ObjectivesTo estimate the prevalenc

Objectives

To estimate the prevalence of partly controlled and uncontrolled asthmatic patients, to evaluate quality of life and healthcare resource consumption.

Methods

Cross-sectional phase followed by a 12-month prospective phase. Asthma Control Test and the EQ-5D were used.

Results

2853 adult patients recruited in 56 Hospital Respiratory Units in Italy were evaluated: 64.4% had controlled asthma, 15.8% partly controlled asthma and 19.8% were uncontrolled. The mean (SD) EQ-5D score was 0.86 (0.17) in controlled, 0.75 (0.20) in partly controlled and 0.69 (0.23) in uncontrolled patients (p < 0.001 between groups). The number of patients requiring hospitalization or emergency room visits was lower in controlled (1.8% and 1.6%, respectively) than in partly controlled (5.1% and 11.5%) and uncontrolled (6.4% and 18.6%). A combination of an inhaled corticosteroid and a long-acting beta-2 agonist was the reported therapy by 56.0% of patients, with the rate of controlled asthma and improved quality of life being higher in patients on extrafine beclomethasone/formoterol compared to budesonide/formoterol (p < 0.05) and fluticasone/salmeterol (p < 0.05 for quality of life).

Conclusions

Asthma control is achieved in a good proportion of Italian patients. Differences may be detected in a real-life setting in favor of extrafine beclomethasone/formoterol combination.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์เพื่อประเมินความชุกของการควบคุม และขาดการควบคุมบางส่วนประเมินสภาพผู้ป่วย การประเมินการใช้ทรัพยากรคุณภาพชีวิตและสุขภาพวิธีขั้นตอนที่โรงพยาบาลตามขั้นตอน 12 เดือนผู้สนใจ ใช้ทดสอบการควบคุมโรคหอบหืดและ EQ - 5Dผลลัพธ์2853 ผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่คัดเลือกในหน่วยระบบทางเดินหายใจโรงพยาบาล 56 ในอิตาลีได้ประเมิน: %ประมาณ 64.4 มม.ได้ควบคุมโรคหอบหืด 15.8% บางส่วนควบคุมโรคหอบหืด และ 19.8% ไม่สามารถควบคุม คะแนนเฉลี่ย (SD) EQ 5D เป็น 0.86 (0.17) ในการควบคุม 0.75 (0.20) ในควบคุมบางส่วน และ 0.69 (0.23) ในควบคุมผู้ป่วย (p < 0.001 ระหว่างกลุ่ม) จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลหรือห้องฉุกเฉินถูกต่ำกว่าในการควบคุม (1.8% และ 1.6% ตามลำดับ) กว่าในบางส่วนที่ควบคุม (5.1% และ 11.5%) และไม่สามารถควบคุม (6.4% และ 18.6%) เตียรอยด์สูดดมและเอก beta 2 ตัวทำหน้าที่ยาวถูกรักษารายงาน 56.0% ของผู้ป่วย อัตราการควบคุมโรคหอบหืด และปรับปรุงการคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นในผู้ป่วยที่ extrafine beclomethasone/formoterol budesonide/formoterol (p < 0.05) และ fluticasone/salmeterol (p < 0.05 สำหรับคุณภาพชีวิต)บทสรุปควบคุมโรคหอบหืดจะทำได้ในสัดส่วนดีของผู้ป่วยที่อิตาลี ความแตกต่างอาจตรวจพบได้ในชีวิตจริงในความโปรดปรานของชุด beclomethasone/formoterol extrafine

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์เพื่อประเมินความชุกของการควบคุมบางส่วนและไม่สามารถควบคุมผู้ป่วยโรคหืดที่จะประเมินผลการศึกษาคุณภาพชีวิตและการดูแลสุขภาพการใช้ทรัพยากร. วิธีการขั้นตอนการตัดขวางตามด้วย 12 เดือนระยะที่คาดหวัง การทดสอบการควบคุมโรคหืดและ EQ-5D ถูกนำมาใช้. ผลการค้นหาผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่ 2853 ได้รับคัดเลือกในระบบทางเดินหายใจ 56 โรงพยาบาลหน่วยในอิตาลีได้รับการประเมิน: 64.4% มีการควบคุมโรคหอบหืดโรคหอบหืด 15.8% ควบคุมบางส่วนและ 19.8% เป็นไม่สามารถควบคุมได้ คะแนนเฉลี่ย (SD) EQ-5D เท่ากับ 0.86 (0.17) ในการควบคุม 0.75 (0.20) ในการควบคุมบางส่วนและ 0.69 (0.23) ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุม (p <0.001 ระหว่างกลุ่ม) จำนวนผู้ป่วยที่ต้องรักษาในโรงพยาบาลหรือห้องฉุกเฉินเข้าชมต่ำในการควบคุม (1.8% และ 1.6% ตามลำดับ) มากกว่าในการควบคุมบางส่วน (5.1% และ 11.5%) และไม่มีการควบคุม (6.4% และ 18.6%) การรวมกันของเตียรอยด์สูดดมและออกฤทธิ์ยาวเบต้า 2 ตัวเอกได้รับการรักษาด้วยการรายงานโดย 56.0% ของผู้ป่วยมีอัตราของโรคหอบหืดควบคุมและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของการเป็นที่สูงขึ้นในผู้ป่วยใน beclomethasone extrafine / formoterol เมื่อเทียบกับ budesonide / formoterol (p <0.05) และ fluticasone / salmeterol (p <0.05 เพื่อคุณภาพชีวิต). สรุปผลการควบคุมโรคหืดจะประสบความสำเร็จในสัดส่วนที่ดีของผู้ป่วยอิตาลี ความแตกต่างอาจจะตรวจพบในชีวิตจริงการตั้งค่าในความโปรดปรานของการรวมกัน beclomethasone extrafine / formoterol

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์เพื่อประเมินความชุกของผู้ป่วยโรคหืดที่ควบคุมบางส่วนและไม่มีการควบคุมเพื่อประเมินคุณภาพชีวิตและการใช้ทรัพยากรสุขภาพวิธีการระยะตัดขวางตามระยะเวลาในอนาคตระยะ การทดสอบการควบคุมโรคหืดและ eq-5d มาใช้ผลลัพธ์2853 คัดเลือกในผู้ป่วยผู้ใหญ่โรงพยาบาลหน่วยระบบทางเดินหายใจ 56 ในอิตาลี ได้แก่ : 64.4 % ได้ควบคุมโรคหืด , 15.8 % ส่วนหนึ่งถูกควบคุมโรคหืดและร้อยละ 19.8 ยังไม่มีการควบคุม . ค่าเฉลี่ย ( SD ) eq-5d คะแนนคือ 0.86 ( 0.17 ) ควบคุม 0.75 ( 0.20 ) ในบางส่วนควบคุมได้และ 0.69 ( 0.23 ) ในผู้ป่วยที่ควบคุม ( P < 0.05 ) ระหว่างกลุ่ม ) จำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือเข้าชมห้องฉุกเฉินต่ำกว่าควบคุม ( 1.8% และ 1.6 ตามลำดับ ) มากกว่าในส่วนที่ควบคุม ( ร้อยละ 5.1 และ 11.5 % ) และควบคุม ( 6.4% และ 18.6 % ) การรวมกันของ inhaled corticosteroid และบางส่วนปิดรายงานการรักษาโดยเบนซีน โทลูอีนเป็น 56.0 % ของผู้ป่วยมีอัตราการควบคุมโรคหืดและปรับปรุงคุณภาพของชีวิตจะสูงขึ้นในผู้ป่วย extrafine ผู้จงรักภักดี / ฟอร์โมติรอลเทียบกับบัดโซไนด์ / ฟอร์โมติรอลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) และฟลูติคาโซน / ซัลเมเทอรอล ( P < 0.05 เพื่อคุณภาพชีวิต .สรุปการควบคุมโรคได้ในสัดส่วนที่ดีของผู้ป่วยที่อิตาลี ความแตกต่างอาจถูกตรวจพบในการตั้งค่าจริงในความโปรดปรานของ extrafine ผู้จงรักภักดี / ฟอร์โมติรอลการรวมกัน