Background: In the United States it

Background: In the United States it is estimated that more
than 30 million workers are exposed to harmful levels of
noise on the job. When engineering or administrative controls
cannot be used to reduce noise, workers should always
use hearing protection devices (HPDs) when exposed to
loud noise to prevent noise-induced hearing loss (NIHL).
Previous research has shown that workers do not always
use HPDs when required; therefore, it is essential that workers
assume personal responsibility for preventing NIHL by
increasing their use of HPDs.

Objectives: This study tested the effectiveness of an individually
tailored multimedia intervention to increase use of HPDs
by factory workers.

Methods: A randomized controlled design was used to compare
the effects of a tailored intervention (n = 446) with two
other interventions (a nontailored predictor-based intervention
(n = 447) and a control intervention (n = 432)) on workers’
self-reported use of HPDs 6 to 18 months following the
intervention.

Results: Only those workers receiving the tailored intervention
significantly increased their use of HPDs from pretest to
posttest. However, this increase significantly differed from
the nontailored group but not from the control group.

Conclusions: Individually-tailored interventions offer promise
for changing behavior. In light of the similarity between the
results for the tailored intervention and the control intervention
groups, further research is needed to understand barriers
to HPD use and how to maximize the benefits of individually
tailored interventions in this setting.

Key Words: health education
hearing protection
noiseinduced
hearing loss
occupational health
tailored
intervention

