Humans are bio-psycho-social-spirit

Humans are bio-psycho-social-spiritual beings. Each aspect of functioning needs attention and care. Religions have the potential to contribute to the holistic development of people. Religious leaders have the responsibility to contextualise religious principles into modern and post-modern idioms and not expect people to bracket their intellectual inquisitiveness and general knowledge. In this way, they could provide guidance for people on their spiritual quest for connectedness and significance. When the central part of religion becomes but ritualistic behaviours that bind people together and keep existential anxiety at bay, religion's core spirituality is lost. Then meaning might be sought in money, power and even feelings, at whatever cost. A loss of meaning may also lead to escapism in consumerism and alcohol and drug abuse. In our predominantly religious society, societal evils are rife. This situation may in part be attributed to religious communities primarily serving a social function and fulfilling the most basic psychological needs for safety and security.

Religions all fulfil the same spiritual function - to map a road for spiritual development and to nurture and enhance spiritual maturity. Pastors and other helping professionals fail in their responsibilities if they do not acknowledge and attend to the spirituality of their charges.

Religions serve many psychological functions. They are indivisibly entwined with humans' evolution and their search for meaning. As humans evolve, so their beliefs need to evolve from egocentrism to world centrism, whilst this may also entail a change from absolute certainty to a tolerance of ambiguity. Dietrich Bonhoeffer's view (as quoted by Spong 2001) provides a perspective on spiritual maturity:

Our coming of age leads us to a true recognition of our situation before God. God would have us know that we must live as those who manage our lives without God. The God who is with us is the God who forsakes us. The God who lets us live in the world without the working hypothesis of God is the God before whom we stand continuously. Before God and with God we live without God.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชีวภาพไซโคสังคมจิตวิญญาณ แต่ละด้านของการทำงานต้องให้ความสนใจและดูแล ศาสนามีศักยภาพที่จะนำไปสู่การพัฒนาคนแบบองค์รวม ผู้นำทางศาสนามีความรับผิดชอบกับหลักการศาสนา contextualise เป็นสำนวนสมัยใหม่ และหลังสมัยใหม่ และคาดว่าคน bracket ของ inquisitiveness ทางปัญญาและความรู้ทั่วไป ด้วยวิธีนี้ พวกเขาสามารถให้คำแนะนำสำหรับคนในการแสวงหาจิตวิญญาณ connectedness และสำคัญ เมื่อส่วนกลางของศาสนาแต่ว่าวิญญาณที่ผูกคนด้วยกัน และเก็บความกังวล existential เบย์ คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาหลักจะสูญหายไป แล้ว ความหมายอาจขอเงิน พลังงาน และแม้กระทั่งความ รู้สึก สิ่งมีต้นทุน นอกจากนี้ยังอาจสูญเสียความหมายไป escapism ในบริโภคนิยม และแอลกอฮอล์ และยาเสพติดผิด ในสังคมของเราเป็นศาสนา ความชั่วร้ายที่นิยมคือ rife ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากกรณีนี้ศาสนาชุมชนบริการสันนิบาต และตอบสนองความต้องการทางจิตวิทยาพื้นฐานเพื่อความปลอดภัยและความปลอดภัยเป็นหลักศาสนาทั้งหมดตอบสนองฟังก์ชันจิตวิญญาณเดียวกัน - แผนที่ถนนสำหรับการพัฒนาจิตวิญญาณเพื่อรักษา และส่งเสริมจิตวิญญาณครบกำหนด ศิษยาภิบาลและอื่น ๆ ช่วยผู้เชี่ยวชาญที่ล้มเหลวในความรับผิดชอบของพวกเขาหากพวกเขาไม่ยอมรับ และเข้าถึงจิตวิญญาณของค่าใช้จ่ายศาสนาทำหน้าที่หลายหน้าที่ทางจิตใจ นอกจากนี้พวกเขา indivisibly จะ entwined กับวิวัฒนาการของมนุษย์และการค้นหาความหมาย เป็นมนุษย์พัฒนา ดังนั้นความเชื่อของพวกเขาได้พัฒนาจาก egocentrism เพื่อโลก centrism ขณะนี้อาจยังอันการเปลี่ยนแปลงจากความแน่นอนสัมบูรณ์ค่าเผื่อของความคลุมเครือ ดูดีทริช Bonhoeffer (ตามที่เสนอราคา โดย Spong 2001) แสดงมุมมองกำหนดจิตวิญญาณ:เรามาอายุเราไปสู่การรับรู้ความจริงของสถานการณ์ของพระ พระเจ้าจะมีเรารู้ว่า เราต้องอยู่เป็นผู้จัดการชีวิตของเราโดยปราศจากพระเจ้า พระเจ้าอยู่กับเราเป็นพระเจ้า forsakes เรา พระเจ้าให้เราอยู่ในโลกไม่มีฟังก์ชันการทำงานของพระเจ้า เป็นพระเจ้าก่อนที่เรายืนอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่พระเจ้า และพระเจ้าเราอยู่โดยปราศจากพระเจ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพจิตวิทยาสังคมจิตวิญญาณ ทุกแง่มุมของการทำงานที่ต้องการความสนใจและการดูแลแต่ละ ศาสนามีศักยภาพที่จะนำไปสู่การพัฒนาแบบองค์รวมของผู้คน ผู้นำศาสนามีความรับผิดชอบใน contextualise หลักการทางศาสนาเข้ามาในสำนวนที่ทันสมัยและทันสมัยโพสต์และไม่ได้คาดหวังว่าคนที่จะยึดอยากรู้อยากเห็นทางปัญญาของพวกเขาและความรู้ทั่วไป ด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถให้คำแนะนำสำหรับคนที่แสวงหาทางจิตวิญญาณของพวกเขาสำหรับการเชื่อมโยงและความสำคัญ เมื่อภาคกลางของศาสนา แต่จะกลายเป็นพฤติกรรมพิธีกรรมที่ผูกคนเข้าด้วยกันและให้ความวิตกกังวลการดำรงอยู่ที่อ่าวจิตวิญญาณหลักของศาสนาจะหายไป จากนั้นอาจจะมีความหมายในการขอเงินอำนาจและแม้กระทั่งความรู้สึกที่ใดค่าใช้จ่าย การสูญเสียความหมายนอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่การหาทางออกในการคุ้มครองผู้บริโภคและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติด ในสังคมศาสนาส่วนใหญ่ของเราความชั่วร้ายทางสังคมมีมากมาย สถานการณ์นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งนำมาประกอบกับชุมชนทางศาสนาเป็นหลักที่ให้บริการฟังก์ชั่นทางสังคมและการตอบสนองความต้องการทางจิตวิทยาขั้นพื้นฐานที่สุดเพื่อความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย. ศาสนาทุกฟังก์ชั่นตอบสนองจิตวิญญาณเดียวกัน - เพื่อทำแผนที่ถนนสำหรับการพัฒนาทางจิตวิญญาณและการที่จะรักษาและเสริมสร้างจิตวิญญาณครบกําหนด พระและผู้เชี่ยวชาญด้านการให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ ล้มเหลวในความรับผิดชอบของพวกเขาหากพวกเขาไม่ได้รับทราบและเข้าร่วมกับจิตวิญญาณของค่าใช้จ่ายของพวกเขา. ศาสนาทำหน้าที่หลายทางจิตวิทยา พวกเขาจะโอบ indivisibly กับวิวัฒนาการของมนุษย์และการค้นหาความหมาย ในฐานะที่เป็นมนุษย์มีวิวัฒนาการเพื่อความเชื่อของพวกเขาต้องการที่จะพัฒนาขึ้นจากการหลงตัวเองไปทั่วโลก centrism ในขณะนี้นอกจากนี้ยังอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงจากความเชื่อมั่นแน่นอนความอดทนความคลุมเครือ มุมมองของทริช Bonhoeffer (ตามที่อ้างเปียก 2001) ให้มุมมองเกี่ยวกับผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ: มาอายุของเราทำให้เราได้รับการยอมรับที่แท้จริงของสถานการณ์ของเราก่อนที่พระเจ้า พระเจ้าจะให้เรารู้ว่าเราต้องมีชีวิตอยู่กับผู้ที่จัดการชีวิตของเราโดยไม่มีพระเจ้า พระเจ้าที่อยู่กับเราเป็นพระเจ้าที่ทอดทิ้งเรา พระเจ้าที่ช่วยให้เราอาศัยอยู่ในโลกที่ไม่มีสมมติฐานการทำงานของพระเจ้าพระเจ้าก่อนที่เรายืนอยู่อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่พระเจ้าและกับพระเจ้าที่เราอยู่ได้โดยปราศจากพระเจ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มนุษย์ไบไซโค สังคม และจิตวิญญาณเหนือธรรมชาติ แต่ละด้านของการทำงานต้องการความสนใจและการดูแล ศาสนา มีศักยภาพที่จะสนับสนุนการพัฒนาแบบองค์รวมของประชาชน ผู้นำศาสนามีความรับผิดชอบที่จะ contextualise หลักการทางศาสนาเป็นสำนวนสมัยใหม่และหลังสมัยใหม่ และไม่คาดหวังว่าคนที่จะวงเล็บ inquisitiveness ทางปัญญาและความรู้ทั่วไปในวิธีนี้พวกเขาสามารถให้คำแนะนำสำหรับประชาชนเกี่ยวกับการแสวงหาทางจิตวิญญาณของพวกเขาสำหรับการเชื่อมโยงและความสำคัญ . เมื่อศูนย์กลางส่วนหนึ่งของศาสนากลายเป็นแต่พิธีกรรมพฤติกรรมที่ผูกคนเข้าด้วยกันและให้อัตถิภาวนิยมความวิตกกังวลที่อ่าว จิตวิญญาณ หลักศาสนาก็จะหายไป แล้วความหมายอาจจะขอ เงิน อำนาจ และแม้แต่ความรู้สึกก็ตาม ต้นทุนการสูญเสียความหมายอาจนำไปสู่การหาทางออกในการคุ้มครองผู้บริโภคและแอลกอฮอล์และสารเสพติด . เด่นศาสนาในสังคมของเรามีความชั่วร้ายทางสังคมมากมาย สถานการณ์นี้อาจอยู่ในส่วนหนึ่งเกิดจากชุมชนศาสนาหลักที่ให้บริการฟังก์ชั่นทางสังคมและตอบสนองความต้องการทางด้านจิตวิทยาพื้นฐานที่สุด

