Humankind has used plants for heali

Humankind has used plants for healing for many thousands of years, and it's from this tradition of that the use of aromatic plant compounds is medicine began. Oils were used in the embalming process, in medicine and in purification rituals. There are also over 200 references to aromatics, incense and ointments in the Old and New Testaments; Frankincense, Myrrh, Galbanum, Cinnamon, Cassia, Rosemary, Hyssop and Spikenard are noted for being used for anointing rituals and healing of the sick. Research has confirmed centuries of practical use of essential oils, and we now know that the 'fragrant pharmacy' contains compounds with an extremely broad range of biochemical effects. There are about three hundred essential oils in general use today by professional practitioners. With the continual bombardment of viral, bacterial, parasitic and fungal contamination in our world, essential oils are a great benefit to help protect our bodies and homes from this onslaught of pathogens. Immune system systems need support and essential oils can give it. Because of the enormous amount of raw product used to make wholly natural essential oils, lots of products on the market have been polluted with lower quality, commercial – grade oils or contain other chemical substances to reduce the cost or increase the profit margin – a fact not usually revealed on the label. This is why it is important to study the chemical composition of the volatile fraction once the essential oil is extracted. This fraction is characterized by the complexity in the separation of its components, which belong to various classes of compounds and which are present in a wide range of concentrations. Therefore it is complicated to establish a composition profile of essential oils. The gas chromatographic method (GC) is almost exclusively used for the qualitative analysis of volatiles. The analysis of essential oils was developed in parallel with the technological developments in GC, such as stationary phases, detection devices, etc. However, advances in instrumentation were not the only important factor in the development of analytical methods for essential oils in plants. Sample extraction and concentration were also improved. The most outstanding improvements in the determination of the composition of essential oils came from the introduction of tandem
2
techniques involving prior/further chromatography or spectroscopy. The great amount of information on the application of GC and hyphenated techniques to essential oils has led to much research in this field.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มนุษย์ได้ใช้พืชสำหรับการรักษาหลายพันคนของปีที่ผ่านมาและก็มาจากประเพณีของว่าการใช้สารประกอบจากพืชหอมเป็นยาเริ่มนี้ น้ำมันถูกนำมาใช้ในกระบวนการเหล้าในการแพทย์และในพิธีกรรมบริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังมีกว่า 200 อ้างอิงถึงอะโรเมติกธูปและขี้ผึ้งใน Testaments เก่าและใหม่; กำยานไม้หอม, Galbanum อบเชย, ขี้เหล็ก, โรสแมรี่, พืชไม้ดอกสีน้ำเงินและ spikenard จะสังเกตเห็นถูกใช้สำหรับการเจิมพิธีกรรมและการรักษาของผู้ป่วย มีงานวิจัยที่ได้รับการยืนยันศตวรรษของการใช้งานจริงของน้ำมันหอมระเหยและตอนนี้เรารู้ว่า 'ร้านขายยาหอม' มีสารที่มีช่วงกว้างมากของผลกระทบทางชีวเคมี มีประมาณสามร้อยน้ำมันหอมระเหยในการใช้งานทั่วไปในวันนี้โดยผู้ปฏิบัติงานระดับมืออาชีพ ด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่องของไวรัสแบคทีเรียปนเปื้อนของพยาธิและเชื้อราในโลกของเราน้ำมันหอมระเหยที่เป็นผลประโยชน์ที่ดีที่จะช่วยปกป้องร่างกายและบ้านของเราจากการโจมตีของเชื้อโรคนี้ ระบบระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจำเป็นต้องสนับสนุนและน้ำมันหอมระเหยสามารถให้มัน เพราะจำนวนมหาศาลของผลิตภัณฑ์ดิบใช้ในการทำน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติในเครือจำนวนมากของผลิตภัณฑ์ในตลาดที่ได้รับการปนเปื้อนที่มีคุณภาพที่ต่ำกว่าในเชิงพาณิชย์ - น้ำมันเกรดหรือมีสารเคมีอื่น ๆ เพื่อลดต้นทุนหรือเพิ่มอัตรากำไร - ความเป็นจริง มักจะไม่เปิดเผยบนฉลาก นี่คือเหตุผลที่มันเป็นสิ่งสำคัญในการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของสารระเหยครั้งเดียวส่วนน้ำมันหอมระเหยที่สกัด ส่วนนี้เป็นลักษณะความซับซ้อนในการแยกส่วนประกอบของซึ่งเป็นชั้นเรียนต่างๆของสารและที่มีอยู่ในความหลากหลายของความเข้มข้น ดังนั้นจึงมีความซับซ้อนในการสร้างรายละเอียดองค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหย วิธีโครมาก๊าซ (GC) เกือบจะใช้เฉพาะสำหรับการวิเคราะห์เชิงคุณภาพของสารระเหย การวิเคราะห์ของน้ำมันหอมระเหยได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีใน GC เช่นขั้นตอนนิ่งอุปกรณ์ตรวจจับเป็นต้นอย่างไรก็ตามความก้าวหน้าในวัดไม่ได้เป็นปัจจัยที่สำคัญเพียงในการพัฒนาวิธีการวิเคราะห์สำหรับน้ำมันหอมระเหยในพืช สกัดตัวอย่างและความเข้มข้นนอกจากนี้ยังได้รับการปรับปรุง การปรับปรุงที่โดดเด่นที่สุดในการกำหนดองค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหยมาจากการแนะนำของตีคู่
2
เทคนิคที่เกี่ยวข้องกับก่อน / โคเพิ่มเติมหรือสเปกโทรสโก จำนวนเงินที่ดีของข้อมูลเกี่ยวกับการใช้และเทคนิค GC ยัติภังค์น้ำมันหอมระเหยได้นำไปสู่การวิจัยมากในด้านนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มนุษย์ได้ใช้พืชสำหรับการรักษาเป็นเวลาหลายพันปี และเป็นประเพณีของการใช้สารประกอบของพืชหอมเป็นยาเริ่มต้น น้ำมันที่ใช้ในการดองศพ กระบวนการในการรักษาด้วยยา และในพิธีกรรมบริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังมีการอ้างอิงถึงกว่า 200 บริษัท ธูป และ ointments Testaments เก่าและใหม่ กำยาน มดยอบ galbanum , อบเชย , Cassia ,โรสแมรี่ , กิ่งหุสบแฝกหอมมีไว้ใช้สำหรับเจิมพิธีกรรมและการรักษาของผู้ป่วย มีการวิจัยยืนยันศตวรรษของประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหย และตอนนี้เรารู้ว่าหอม ' ' เภสัชกรรมที่มีสารประกอบที่มีช่วงกว้างมากของผลทางชีวเคมี มีประมาณสามร้อย น้ำมันหอมระเหยที่ใช้อยู่ทั่วไปในวันนี้โดยแพทย์มืออาชีพกับการโจมตีอย่างต่อเนื่องของไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต และเชื้อราปนเปื้อนในโลกของเรา ระเหยเป็นประโยชน์ที่ดีที่จะช่วยปกป้องร่างกายและบ้านของเราจากการโจมตีของเชื้อโรค ระบบ ระบบ ภูมิคุ้มกัน ต้องการการสนับสนุนและน้ำมันหอมระเหยสามารถให้มัน เนื่องจากยอดเงินใหญ่หลวงของวัตถุดิบที่ใช้ทำน้ำมันหอมระเหยทั้งหมดธรรมชาติผลิตภัณฑ์มากมายในตลาดได้รับการปนเปื้อนด้วยน้ำมันคุณภาพต่ำ –เกรดพาณิชย์ หรือมีสารเคมีอื่น ๆเพื่อลดต้นทุนหรือเพิ่มอัตรากำไร–ความจริงที่ไม่ได้มักจะพบในฉลาก นี่คือเหตุผลที่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของส่วนระเหยเมื่อน้ำมันหอมระเหยสกัดมีส่วนนี้เป็นลักษณะซับซ้อนในการแยกองค์ประกอบของ บริษัท ซึ่งอยู่ในชั้นต่าง ๆ ของสารประกอบที่มีอยู่ในช่วงกว้างของความเข้มข้น ดังนั้นมันมีความซับซ้อนเพื่อสร้างองค์ประกอบโปรไฟล์ของน้ํามันหอมระเหย วิธีแก๊สโครมาโตกราฟี ( GC ) เป็นเกือบเฉพาะใช้สำหรับการวิเคราะห์สารระเหย .การวิเคราะห์น้ำมันหอมระเหยถูกพัฒนาควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีใน GC เช่นระยะเครื่องเขียน , อุปกรณ์ตรวจจับ , ฯลฯ แต่ความก้าวหน้าในวัดไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยสําคัญในการพัฒนาวิธีวิเคราะห์สำหรับระเหยในพืช การสกัดตัวอย่างและสมาธิยังปรับปรุงการปรับปรุงที่โดดเด่นที่สุดในการวิเคราะห์องค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหยที่มาจากการแนะนำของตีคู่
2
เพิ่มเติม / เทคนิค หรือเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับก่อนสเปกโทรสโกปี มีจำนวนมากของข้อมูลในใบสมัครของ GC และยัติภังค์เทคนิคระเหยได้นำไปสู่การวิจัยมากในด้านนี้