Perspectives within SociologyWithin

Perspectives within Sociology
Within sociology there are two major viewpoints or perspectives. The functionalist
viewpoint stems from the work of Durkheim while the conflict viewpoint stems
from the work of Karl Marx.
Functionalism or the functionalist viewpoint argues that parts of a society work
together to maintain the cohesion of the system. This cohesion is the result of
consensus and common values shared by members of the society. The theory
assumes that a failure in one aspect of the system will negatively affect the others.
Functionalist theory assumes that components of society work to maintain
equilibrium, or balance, which permits the whole society to operate smoothly.
However, events such as war can upset the equilibrium.
Functions are actions that positively affect the social system, while dysfunctions
are actions that negatively affect the social system. Manifest functions are those
whose consequences are intended. For example, a manifest function of higher
education is to obtain critical thinking skills necessary to acquire a fulfilling job.
And latent functions are those whose consequences are not intended. For example,
a latent function of higher education is that colleges and universities serve as
marriage markets. Chances are very good that you will marry someone you meet at
college. However, this was probably not the intention of the founders of your school.
Contrary to the functionalist viewpoint or perspective, the conflict viewpoint or
conflict theory proposes that society is held together by social power—the ability
to control the behavior of others against their will. This theory originated in the
thinking of Marx. Conflict theorists believe that social power allows some groups to
dominate others. This results in the constant potential for conflict between the haves
and the have nots. Conflict may take place between individuals, groups of
individuals, or organizations. This theory sees social change as a regular feature of
social life as subordinate groups will strive to change their positions. Conflict
theorists propose that conflict actually holds society together by serving the
dominant group and by creating shifting alliances among special interest groups.
Research Methods
Research methods are divided into two types: qualitative and quantitative. The
type of method used depends upon the type of inquiry. Qualitative methods are
designed to gain the subjective understanding, interpretation, and meaning of social
behavior. Qualitative researchers use three basic techniques: historical analysis,
interviews and life histories, and participant observation. Historical analysis is
often based on old letters, diaries, and baptismal records. This type of analysis is
useful because it provides both detailed information and the broad societal context.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มุมมองภายในสังคมวิทยาในสังคมวิทยา มีสองมุมมองสำคัญหรือมุมมอง Functionalist ที่จุดชมวิวลำต้นจากการทำงานของ Durkheim ในขณะที่ลำต้นจุดความขัดแย้งจากการทำงานของ Marx คาร์ลFunctionalism หรือจุดผลงานจนว่า ส่วนต่าง ๆ ของสังคมทำงานร่วมกันเพื่อรักษาสามัคคีของระบบ สามัคคีนี้เป็นผลของมติและค่าทั่วไปที่ใช้ร่วมกัน โดยสมาชิกของสังคม ทฤษฎีสันนิษฐานว่า ความล้มเหลวในแง่มุมหนึ่งของระบบจะมีผลอื่น ๆผลงานทฤษฎีสันนิษฐานว่า ส่วนประกอบของสังคมทำงานเพื่อรักษาสมดุล หรือดุล ซึ่งทำให้สังคมทั้งการใช้งานได้อย่างราบรื่นอย่างไรก็ตาม กิจกรรมสงครามสามารถอารมณ์เสียสมดุลฟังก์ชันเป็นการกระทำที่มีผลต่อระบบสังคม ขณะ dysfunctions บวกเป็นการกระทำที่ส่งผลเสียต่อระบบสังคม รายการฟังก์ชันผลที่มีวัตถุประสงค์ ตัวอย่าง รายการฟังก์ชันของสูงการศึกษาจะได้รับทักษะการคิดที่สำคัญจำเป็นต้องได้รับการตอบสนองงานและฟังก์ชันแฝงอยู่อาจจะไม่จำเป็นที่มีผลกระทบ ตัวอย่างฟังก์ชันแฝงอยู่ของอุดมศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็นตลาดแต่งงาน มีโอกาสดีที่คุณจะแต่งงานกับคนที่คุณพบที่วิทยาลัย อย่างไรก็ตาม นี้ไม่คงความตั้งใจของผู้ก่อตั้งสมาคมของโรงเรียนของคุณขัดกับมุมมองผลงาน หรือมุมมอง แง่มุมความขัดแย้ง หรือเสนอทฤษฎีความขัดแย้งที่ สังคมจัดขึ้นร่วมกัน