เพื่อความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยศาสนาทั้งหมดตอบสนองฟังก์ชัน - วิญญาณเดียวกันกับแผนที่ ถนน พัฒนาจิตใจ และเพื่อบำรุงและเสริมสร้างวุฒิภาวะทางจิตวิญญาณ พระและอื่น ๆช่วยให้มืออาชีพล้มเหลวในความรับผิดชอบของพวกเขาหากพวกเขาไม่ได้รับทราบและเข้าร่วมกับจิตวิญญาณของค่าใช้จ่ายของพวกเขา .

ศาสนาให้บริการหลายด้าน การทำงานพวกเขาจะ indivisibly พัวพันกับมนุษย์วิวัฒนาการและการค้นหาความหมาย เป็นมนุษย์วิวัฒนาการ ดังนั้นความเชื่อของพวกเขาต้องการที่จะพัฒนาขึ้นจาก egocentrism โลก centrism ขณะนี้ยังอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากสมบูรณ์แน่นอนในความอดทนต่อความคลุมเครือ คือ ดีทริช บอนโ ฟอร์ดู ( เป็นที่ยกมาโดยฟองน้ำ 2001 ) มีมุมมองเกี่ยวกับวุฒิภาวะทางจิตวิญญาณ :

ของเรามาอายุทำให้เราจริงรู้สถานการณ์ของเราก่อนที่พระเจ้า พระเจ้าจะทำให้เรารู้ว่า เราต้องเป็นผู้ที่จัดการชีวิตของเราได้โดยไม่ต้องพระเจ้า พระเจ้าที่อยู่กับเรา เป็นพระเจ้าผู้ทรง forsakes เรา พระเจ้าที่ช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ในโลกโดยสมมติฐานของพระเจ้า คือ พระเจ้า ก่อนที่เรายืน อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่พระเจ้าและพระเจ้าที่เราอยู่โดยปราศจากพระเจ้า