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: ในสหรัฐอเมริกา คาดว่าเติมกว่า 30 ล้านคนกำลังเผชิญกับอันตรายในระดับเสียงในงาน เมื่อตัวควบคุมวิศวกรรม หรือบริหารไม่สามารถใช้การลดเสียง แรงงานควรเสมอใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน (HPDs) เมื่อสัมผัสเสียงดังมากเพื่อป้องกันการสูญเสียการได้ยินเกิดเสียงรบกวน (NIHL)ก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่า คนทำไม่เสมอใช้ HPDs เมื่อต้องการ ดังนั้น มันเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ปฏิบัติงานรับผิดชอบส่วนบุคคลการป้องกัน NIHL โดยเพิ่มการใช้ HPDsวัตถุประสงค์: การศึกษานี้ทดสอบประสิทธิภาพของการแยกออกแบบมัลติมีเดียการแทรกแซงเพื่อเพิ่มการใช้ HPDsโดยโรงงานคนงานวิธีการ: ใช้ควบคุมแบบสุ่มเพื่อเปรียบเทียบผลของการแทรกแซงที่เหมาะสม (n = 446) กับสองอื่น ๆ แทรกแซง (เป็น nontailored ใช้ predictor แทรกแซง(n = 447) และการแทรกแซงควบคุม (n = 432)) ในงานตนเองรายงานการใช้ HPDs 6-18 เดือนต่อการแทรกแซงผลลัพธ์: เฉพาะคนที่รับการแทรกแซงที่เหมาะสมการใช้ HPDs จากแล็ปว่าจะสูงขึ้นอย่างมากposttest อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแตกต่างจากกลุ่ม nontailored แต่ไม่ใช่ จากกลุ่มควบคุมสรุป: -ธีการแทรกแซงมีสัญญาการเปลี่ยนลักษณะการทำงาน ในแง่ความคล้ายกันระหว่างการผลลัพธ์สำหรับการแทรกแซงที่เหมาะสมและการแทรกแซงควบคุมกลุ่ม การวิจัยจำเป็นต้องเข้าใจปัญหาและอุปสรรคการใช้ HPD และวิธีการเพิ่มผลประโยชน์ของแต่ละแทรกแซงการปรับการตั้งค่านี้คำสำคัญ: สุขภาพการศึกษาการได้ยินการป้องกัน noiseinducedปรับแต่งได้ยินสูญเสียสุขภาพแทรกแซง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง:
ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่คาดกันว่ากว่า30
ล้านคนกำลังเผชิญกับระดับที่เป็นอันตรายของเสียงในงาน เมื่อวิศวกรรมหรือการควบคุมการบริหารไม่สามารถนำมาใช้เพื่อลดเสียงรบกวนคนงานควรใช้การได้ยินอุปกรณ์ป้องกัน(อุปกรณ์ป้องกันเสียง) เมื่อสัมผัสกับเสียงดังเพื่อป้องกันการสูญเสียการได้ยินเสียงที่เกิดขึ้น(กลุ่มหูเสื่อม). วิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าคนงานไม่เคยใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงเมื่อต้อง; ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนงานรับผิดชอบส่วนบุคคลสำหรับการป้องกันไม่ให้กลุ่มหูเสื่อมจากการเพิ่มขึ้นของการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียง.? วัตถุประสงค์: การศึกษาครั้งนี้ได้รับการทดสอบประสิทธิภาพของรายบุคคลแทรกแซงมัลติมีเดียที่เหมาะกับการเพิ่มการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงจากคนงานในโรงงาน.? วิธีการ: การออกแบบแบบสุ่มถูกใช้ในการเปรียบเทียบผลของการแทรกแซงที่เหมาะนี้(n = 446) มีสองแทรกแซงอื่นๆ (การแทรกแซงทำนายตาม nontailored (n = 447) และการแทรกแซงการควบคุม (n = 432)) ในวันแรงงานการใช้งานที่ตนเองรายงานของอุปกรณ์ป้องกันเสียง 6-18 เดือนต่อไปนี้การแทรกแซง.? ผลการศึกษา: มีเพียงคนงานผู้ที่ได้รับการแทรกแซงที่เหมาะอย่างมีนัยสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงจากก่อนการทดลองการทดลอง อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้แตกต่างไปจากกลุ่ม nontailored แต่ไม่ได้มาจากกลุ่มควบคุม.? สรุป: การแทรกแซงเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้สัญญาในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ในแง่ของความคล้ายคลึงกันระหว่างผลประกอบการแทรกแซงการปรับแต่งและการแทรกแซงการควบคุมกลุ่มวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเข้าใจปัญหาและอุปสรรคในการใช้HPD และวิธีการเพื่อประโยชน์สูงสุดของรายบุคคลการแทรกแซงที่เหมาะในการตั้งค่านี้.? คำสำคัญ: การศึกษาสุขภาพ? ป้องกันการได้ยิน? noiseinduced สูญเสียการได้ยิน? อาชีวอนามัย? เหมาะแทรกแซง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติ : ในสหรัฐอเมริกา มันคือประมาณว่ามากกว่ากว่า 30 ล้านคน มีการเปิดรับระดับที่เป็นอันตรายของเสียงในงาน เมื่อวิศวกรรมหรือการบริหาร การควบคุมไม่สามารถใช้เพื่อลดเสียงรบกวน คนงานควรเสมอใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน ( hpds ) เมื่อถูกโจมตีเสียงดังเพื่อป้องกันการสูญเสียการได้ยินเนื่องจากเสียงดัง ( เสียง )งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าคนไม่เสมอใช้ hpds เมื่อจำเป็น ดังนั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่คนงานถือว่าความรับผิดชอบส่วนบุคคลเพื่อป้องกันเหตุ โดยการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของพวกเขาของ hpds .วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ทดสอบประสิทธิผลของบุคคลออกแบบเพื่อเพิ่มการใช้ hpds การแทรกมัลติมีเดียโดยคนงานในโรงงานวิธีการ : ออกแบบควบคุมโดยถูกใช้เพื่อเปรียบเทียบผลของการแทรกแซงโดย ( n = 446 ) กับสองการแทรกแซงอื่น ๆ ( nontailored ทำนายตามการแทรกแซง( n = 555 ) และควบคุมการแทรกแซง ( n = 432 ) คนงานself-reported ใช้ hpds 6 ถึง 18 เดือนต่อไปนี้การแทรกแซงผลลัพธ์ : คนงานเท่านั้นที่ได้รับการปรับแต่ง การแทรกแซงเพิ่มขึ้นจากการใช้ hpds นำหลังเรียน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นนี้แตกต่างกันจากการ nontailored กลุ่มแต่ไม่ใช่จากกลุ่มควบคุมสรุป : การแทรกแซงแบบปรับให้สัญญาเพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ในแง่ของความคล้ายคลึงกันระหว่างผลการค้นหาสำหรับปรับแต่งและควบคุมการแทรกแซงการแทรกแซงกลุ่ม การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเข้าใจอุปสรรคให้ตำรวจใช้และวิธีการเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ของบุคคลโดยการแทรกแซงในการตั้งค่านี้คำสำคัญ : การศึกษาการป้องกันการได้ยิน noiseinducedการสูญเสียการได้ยินอาชีวอนามัยที่เหมาะการแทรกแซง