6. Performance Measures and Metrics

6. Performance Measures and Metrics in SCPMS
Fundamental processes of performance measurement according to Neely (2004) are the following.
• Measurement system design.
• Implementation.
• Managing through measurement and
277
• “Refreshing” the measurement system.
In ‘Measurement system design’, the challenge lies in choosing the right measures; it is identifying what you
need to measure so as to concentrate on what is absolutely vital. ‘Implementation’ involves ensuring access to
the right data, and the political and cultural issues, notably people’s fear of measurement and the games they
consequently play to try to manipulate target-setting to ensure targets are achievable and no blame can be
attributed. To combat this, people inside organizations need to be educated to understand the purpose and use of
the measurement system. The challenge in managing through measures requires a cultural shift in many
organizations. “Refreshing” is to ensure that, as the organization changes the measurement system keeps pace.
Sambasivan (2009) defines measure as a more objective or concrete attribute that is observed and measured and
metric as an abstract, higher-level latent attribute that can have many measures. Because SC is a network of
firms that includes material suppliers, production facilities, distribution services and customers linked together
via the flows of materials, information and funds (Gunasekaran et al., 2001), the measures have been classified
as follows: fund flow (cost and profitability), internal process flow (production level flexibility, order fulfilment
and quality), material flow (inventory and internal time performance), sales and services flow (delivery
performance, customer responsiveness and customer satisfaction), information flow and partner relationship
process flow (supplier evaluation and sharing of information with suppliers and customers). Figure 1 shows
measures and metrics at four basic links in a SC: plan, source, make/assemble, and deliver. However, according
to Bourne et al. (2003), frameworks on their own are not a complete solution. Frameworks provide different
perspectives for categorising performance measures, allowing one to consider the balance between the demands
on the business. According to Beamon (1999), a supply chain measurement system must place emphasis on
three separate types of performance measures: 1. Resource measures (generally costs); 2. Output measures
(generally customer responsiveness); and 3. Flexibility measures (Ability to respond to a changing
environment). Each of these three types of performance measures has different goals and purpose. Resource
measures include: inventory levels, personnel requirements, equipment utilization, energy usage, and cost.
Output measures include: customer responsiveness, quality, and the quantity of final product produced.
Flexibility measure a system's ability to accommodate volume and schedule fluctuations from suppliers,
manufacturers, and customers (Beamon, 1999). Categorization of measures - The Table 4 lists the various
measures that are presented in the literature. The abbreviations used for categorizing is as shown below Quality
(Q) Cost (C) Delivery(D) Flexibility (F) Agility (A) Responsiveness(R) Non-financial (NF) Qualitative (QL)
Quantitative (QN)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

6. มาตรการการปฏิบัติงานและตัวชี้วัดใน SCPMS
กระบวนการพื้นฐานของการวัดประสิทธิภาพการทำงานตามนีลี (2004) มีดังต่อไป.
•การออกแบบระบบการวัด.
•การดำเนินการ.
•ผู้จัดการผ่านวัดและ
277
• "สดชื่น" ระบบการวัด.
ใน 'การออกแบบระบบการวัด 'ความท้าทายอยู่ในการเลือกมาตรการที่เหมาะสม; มันคือการระบุสิ่งที่คุณ
ต้องการในการวัดเพื่อที่จะมีสมาธิอยู่กับสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง 'การดำเนินงาน' ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความมั่นใจในการเข้าถึง
ข้อมูลที่ถูกต้องและปัญหาทางการเมืองและวัฒนธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งความกลัวของผู้คนของวัดและเกมที่พวกเขา
จึงเล่นจะพยายามที่จะจัดการกับเป้าหมายการตั้งค่าเพื่อให้แน่ใจว่าเป้าหมายที่จะทำได้และไม่มีตำหนิสามารถ
นำมาประกอบ การต่อสู้นี้คนภายในองค์กรต้องมีการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจวัตถุประสงค์และการใช้งานของ
ระบบการวัด ความท้าทายในการจัดการผ่านมาตรการที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในหลาย
องค์กร "สดชื่น" เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบการวัดช่วยให้ก้าว.
