Developing countries like Thailand,

Developing countries like Thailand, we rely export as an engine of growth for the country with export accounts more than two thirds of GDP growth (Economy of Thailand, Wikipedia-2010). The main industry in Thailand is automobiles and automotive parts with the size of 11% in total industry (Economy of Thailand, Wikipedia-2010). Not just the largest size that automobiles and automotive parts industry has better than other industries but Thailand has a strong automotive industry as well. In 2010 automobiles and automotive parts has grown more than 63% (Thai Automotive Industry Association). With more than 1.6 million cars are produced in this year and this figure rank Thailand as 13th in the automobile production country in the world (Thai Automotive Industry Association) Experts in automotive industry predicts that in 5 years Thailand will be rank top 10 in automobile production. However the automobile and automotive parts are not able to grow this fast if the industry does not have Foreign Direct Investment (FDI) from overseas. We all know from economics text book that FDI can increase production through A and K which stands for technology and capital.
Caves (1974) suggested that there are 2 productivity effects from FDI. First effect is called direct technology transfer and second effect is called competitive pressure. He also argued that FDI improve host country productivity through technology transfer can occur when there is economic contact between foreign and local firms. Empirical evidence for increase in productivity due to FDI will be discussed further in Literature Review section. In this paper I will be concentrate on Japanese automotive brands since Japanese automotive brands dominates the market with market share of more than 91%. Figure 1 shows share of market in automotive brands in year 2009 and 2010. This market share is calculated by using only sales figures of passenger cars. In the automotive industry, there are 2 main types of vehicles are produced which are passenger cars and commercial cars. Types of vehicle production will be discussed later in this paper.
With the largest industry in the country, high volume of productions and exports and huge market shares of Japanese automotive brands in Thailand, I really think that Japanese FDI flow into Thai automotive industry has some degree of significant to Thai economy in the futures
There are 2 objectives and expected benefits from this senior research.
Firstly, to explore the situation of Japanese FDI in Thai automotive industry in present and trends in the future. As I have mention above Japanese automotive firms have significant impact to Thai automotive industry by massive flow of FDI which increase technology level and productivity as caves (1974) have suggested. Understanding the current situations and have an idea of how future of the industry will be like is important and this leads to second objectives and expected benefits of this paper. Thus second objectives and expected benefit is to suggest policies to enhance the competitiveness, productivity and increase in technology to Thai automotive industry. Basically suggest policies to improve Thai automotive industry to benefit the country.
Scope of my study will concentrate on analyzing domestic and international market and show what the future will be for these markets. International market will include ASEAN, CLMV and Japan. The reason to include international market is that Japanese automotive firms see Thailand as vehicle production hubs for south-east Asia. For domestic market, my analysis of the market will start from year 1961 to current year that is 2011. The reason to start analyzes in year 1961 is that Thailand start production of vehicles on that year with only 525 vehicles are produced (Thai Automotive Industry Association). However the main analysis of Thai automotive industry will start after year 1997 that is the year that Thailand faced with financial crisis. In addition, analyze of future period will end at year 2015 that’s the year that ASEAN Economics Community will be integrated. Analyze of future periods will apply in all domestic, Japan and international market. For both Japan and international market, analyze of automotive market will start from year 2001 to present time plus future which is until year 2015.