7.Tea might provide protection from

7.Tea might provide protection from ultraviolet rays. We know it’s important to limit exposure to UV rays, and we all know what it’s like to feel the burn. The good news is that green tea may act as a back-up sunscreen.
8.Tea could keep waist circumference in check. In one study, participants who regularly consumed hot tea had lower waist circumference and lower BMI than non-consuming participants. Scientists speculate that regular tea drinking lowers the risk of metabolic syndrome (which increases the risk of diabetes, artery disease and stroke), although it’s important to remember that correlation does not equal causation.
9.Regular tea drinking might also counteract some of the negative effects of smoking and might even lessen the risk of lung cancer (good news, obviously, but not a justification for cigs).
10.Tea could be beneficial to people with Type 2 diabetes. Studies suggest that compounds in green tea could help diabetics better process sugars.
11.Tea can help the body recover from radiation. One study found that tea helped protect against cellular degeneration upon exposure to radiation, while another found that tea can help skin bounce back postexposure.
12.Green tea has been found to improve bone mineral density and strength.
13.Tea might be an effective agent in the prevention and treatment of neurological diseases, especially degenerative diseases (think Alzheimer’s). While many factors influence brain health, polyphenols in green tea may help maintain the parts of the brain that regulate learning and memory.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

7.ชาอาจให้การป้องกันจากรังสีอัลตราไวโอเลต เรารู้ว่า จะต้องจำกัดการสัมผัสกับรังสียูวี และเราทุกคนรู้ว่ามันคืออะไรเช่นใจเขียน ข่าวดีคือ ว่า ชาเขียวอาจทำหน้าที่เป็นครีมกันแดดสำรองได้
8.Tea สามารถเก็บเส้นรอบวงเอวในการตรวจสอบได้ ในหนึ่งการศึกษา ผู้เรียนที่ใช้เป็นชาร้อนมีเส้นรอบวงเอวต่ำและ BMI ต่ำกว่าไม่ใช้ผู้เข้าร่วม นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ดื่มชาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของอาการเผาผลาญ (ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง), แม้ว่าจะต้องจำไว้ว่า ความสัมพันธ์ไม่เท่า causation.
9ดื่มชาเป็นประจำอาจยังถอนบางส่วนของผลกระทบเชิงลบของการสูบบุหรี่ และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอด (ข่าวดี ชัด แต่ไม่มีเหตุผลสำหรับ cigs) .
10.Tea อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีโรคเบาหวานประเภท 2 การศึกษาแนะนำว่า สารประกอบในชาเขียวช่วยให้ประมวลผลน้ำตาลได้ดี เบา
11.Tea สามารถช่วยให้ร่างกายจากรังสีได้ การศึกษาหนึ่งพบว่า ชาช่วยป้องกันเซลล์เสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับรังสี ในขณะที่อีกพบว่า ชาสามารถช่วยให้ผิวเด้งกลับ postexposure.
12.Green ชาได้พบกระดูกความหนาแน่นและแข็งแรง
13.Tea อาจเป็นตัวแทนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและรักษาโรคระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเสื่อม (คิดว่า ของไซเมอร์) ได้ ในขณะที่ปัจจัยหลายอย่างมีอิทธิพลต่อสุขภาพสมอง โพลีฟีนในชาเขียวอาจช่วยรักษาส่วนของสมองที่ควบคุมการเรียนรู้และหน่วยความจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

7.Tea อาจให้การป้องกันจากรังสีอัลตราไวโอเลต เรารู้ว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่จะ จำกัด การสัมผัสกับรังสียูวีและเราทุกคนรู้ว่าสิ่งที่มันต้องการที่จะรู้สึกการเผาไหม้ ข่าวดีก็คือว่าชาเขียวอาจทำหน้าที่เป็นครีมกันแดดสำรอง
8.Tea สามารถรักษารอบเอวในการตรวจสอบ ในการศึกษาผู้เข้าร่วมที่บริโภคเป็นประจำชาร้อนมีเส้นรอบเอวที่ลดลงและต่ำกว่าค่าดัชนีมวลกายมากกว่าผู้เข้าร่วมไม่นาน นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าการดื่มชาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคเมตาบอลิ (ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานโรคหลอดเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง) แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ความสัมพันธ์ที่ไม่ทำให้เกิดผลไม่เท่ากับ
การดื่มชา 9.Regular อาจต่อสู้กับบางส่วนของเชิงลบ ผลกระทบของการสูบบุหรี่และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอด (ข่าวที่ดีอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้ให้เหตุผลสำหรับบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์)
10.Tea อาจเป็นประโยชน์กับคนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การศึกษาพบว่าสารในชาเขียวจะช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานน้ำตาลกระบวนการที่ดีขึ้น
11.Tea สามารถช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากรังสี ผลการศึกษาพบว่าชาช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์เมื่อสัมผัสกับรังสีขณะที่อีกพบว่าชาสามารถช่วยให้ผิวกลับมา postexposure
ชา 12.Green มีการค้นพบในการปรับปรุงความหนาแน่นของกระดูกและความแข็งแรง
13.Tea อาจจะมีตัวแทนที่มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันและการรักษาโรคทางระบบประสาทโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเสื่อม (คิดว่าเสื่อม) ในขณะที่หลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพสมอง, โพลีฟีนในชาเขียวอาจช่วยรักษาส่วนของสมองที่ควบคุมการเรียนรู้และหน่วยความจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

7 . ชาอาจให้การป้องกันจากรังสีอัลตราไวโอเลต . เรารู้ว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่จะ จำกัด การเปิดรับแสงยูวี และเราทุกคนรู้ว่าสิ่งที่มันต้องการที่จะรู้สึกร้อนใจ ข่าวดีคือ ชาเขียวอาจเป็นสารกันแดด ตัวสำรอง
8.tea เก็บรอบเอวในการตรวจสอบ ในการศึกษาหนึ่งผู้ที่บริโภคประจำชาร้อนก็ลดเส้นรอบเอวและค่าดัชนีมวลกายน้อยกว่าไม่ใช้คน นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า การดื่มชาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ( ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวาน , โรคหลอดเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง ) แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่าค่าไม่เท่ากับการกระทำ
9การดื่มชาเป็นประจำอาจแก้บางส่วนของผลกระทบเชิงลบของการสูบบุหรี่และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอด ( ข่าวดีแน่นอน แต่ไม่ใช่เหตุผลของบุหรี่ )
10.tea อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีเบาหวานชนิดที่ 2 การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสารในชาเขียวสามารถช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานกว่ากระบวนการน้ำตาล
11.tea สามารถช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากรังสีการศึกษาหนึ่งพบว่า ชาเขียวช่วยป้องกันเซลล์เสื่อมเมื่อแสงรังสี ในขณะที่อีกพบว่า ชาเขียวสามารถช่วยให้ผิวเด้งกลับ postexposure .
12.green ชาได้รับการพบเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและความแข็งแรง .
13.tea อาจจะเป็นตัวแทนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและการรักษาโรคทางระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรค degenerative ( คิดว่าอัลไซเมอร์ )ในขณะที่หลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพสมอง Polyphenols ในชาเขียวอาจช่วยรักษาส่วนของสมองที่ควบคุมการเรียนรู้ ความจำ