Sambasivan (2009) กำหนดเป็นตัวชี้วัดคุณลักษณะเพิ่มเติมวัตถุประสงค์หรือคอนกรีตที่เป็นที่สังเกตและวัดและ
ตัวชี้วัดที่เป็นนามธรรมระดับสูงแอตทริบิวต์แฝงที่สามารถมี หลายมาตรการ เพราะ SC เป็นเครือข่ายของ
บริษัท ที่รวมถึงซัพพลายเออร์วัสดุสิ่งอำนวยความสะดวกการผลิต, การจัดจำหน่ายและการบริการลูกค้าที่เชื่อมโยงกัน
ผ่านทางกระแสของวัสดุข้อมูลและเงินทุน (. กูนาซีคาแร, et al, 2001) มาตรการที่ได้รับการจัด
ดังนี้การไหลของเงินกองทุน ( ค่าใช้จ่ายและผลกำไร) การไหลของกระบวนการภายใน (ความยืดหยุ่นในระดับการผลิตปฏิบัติตามคำสั่ง
และคุณภาพ) การไหลของวัสดุ (สินค้าคงคลังและประสิทธิภาพการทำงานภายในเวลา), การขายและการไหลเวียนของบริการ (การส่งมอบ
ประสิทธิภาพการทำงานที่ตอบสนองลูกค้าและความพึงพอใจของลูกค้า), การไหลของข้อมูลและความสัมพันธ์ของคู่
กระบวนการ การไหล (การประเมินผลการจัดจำหน่ายและการแบ่งปันข้อมูลกับซัพพลายเออร์และลูกค้า) รูปที่ 1 แสดงให้เห็นถึง
มาตรการและตัวชี้วัดที่สี่ขั้นพื้นฐานในการเชื่อมโยง SC: แผนมาให้ / รวบรวมและส่งมอบ อย่างไรก็ตามตาม
ที่จะบอร์นและอัล (2003) กรอบของตัวเองไม่ได้เป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์ กรอบที่แตกต่างกันให้
มุมมองสำหรับประเภทวัดประสิทธิภาพที่ช่วยให้การอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างความต้องการ
ในธุรกิจ ตาม Beamon (1999), ระบบการวัดห่วงโซ่อุปทานจะต้องให้ความสำคัญกับ
สามแยกประเภทของมาตรการประสิทธิภาพ 1. มาตรการทรัพยากร (ค่าใช้จ่ายทั่วไป); 2. มาตรการการส่งออก
(โดยทั่วไปการตอบสนองของลูกค้า); และ 3. มาตรการความยืดหยุ่น (ความสามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง
สภาพแวดล้อม) แต่ละเหล่านี้สามประเภทของการวัดผลการปฏิบัติงานมีเป้าหมายที่แตกต่างกันและวัตถุประสงค์ ทรัพยากร
มาตรการ ได้แก่ ระดับสินค้าคงคลังความต้องการบุคลากรที่มีการใช้อุปกรณ์การใช้พลังงานและค่าใช้จ่าย.
มาตรการการส่งออกรวมถึง:. การตอบสนองลูกค้าที่มีคุณภาพและปริมาณของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่ผลิต
มีความยืดหยุ่นในการวัดความสามารถของระบบที่จะรองรับความผันผวนของปริมาณและระยะเวลาจากซัพพลายเออร์,
ผู้ผลิตและลูกค้า (Beamon, 1999) หมวดหมู่ของมาตรการ - ตารางที่ 4 รายการต่างๆ
มาตรการที่จะนำเสนอในวรรณคดี ตัวย่อที่ใช้สำหรับการจัดหมวดหมู่เป็นที่แสดงด้านล่างคุณภาพ
(Q) ค่าใช้จ่าย (C) การจัดส่งสินค้า (D) ความยืดหยุ่น (F) Agility (A) การตอบสนอง (R) ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (NF) เชิงคุณภาพ (QL)
เชิงปริมาณ (QN)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

6 . ตัวชี้วัดประสิทธิภาพและมาตรการใน scpms
กระบวนการพื้นฐานของการวัดผลการปฏิบัติงานตาม นีลี ( 2004 ) มีดังนี้ การออกแบบระบบการวัด
-
.
- การ - การจัดการผ่านการวัดและ 277
-
" สดชื่น " ระบบการวัด .
