ยังเน้นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของตนเองจากภายใน และภายนอกประเทศจีนคอมมิวนิสต์ คือรัฐบาล ฝ่ายค้านดำเนินการของตัวเองจากฐานในชนบท ขณะที่สงครามกับญี่ปุ่น – ซึ่งยึดแมนจูเรียในปี 1931 –ดูข มหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดยเน้นคอมมิวนิสต์คุกคามมากกว่าเผชิญหน้ากับญี่ปุ่นโดยตรง ตัวเลือกที่โกรธมากของผู้สนับสนุนของเขา ในเซียน ( ซีอาน ) เหตุการณ์ธันวาคม 1936 ,หนึ่งของนายพลของเขายึดเชียงใหม่และถือเขาเป็นเชลยเป็นเวลาสองสัปดาห์จนกว่าเขาจะยอมเป็นพันธมิตรกับ Mao Zedong คอมมิวนิสต์กองกำลังต่อต้านญี่ปุ่น .

ญี่ปุ่นบุกจีนต่อปี sparking SINO ญี่ปุ่นสงคราม จีนรบญี่ปุ่นของตัวเองมานานกว่า 4 ปี จนพันธมิตร ( มีข้อยกเว้นของสหภาพโซเวียตได้ประกาศสงครามกับญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1941 . สำหรับความพยายามของจีนได้รับการรวมระหว่างบิ๊กโฟร์ อำนาจ และชื่อเสียงนานาชาติเชียงใหม่พุ่งสูงขึ้น ในปี 1943 เขาตะวันตกศึกษา ภรรยา ซ่งเหม่ยหลิง เป็นภาษาจีนครั้งแรกและเพียงสองสาวที่อยู่ในเซสชั่นร่วมกันของรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อเธอถามเพื่อเพิ่มสหรัฐช่วยเหลือจีนในญี่ปุ่นทำสงครามชิโน . แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลจังหวัดได้สูญเสียการจัดการที่ดีของการสนับสนุนในประเทศเอง ต้องขอบคุณญาติของเขาเองที่มีต่อญี่ปุ่นและอนุรักษ์นิยมมากขึ้นนโยบายที่ชื่นชอบและสนใจขาย เจ้าของที่ดินและแปลกแยกชาวบ้าน ( ที่สร้างขึ้นเกือบร้อยละ 90 ของประชากรจีน )