โดยพลังทางสังคมซึ่งสามารถการควบคุมการทำงานของผู้อื่นกับของพวกเขาจะ ทฤษฎีนี้เริ่มต้นในการความคิดของ Marx Theorists แย้งเชื่อว่า พลังทางสังคมให้กลุ่มบางครองผู้อื่น ซึ่งผลเป็นความขัดแย้งระหว่าง haves คงและมี nots ความขัดแย้งอาจเกิดระหว่างบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ทฤษฎีนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นลักษณะปกติของชีวิตสังคมเป็นกลุ่มย่อยจะพยายามเปลี่ยนตำแหน่ง ความขัดแย้งtheorists เสนอว่า ความขัดแย้งจริงเก็บสังคมร่วมกัน โดยการให้บริการโดดเด่นกลุ่ม และ โดยการสร้างพันธมิตรระหว่างกลุ่มความสนใจพิเศษที่เลื่อนลอยระเบียบวิธีวิจัยระเบียบวิธีวิจัยแบ่งออกเป็นสองประเภท: เชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณ ที่ชนิดของวิธีใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของคำถาม วิธีเชิงคุณภาพออกแบบมาเพื่อความเข้าใจตามอัตวิสัย ตีความ และความหมายของสังคมลักษณะการทำงาน นักวิจัยเชิงคุณภาพใช้เทคนิคพื้นฐานสาม: วิเคราะห์ประวัติศาสตร์สัมภาษณ์ประวัติชีวิต และผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย เป็นการวิเคราะห์ประวัติศาสตร์มักจะตามตัวอักษรเก่า ไดอารีส์ และ baptismal ระเบียน การวิเคราะห์ชนิดนี้มีประโยชน์ เพราะมันให้ละเอียดและบริบทนิยมกว้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มุมมองภายในสังคมวิทยา
สังคมวิทยาภายในมีสองมุมมองที่สำคัญหรือมุมมอง functionalist
มุมมองที่เกิดจากการทำงานของ Durkheim ในขณะที่มุมมองของความขัดแย้งที่เกิด
จากการทำงานของคาร์ลมาร์กซ์
Functionalism หรือมุมมอง functionalist ระบุว่าชิ้นส่วนของการทำงานของสังคม
ร่วมกันเพื่อรักษาความสามัคคีของระบบ การทำงานร่วมกันนี้เป็นผลมาจาก
ฉันทามติและค่านิยมร่วมกันใช้ร่วมกันโดยสมาชิกของสังคม ทฤษฎี
สันนิษฐานว่าความล้มเหลวในด้านหนึ่งของระบบทางลบจะมีผลต่อคนอื่น ๆ
ทฤษฎี Functionalist สมมติว่าองค์ประกอบของการทำงานของสังคมในการรักษา
ความสมดุลหรือความสมดุลซึ่งอนุญาตให้สังคมทั้งในการดำเนินงานได้อย่างราบรื่น
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวขณะที่สงครามจะรบกวน สมดุล
ฟังก์ชั่นการกระทำที่บวกส่งผลกระทบต่อระบบสังคมในขณะที่ความผิดปกติของ
การกระทำที่มีผลเสียต่อระบบสังคม ฟังก์ชั่นอย่างชัดแจ้งเป็นผู้
ที่มีผลกระทบมีวัตถุประสงค์ ตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นที่เกิดจากการสูงขึ้น
การศึกษาคือการได้รับทักษะการคิดที่สำคัญที่จำเป็นที่จะได้รับงานที่ตอบสนอง
และฟังก์ชั่นแฝงเป็นผู้ที่มีผลกระทบไม่ได้มีเจตนา ตัวอย่างเช่น
ฟังก์ชั่นแฝงของการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็น
ตลาดการแต่งงาน โอกาสที่ดีมากที่คุณจะแต่งงานกับคนที่คุณพบกันที่
วิทยาลัย แต่นี้ก็อาจจะไม่ใช่ความตั้งใจของผู้ก่อตั้งโรงเรียนของคุณ
ตรงกันข้ามกับมุมมอง functionalist หรือมุมมองมุมมองของความขัดแย้งหรือ
ความขัดแย้งทางทฤษฎีเสนอว่าสังคมจะจัดขึ้นร่วมกันโดยสังคมพลังงานความสามารถใน
การควบคุมพฤติกรรมของผู้อื่นกับความประสงค์ของพวกเขา . ทฤษฎีนี้เกิดขึ้นใน
ความคิดของมาร์กซ์ นักทฤษฎีความขัดแย้งเชื่อว่าอำนาจทางสังคมที่ช่วยให้คนบางกลุ่มที่จะ
ครองอื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้มีศักยภาพอย่างต่อเนื่องสำหรับความขัดแย้งระหว่างประการที่จำเป็น
และมีฟอร์เก็ ความขัดแย้งอาจจะเกิดขึ้นระหว่างบุคคลกลุ่ม
บุคคลหรือองค์กร ทฤษฎีนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นคุณสมบัติปกติของ
ชีวิตทางสังคมกับกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาจะมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนตำแหน่งของพวกเขา ความขัดแย้ง
ทฤษฎีเสนอว่าความขัดแย้งจริงถือสังคมร่วมกันโดยให้บริการ
กลุ่มที่โดดเด่นและโดยการสร้างขยับพันธมิตรระหว่างกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ
วิธีการวิจัย
วิธีการวิจัยแบ่งออกเป็นสองประเภทคือคุณภาพและเชิงปริมาณ
ประเภทของวิธีการที่ใช้ขึ้นอยู่กับประเภทของสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม วิธีการเชิงคุณภาพได้รับการ
ออกแบบมาเพื่อให้ได้รับความเข้าใจอัตนัยการตีความและความหมายของสังคม
พฤติกรรม นักวิจัยเชิงคุณภาพใช้เทคนิคสามขั้นพื้นฐาน: การวิเคราะห์ประวัติศาสตร์
การสัมภาษณ์และประวัติชีวิตและร่วมสังเกตการณ์ การวิเคราะห์ประวัติศาสตร์
มักจะขึ้นอยู่กับตัวอักษรเก่าไดอารี่และบันทึกศีลล้างบาป ประเภทของการวิเคราะห์นี้เป็น
ประโยชน์เพราะมีทั้งข้อมูลรายละเอียดและบริบททางสังคมในวงกว้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มุมมองภายในสังคมวิทยาสังคมวิทยา
ภายในมี 2 สาขาทัศนะหรือมุมมอง และคติคำนึงประโยชน์
มุมมองเกิดจากการทำงานของเดิร์กไฮม์ ในขณะที่ความขัดแย้งมุมมองต้น
จากงานของคาร์ลมาร์กซ์ .
functionalism หรือทัศนะคติคำนึงประโยชน์ ระบุว่า ส่วนของสังคม
ร่วมกันเพื่อรักษาความสามัคคีของระบบ นี่คือผลของ
สามัคคีเอกฉันท์และค่าที่ใช้ร่วมกันโดยสมาชิกของสังคม ทฤษฎี
ถือว่าล้มเหลวในแง่มุมหนึ่งของระบบจะส่งผลเสียต่อผู้อื่น ทฤษฎี
คติคำนึงประโยชน์ถือว่าส่วนประกอบของงานสังคม เพื่อรักษาดุลยภาพหรือสมดุล
, ซึ่งอนุญาตให้สังคมทั้งหมดจะทำงานได้อย่างราบรื่น .
แต่เหตุการณ์ เช่น สงคราม ทำให้เสียสมดุล
ฟังก์ชันการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อระบบสังคมเชิงบวก ในขณะที่ dysfunctions
คือการกระทำที่มีผลต่อระบบสังคมในทางลบ หน้าที่แสดงรายการเหล่านั้น
ที่มีผลไว้ ตัวอย่างเช่นฟังก์ชันปรากฏขึ้น
การศึกษาเพื่อให้ได้ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณที่จำเป็นที่จะได้รับการตอบสนองงานและฟังก์ชันแฝง .
ผู้ที่ตามมาจะไม่เจตนาตัวอย่างเช่น
ฟังก์ชันแฝงของอุดมศึกษาคือวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเป็น
ตลาดการแต่งงาน โอกาสที่ดีมากที่คุณจะแต่งงานกับใครบางคนที่คุณพบใน
วิทยาลัย อย่างไรก็ตาม นี่อาจไม่ใช่ความตั้งใจของผู้ก่อตั้งโรงเรียน
ตรงกันข้ามกับคติคำนึงประโยชน์ทัศนะหรือมุมมอง , มุมมองหรือ
ความขัดแย้งทฤษฎีความขัดแย้ง เสนอว่า สังคมที่จัดขึ้นร่วมกันโดยอำนาจทางสังคมความสามารถ
เพื่อควบคุมพฤติกรรมของผู้อื่น ต่อต้านของพวกเขาจะ ทฤษฎีนี้เริ่มต้นใน
คิดถึงมาร์ค นักทฤษฎีความขัดแย้ง เชื่อว่าพลังทางสังคมที่ช่วยให้บางกลุ่ม

ครองผู้อื่น ผลลัพธ์ที่ได้ในศักยภาพคงที่สำหรับความขัดแย้งระหว่างคนรวยและมี nots
.ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบุคคล , กลุ่มของ
บุคคล หรือองค์กร ทฤษฎีนี้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นคุณลักษณะปกติของ
ชีวิตทางสังคมกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาจะมุ่งมั่นเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งของพวกเขา นักทฤษฎีความขัดแย้ง
เสนอว่า ความขัดแย้งจริงถือสังคมร่วมกัน โดยให้บริการกลุ่มเด่นโดยการเปลี่ยน
และพันธมิตรในกลุ่มความสนใจพิเศษ .
วิธีวิจัยระเบียบวิธีวิจัย
จะแบ่งออกเป็นสองประเภท : วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ
ประเภทของวิธีการที่ใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม . วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพเป็น
ออกแบบมาเพื่อให้สามารถเข้าใจ อัตนัย ตีความ ความหมายของพฤติกรรมทางสังคม

นักวิจัยเชิงคุณภาพใช้ 3 เทคนิคพื้นฐานการวิเคราะห์ทางประวัติศาสตร์
สัมภาษณ์ และประวัติชีวิตและการสังเกตอย่างมีส่วนร่วม การวิเคราะห์ประวัติศาสตร์
มักจะขึ้นอยู่กับตัวอักษรเก่าอนุทินและบันทึกเกี่ยวกับพิธีศีลจุ่ม . การวิเคราะห์ประเภทนี้จะเป็นประโยชน์เพราะมันมีทั้ง
รายละเอียดและบริบททางสังคมในวงกว้าง .