' ระบบการวัดการออกแบบ ' ความท้าทายอยู่ในการเลือกมาตรการใช่ มันคือการระบุสิ่งที่คุณ
ต้องวัดเพื่อจะเน้นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด . ' ' ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างการเข้าถึง
ข้อมูลที่ถูกต้อง และ การเมือง และวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนกลัวการวัดและเกมที่พวกเขา
จึงเล่นที่จะพยายามที่จะจัดการกับเป้าหมายการตั้งค่าเพื่อให้แน่ใจว่าเป้าหมายได้ และไม่มีตำหนิสามารถ
เกิดจาก . ในการต่อสู้นี้คนในองค์กรต้องมีการศึกษาให้เข้าใจวัตถุประสงค์และใช้
ระบบการวัด ความท้าทายในการจัดการผ่านมาตรการต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมในองค์กรมากมาย

" สดชื่น " คือเพื่อให้แน่ใจว่า เป็นองค์กรการเปลี่ยนแปลงระบบการวัดไว้ทัน
sambasivan ( 2009 ) ได้กำหนดมาตรการเป็นเพิ่มเติมวัตถุประสงค์หรือคอนกรีตคุณลักษณะที่สังเกตและวัดได้ และ (
เป็นนามธรรมสูงแฝงคุณลักษณะที่สามารถมีมาตรการหลาย เพราะ เป็นเครือข่ายของ บริษัท อ
ที่มีซัพพลายเออร์วัสดุเครื่องการผลิต การกระจาย และการบริการลูกค้าที่เชื่อมกัน
ทางไหลของวัสดุทุนสารสนเทศและ ( gunasekaran et al . , 2001 ) ได้แบ่งมาตรการ
ดังนี้ กองทุนไหล ( ต้นทุนและกำไร ) , การไหลภายในกระบวนการผลิตระดับความยืดหยุ่น เพื่อเติมเต็ม
และคุณภาพ ) , การไหลของวัสดุ ( สินค้าคงคลังและการทำงานภายในเวลา ) , การขายและบริการ ( ส่ง
งานลูกค้า การตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ) และการไหลของข้อมูลและการไหลของกระบวนการความสัมพันธ์หุ้นส่วน
( การประเมินผู้ขายและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ ) รูปที่ 1 แสดงมาตรการและตัวชี้วัดที่ 4
พื้นฐานการเชื่อมโยงใน SC : แหล่งที่มาของแผน ให้ / รวบรวมและส่งมอบ อย่างไรก็ตาม จาก
กับบอร์น et al . ( 2003 ) , กรอบของตัวเองไม่ได้เป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์ กรอบให้แตกต่างกัน
มุมมอง categorising มาตรการประสิทธิภาพที่ช่วยให้หนึ่งที่จะต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างความต้องการ
ในธุรกิจ ตาม บีมอน ( 1999 ) , ห่วงโซ่อุปทานระบบการวัดต้องเน้น
สามชนิดแยกของการวัดผลการปฏิบัติงาน 1 . มาตรการทรัพยากร ( โดยทั่วไปราคา ) 2 . ออกมาตรการ
( การตอบสนองโดยทั่วไปลูกค้า ) 3 .การวัดความยืดหยุ่น ( ความสามารถในการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
) แต่ละเหล่านี้สามประเภทของการวัดผลการปฏิบัติงานมีเป้าหมายที่แตกต่างกันและวัตถุประสงค์ มาตรการทรัพยากร
รวมถึงระดับสินค้าคงคลัง ความต้องการบุคลากร อุปกรณ์ใช้ ต้นทุนการใช้พลังงาน และมาตรการการตอบสนองของผลผลิตรวม .
: ลูกค้าคุณภาพและปริมาณของผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ผลิต .
ความยืดหยุ่นของระบบการวัดความสามารถในการรองรับปริมาณและตารางของจากซัพพลายเออร์
ผู้ผลิตและลูกค้า ( บีมอน , 1999 ) วิภัตติของมาตรการ - โต๊ะ 4 รายการต่างๆ
มาตรการที่จะนําเสนอในวรรณคดี ส่วนคำย่อที่ใช้สำหรับจัดหมวดหมู่จะแสดงด้านล่างคุณภาพ
( Q ) ค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง ( C ) ( D ) มีความยืดหยุ่น ( F ) ความคล่องแคล่ว ( ) การตอบสนอง ( R ) ที่ไม่ใช่ทางการเงิน ( NF ) การวิจัยเชิงปริมาณ ( คิวแอล )
( ? )