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศกำลังพัฒนา เช่น ประเทศไทย เราพึ่งพาการส่งออกเป็นเครื่องมือของการเจริญเติบโตในประเทศที่มีการส่งออกบัญชีมากกว่าสองในสามของการเจริญเติบโตของ GDP ( เศรษฐกิจของประเทศไทย wikipedia-2010 ) อุตสาหกรรมหลักในไทย คือ รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีขนาด 11 % ในอุตสาหกรรมทั้งหมด ( เศรษฐกิจของประเทศไทย wikipedia-2010 )ไม่ใหญ่ขนาดนั้น รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมได้มากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ แต่ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเช่นกัน 2010 รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์มีการเติบโตกว่า 63% ( สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ) ที่มีมากกว่า 16 ล้าน รถที่ผลิตในปีนี้ และคิดว่าไทยเป็นอันดับ 13 ในการผลิตรถยนต์ในประเทศโลก ( สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ) ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์คาดการณ์ว่าใน 5 ปี ประเทศไทยจะอยู่ในอันดับที่ 10 ในการผลิตรถยนต์อย่างไรก็ตาม รถยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์จะไม่สามารถเติบโตได้เร็วขนาดนี้ ถ้าอุตสาหกรรมมีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ( FDI ) จากต่างประเทศ เราทุกคนรู้จากหนังสือเศรษฐศาสตร์ต่างประเทศสามารถเพิ่มการผลิตผ่านและ K ซึ่งหมายถึงเทคโนโลยีและเงินทุน
ถ้ำ ( 1974 ) พบว่ามี 2 ผลผลิตจากผลกระทบโดยตรงจากต่างประเทศผลแรก เรียกว่าการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดยตรงและ 2 ผล เรียกว่า ความดันในการแข่งขัน นอกจากนี้เขายังเป็นที่ถกเถียงกันว่า การลงทุนจากต่างประเทศในการปรับปรุงผลผลิตประเทศเจ้าภาพ ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีการติดต่อทางเศรษฐกิจระหว่าง บริษัท ต่างชาติและท้องถิ่น หลักฐานเชิงประจักษ์ในการเพิ่มผลผลิต เนื่องจาก FDI จะกล่าวถึงต่อไปในส่วนของการทบทวนวรรณกรรมในบทความนี้ผมจะเน้นแบรนด์ยานยนต์ญี่ปุ่นตั้งแต่แบรนด์ยานยนต์ญี่ปุ่นครองตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 91% รูปที่ 1 แสดงส่วนแบ่งของตลาดยานยนต์ ยี่ห้อ ปี 2009 และ 2010 ตลาดนี้ใช้คำนวณโดยใช้ตัวเลขยอดขายของรถยนต์นั่ง ในอุตสาหกรรมยานยนต์มี 2 ประเภทหลักของยานพาหนะที่ผลิตซึ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถยนต์เชิงพาณิชย์ . ประเภทของการผลิตรถยนต์จะอธิบายต่อไปในบทความนี้ .
กับอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปริมาณการผลิตและการส่งออกและตลาดขนาดใหญ่ หุ้นของแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศไทยฉันคิดจริงๆว่า การลงทุนโดยตรงไหลเข้าญี่ปุ่นอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีบางส่วนของที่สำคัญกับเศรษฐกิจไทยในอนาคต
มี 2 วัตถุประสงค์และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัยอาวุโสนี้ .
ประการแรกเพื่อศึกษาสภาพการลงทุนของญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตเป็นฉันได้กล่าวถึงข้างต้น บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นได้อย่างมีนัยสำคัญส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยการไหลขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งเพิ่มระดับเทคโนโลยีและการผลิตเป็นถ้ำ ( 1974 ) ได้แนะนำ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีความคิดว่าในอนาคตของอุตสาหกรรมจะเป็นสำคัญและนี้นำไปสู่วัตถุประสงค์ที่สอง และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากบทความนี้ดังนั้นวัตถุประสงค์ที่สอง และคาดว่าประโยชน์ที่จะแนะนำนโยบายเพื่อเพิ่มศักยภาพ ประสิทธิภาพ และเพิ่มเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์ โดยทั่วไปแนะนำให้นโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพื่อประโยชน์ประเทศ
ขอบเขตของการศึกษาของฉัน จะเน้นตลาดในประเทศ และต่างประเทศ วิเคราะห์และแสดงสิ่งที่ในอนาคตจะเป็นสำหรับตลาดเหล่านี้ตลาดต่างประเทศ ได้แก่ อาเซียน กลุ่มประเทศ CLMV และญี่ปุ่น เหตุผลที่จะรวมตลาดต่างประเทศที่บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น เห็นประเทศไทยเป็นฮับการผลิตรถยนต์ในเอเชีย สำหรับตลาดในประเทศ การวิเคราะห์ของฉันของตลาดจะเริ่มจากปี 2504 ถึงปัจจุบันในปีที่ 2011เหตุผลที่จะเริ่มต้นวิเคราะห์ในปี 1961 ที่ประเทศไทยเริ่มการผลิตรถยนต์ในปีนั้น มีเพียงแต่รถที่ผลิต ( สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ) อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์หลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะเริ่มหลังจากปี 2540 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยประสบกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน นอกจากนี้การวิเคราะห์ระยะเวลาในอนาคตจะสิ้นสุดในปี 2558 เป็นปีที่อาเซียน เศรษฐกิจชุมชนจะเป็นแบบบูรณาการ การวิเคราะห์ระยะเวลาในอนาคตจะใช้ในทุกประเทศ ญี่ปุ่นและตลาดต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่นและตลาดต่างประเทศ วิเคราะห์ตลาดรถยนต์จะเริ่มจากปี 2001 ถึงปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งจนถึงปี 2015 .