To control students' classroom beha

To control students' classroom behavior through positive reinforcement. From a sample of 40 Mathayom 1 students, before the experiment, it was observed that the students exhibited negative behaviors while teachers were teaching. However, after the experiment using positive reinforcement techniques for students, it was found that the students behaved in a better way and participated more in organizing activities in front of the classroom. Make learning management in the classroom more efficient. It is convenient and conducive to organizing good learning and creating a good atmosphere in the classroom. The importance of using this reinforcement technique is So that students have more focus on the lesson. The researcher is therefore interested in solving this problem by using positive reinforcement techniques. From the experiment, the results showed that Students behave in a better way. As a result, the researcher was able to control and manage the classroom effectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพื่อควบคุมพฤติกรรมในห้องเรียนของนักเรียนด้วยการเสริมแรงเชิงบวก จากกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 40 คน ก่อนการทดลอง พบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมเชิงลบในขณะที่ครูกำลังสอน อย่างไรก็ตาม หลังจากการทดลองโดยใช้เทคนิคการเสริมแรงเชิงบวกแก่นักเรียน พบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมที่ดีขึ้นและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมหน้าห้องเรียนมากขึ้น ทำให้การจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น สะดวกและเอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ที่ดีและสร้างบรรยากาศที่ดีในห้องเรียน ความสำคัญของการใช้เทคนิคเสริมนี้คือ เพื่อให้ผู้เรียนมีสมาธิกับบทเรียนมากขึ้น ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยใช้เทคนิคการเสริมแรงเชิงบวก จากการทดลองพบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้วิจัยสามารถควบคุมและจัดการห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ควบคุมพฤติกรรมของนักเรียนในห้องเรียนด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งเชิงรุก โดยก่อนการทดลองสังเกตจากกลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 40 คน พบว่านักเรียนมีพฤติกรรมเชิงลบขณะครูสอน อย่างไรก็ตาม จากการทดลองนำเทคโนโลยีเชิงบวกมาใช้กับนักเรียนพบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมที่ดีขึ้นและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมก่อนเข้าห้องเรียนมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน มีความสะดวก เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนที่ดี สร้างบรรยากาศการเรียนการสอนที่ดี ความสำคัญของการใช้เทคนิคแบบเข้มข้นนี้คือการทำให้นักเรียนมีสมาธิในห้องเรียนมากขึ้น นักวิจัยจึงสนใจที่จะแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้เทคโนโลยี Positive Intensive ผลการทดลองพบว่านักเรียนมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น ส่งผลให้นักวิจัยสามารถควบคุมและจัดการห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ควบคุมพฤติกรรมของนักเรียนในชั้นเรียนด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งในเชิงบวก ก่อนการทดลองจากตัวอย่างของนักเรียน40คนMathayom 1พบว่านักเรียนแสดงพฤติกรรมเชิงลบในขณะที่ครูสอน อย่างไรก็ตามหลังจากการทดลองกับนักเรียนโดยใช้เทคนิคการเสริมสร้างความเข้มแข็งที่ใช้งานได้พบว่านักเรียนทําได้ดีขึ้นและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่หน้าห้องเรียนมากขึ้น ทําให้การจัดการเรียนในห้องเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น สะดวกเอื้อต่อการจัดระเบียบการเรียนรู้ที่ดีและสร้างบรรยากาศในห้องเรียนที่ดี ความสําคัญของการใช้ทักษะการเสริมสร้างความเข้มแข็งนี้คือการให้นักเรียนมุ่งเน้นไปที่หลักสูตรมากขึ้น ดังนั้นนักวิจัยจึงสนใจในการแก้ปัญหานี้โดยใช้เทคนิคการเสริมแรงเชิงบวก จากผลการทดลองนักเรียนทําได้ดีขึ้น เป็นผลให้นักวิจัยสามารถควบคุมและจัดการห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