What is Bunker Oil? - Description a

What is Bunker Oil? - Description and Classification Overview

Bunker oil is generally any type of fuel oil used aboard ships. We can distinguish between two main types: distillate fuels and residual fuels.

Marine fuels are classified using the “Bunker ABC”:

Bunker A corresponds to the distillate fuel oil No. 2
Bunker B is a No. 4 or No. 5 fuel oil
Bunker C corresponds to the residual fuel oil No. 6
No. 6 is the most common oil, that's why "bunker fuel" is often used as a synonym for the No. 6 residual fuel oil which requires heating before the oil can be pumped. No. 5 fuel oil is also called “navy special”. No. 5 or No. 6 also furnace fuel oil (FFO).

In the maritime field another classification is used:

MGO (Marine Gas Oil): a distillate fuel oil (No. 2, Bunker A)
MDO (Marine Diesel Oil): a blend of MGO and HFO
IFO (Intermediate Fuel Oil): a blend of MGO and HFO, with less gasoil than MDO
MFO (Medium Fuel Oil): a blend of MGO and HFO, with less gasoil than IFO
HFO (Heavy Fuel Oil): a residual fuel oil (No. 6, Bunker C)
Marine fuels are traditionally classified according to their kinematic viscosity. This is a valid criterion for oil quality as long as the oil is produced by atmospheric distillation only. Today, almost all marine fuels are based on fractions from more advanced refinery processes and the viscosity itself says little about the oil's quality as fuel. Despite this, marine fuels are still quoted on the international bunker markets with their maximum viscosity set by ISO 8217 as marine engines are designed to use different viscosities of fuel. The density is also an important parameter for fuel oils since marine fuels are purified before use to remove water and dirt. Therefore, the oil must have a density which is sufficiently different from water.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำมันเตาคืออะไร -อธิบายและจัดประเภทรวมน้ำมันเตาเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้บนเรือเรือชนิดใด ๆ เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างสองประเภทหลัก: กลั่นเชื้อเพลิงและเชื้อเพลิงที่เหลือได้เชื้อเพลิงเรือจำแนก "ABC บังเกอร์":เตา A สอดคล้องกับการกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงหมายเลข 2บังเกอร์ B เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงหมายเลข 4 หรือเลข 5เตา C ตรงกับน้ำมันเชื้อเพลิงหมายเลข 6 ส่วนที่เหลือหมายเลข 6 เป็นน้ำมันทั่วไป ที่ว่าทำไม "บังเกอร์น้ำมัน" มักใช้เป็นคำเหมือนสำหรับเลข 6 ตกค้างน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งต้องร้อนก่อนสามารถสูบน้ำมัน น้ำมันเชื้อเพลิงหมายเลข 5 จะเรียกว่า "กองทัพเรือพิเศษ" หมายเลข 5 หรือเลข 6 นอกจากนี้เชื้อเพลิงน้ำมันเตา (ดาเนินการ ในฟิลด์ทางทะเล ประเภทอื่นที่ใช้:MGO (ทะเลก๊าซน้ำมัน): การกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 2 เตา A)(น้ำมันดีเซลทางทะเล) MDO: การผสมผสานของ MGO และผสมIFO (น้ำมันเชื้อเพลิงระดับกลาง): การผสมผสานของ MGO และผสม กับ gasoil น้อยกว่า MDOMFO (น้ำมันเชื้อเพลิงปานกลาง): การผสมผสานของ MGO และผสม กับ gasoil น้อยกว่า IFOผสม (น้ำมันเชื้อเพลิงหนัก): เหลือน้ำมันเชื้อเพลิง (หมายเลข 6 เตา C)น้ำเชื้อมีประเพณีแบ่งตามความหนืดจลน์ นี้เป็นเกณฑ์ถูกต้องสำหรับคุณภาพน้ำมันเป็นน้ำมันที่ผลิต โดยบรรยากาศกลั่นเท่านั้น วันนี้ เชื้อทะเลเกือบทั้งหมดเป็นไปตามเศษส่วนจากกระบวนการกลั่นขั้นสูง และความหนืดเองว่า เล็กน้อยเกี่ยวกับคุณภาพของน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง แม้นี้ เชื้อเพลิงทะเลยังจะยกมาในตลาดนานาชาติบังเกอร์ ด้วยของความหนืดสูงสุดที่กำหนด โดย ISO 8217 เป็นเครื่องยนต์ทางทะเลถูกออกแบบให้ใช้ความหนืดแตกต่างกันอาทิน้ำมัน ความหนาแน่นได้ยังพารามิเตอร์สำคัญสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงทางทะเลที่บริสุทธิ์ก่อนใช้งานเพื่อเอาน้ำและสิ่งสกปรก ดังนั้น น้ำมันต้องมีความหนาแน่นที่แตกต่างจากน้ำเพียงพอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำมันเตาคืออะไร? - คำอธิบายและการจัดภาพรวมน้ำมันเตาโดยทั่วไปคือชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้บนเรือ เราสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างสองประเภทหลัก:. เชื้อเพลิงกลั่นและเชื้อเพลิงที่เหลือเชื้อเพลิงทางทะเลจะถูกจัดประเภทโดยใช้ "บังเกอร์ ABC": บังเกอร์สอดคล้องกับเลขน้ำมันกลั่น 2 บังเกอร์ B เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งที่ 4 หรือฉบับที่ 5 บังเกอร์ C สอดคล้องกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือฉบับที่ 6 ฉบับที่ 6 น้ำมันที่พบมากที่สุดที่ว่าทำไม "น้ำมันเชื้อเพลิง" มักจะใช้เป็นคำพ้องสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงหมายเลข 6 ที่เหลือที่ต้องใช้ความร้อนก่อนที่น้ำมันสามารถสูบ น้ำมันเชื้อเพลิงฉบับที่ 5 จะเรียกว่า "กองทัพเรือพิเศษ" . ฉบับที่ 5 หรือฉบับที่ 6 นอกจากนี้ยังมีน้ำมันเชื้อเพลิงเตา (FFO) ในด้านการเดินเรือการจำแนกประเภทอื่นที่ใช้: MGO (Marine น้ำมันแก๊ส): น้ำมันเชื้อเพลิงกลั่น (ฉบับที่ 2, บังเกอร์) MDO (Marine Diesel Oil): การผสมผสานของ MGO และ HFO IFO (น้ำมันเชื้อเพลิงกลาง): การผสมผสานของ MGO และ HFO กับ gasoil น้อยกว่า MDO MFO (น้ำมันเชื้อเพลิงขนาดกลาง): การผสมผสานของ MGO และ HFO กับ gasoil น้อยกว่า IFO HFO (น้ำมันเตา) : น้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลือ (ฉบับที่ 6 บังเกอร์ C) เชื้อเพลิงทางทะเลมีการจัดประเพณีตามความหนืดของพวกเขา นี้เป็นเกณฑ์ที่ถูกต้องสำหรับคุณภาพน้ำมันเป็นเวลานานเป็นน้ำมันที่ผลิตโดยการกลั่นบรรยากาศเท่านั้น วันนี้เกือบทุกเชื้อเพลิงทางทะเลจะขึ้นอยู่กับกระบวนการเศษส่วนจากโรงกลั่นน้ำมันที่สูงขึ้นและความหนืดของตัวเองกล่าวว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับคุณภาพน้ำมันที่เป็นเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เชื้อเพลิงทางทะเลยังคงยกมาในตลาดบังเกอร์ระหว่างประเทศที่มีความหนืดสูงสุดที่กำหนดโดยมาตรฐาน ISO 8217 เป็นเครื่องยนต์ทางทะเลถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันความหนืดของน้ำมันเชื้อเพลิง ความหนาแน่นยังเป็นตัวแปรที่สำคัญสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งแต่เชื้อเพลิงทางทะเลจะถูกชำระก่อนการใช้งานเพื่อเอาน้ำและสิ่งสกปรก ดังนั้นน้ำมันจะต้องมีความหนาแน่นพอสมควรซึ่งเป็นความแตกต่างจากน้ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือน้ำมันถ่านหิน ? - รายละเอียดและการจำแนกรายละเอียดน้ำมันเตาโดยทั่วไปชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ บนเรือ เราสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างสองประเภทหลัก : เชื้อเพลิงกลั่นและเชื้อเพลิงที่เหลือเชื้อเพลิงทางทะเลจะแบ่งโดยใช้ " บังเกอร์ ABC "บังเกอร์เป็นสอดคล้องกับกลั่นน้ำมันไม่ 2บังเกอร์ B เป็นครั้งที่ 4 หรือ 5 น้ำมันไม่บังเกอร์ C สอดคล้องกับส่วนที่เหลือ น้ำมันเชื้อเพลิง เบอร์ 6หมายเลข 6 คือ น้ำมันที่พบบ่อยที่สุดว่าทำไม " บังเกอร์เชื้อเพลิง " มักจะถูกใช้เป็นไวพจน์ของเบอร์ 6 ตกค้างน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งต้องใช้ความร้อนก่อนน้ำมันจะสูบ น้ํามันเชื้อเพลิงเบอร์ 5 จะเรียกว่ากองทัพเรือ " พิเศษ " หมายเลข 5 หรือ 6 เลขที่ยังเตาน้ำมันเชื้อเพลิง ( 75% )ในเขตทางทะเลประเภทอื่นที่ใช้ :แมกนีเซียมออกไซด์ ( น้ำมัน ก๊าซ ) : กลั่นน้ำมัน ( 2 รอบ )MDO ( ดีเซลน้ำมัน ) : การผสมผสานของ hfo MgO และIfo ( กลางน้ํามันเชื้อเพลิง ) : การผสมผสานของ MgO hfo กับ gasoil น้อยกว่า MDOmfo ( น้ำมันชนิดกลาง ) : การผสมผสานของ MgO hfo gasoil น้อยกว่า IFO ,hfo หนัก ( น้ำมันเชื้อเพลิง ) : น้ำมันเชื้อเพลิงตกค้าง ( หมายเลข 6 , บังเกอร์ C )เชื้อเพลิงทางทะเลแบบดั้งเดิมแบ่งตามความหนืดจลน์ . นี้เป็นเกณฑ์ที่ถูกต้อง คุณภาพน้ำมัน ตราบใดที่น้ำมันที่ผลิตจากการกลั่นบรรยากาศเท่านั้น วันนี้ เชื้อเพลิงทางทะเลเกือบทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับกระบวนการเศษส่วนจากโรงกลั่นที่ทันสมัยมากขึ้นและความหนืดของตัวเองว่า เล็ก ๆน้อย ๆเกี่ยวกับคุณภาพของน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง แม้นี้ , เชื้อเพลิงทางทะเลจะยกมาในตลาดระหว่างประเทศ บังเกอร์ที่มีความหนืดสูงสุดของพวกเขาตั้งค่า ISO ราคาถูกเป็นทะเลเครื่องยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ความหนืดแตกต่างกันของเชื้อเพลิง ความหนาแน่นเป็นพารามิเตอร์สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะเชื้อเพลิงทางทะเล บริสุทธิ์ ก่อนใช้ เพื่อเอาน้ำและสิ่งสกปรก ดังนั้น น้ำมันต้องมีความหนาแน่นพอ ซึ่งแตกต่างจากน้ำ